วันที่ 14 สิงหาคม 2567 นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า 1ในหลักฐานสำคัญที่รู้อยู่แล้ว ยังดันทุรังตั้งคนที่ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม ชัดเจนว่า ผู้เสนอตั้งนั้นมีความไม่สุจริต และผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ทั้งนี้นายสมชาย ได้แนบ หนังสือ สำนักกฎหมายและวิชาการศาลยุติธรรม เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๑ ลงนาม โดย นายพินิจ สุเสารัจ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เรียน นายกสภาทนายความ เรื่อง ขอให้ลบชื่อทนายความออกจากทะเบียนทนายความ พร้อม สำเนาคำสั่งศาลฎีกาที่ ๔๙๙๙๙ / ๒๕๕๑ จำนวน ๒๑ แผ่น

โดยมีใจความว่า ด้วยศาลฎีกาได้มีคำสั่งลงโทษ....โดยให้จำคุกฐานละเมิดอำนาจศาจคนละ ๖ เดือน เนื่องจากบุคคลดังกล่าวนำถุงกระดาษที่บรรจุเงินประมาณ ๒ ล้านบาท มอบให้เจ้าหน้าที่แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงดำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา โดยมีเจตนาจงใจให้กระทำการอันมิชอบต่อหน้าที่ และให้ดำเนินการตามกฎหมายแก่บุคคลดังกล่าวในความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๔ หรือความผิดอื่นต่อเจ้าพนักงานต่อไป รายละเอียดปรากฏตามลำเนาคำค้าสั่งตามสิ่งที่ส่งมาด้วย

สำนักงานศาลยุติธรรมพิจารณาแล้วเห็นว่า บุคคลทั้งสามประกอบอาชีพทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย การกระทำของบุคคลทั้งสามเกิดขึ้นที่ศาลฎีกาซึ่งเป็นศาลสูงสุดของประเทศ ทำให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อถือและความศรัทธาในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรในอำนาจตุลาการ ดังนั้น จึงเป็นการกระทำที่เสื่อมเสียมเสียงชีพทนายความ ซึ่งเป็นการผิดมรรยาททนายความ ประกอบกับการที่ศาลลงโทษจำคุกมิใช่เป็นการกระทำโดยประมาทหรือความผิดผิดลหุโทษและคดีถึงที่สุดแล้ว

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการลบชื่อบุคคลทั้งสามออกจากทะเบียนทนายความ ตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. ๒๕๒๘ ต่อไป