"ปกรณ์วุฒิ"ชี้หากตั้ง"ครม.ใหม่"ล่าช้า ยิ่งหน่วงงานสภาฯทำชะงัก หวัง"นายกฯอิ๊งค์"มาตอบกระทู้ ให้เกียรติตัวแทนปชช. ขอรอดูเชิง"พรรคประชาชน"ส่งชื่อชิง"รองปธ.สภาฯคนที่ 1" สานงาน"หมออ๋อง"
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงการทำงานในสภาฯ ของฝ่ายค้าน หลังได้นายกฯ คนใหม่ ว่า วาระการประชุมในวันที่ 22 ส.ค.นี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้บรรจุวาระกระทู้ถาม เข้าใจว่าคงไปปรึกษาหารือถึงข้อกฎหมายต่างๆ และอาจจำเป็นต้องรอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ เข้ามาแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อนถึงจะพิจารณาวาระกระทู้ถามได้ ก็หวังว่านายกฯ คนใหม่จะมาตอบกระทู้ เพราะเห็นว่านายกฯ ต้องยึดโยงกับสภาที่เป็นอำนาจในระนาบเดียวกัน นายกฯ ก็ควรที่จะเข้ามาสภาฯ เพื่อให้ ส.ส.ตรวจสอบการทำงานและตั้งคำถามที่สำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ จึงคาดหวังว่านายกฯ คนใหม่ จะเข้ามาต่อกระทู้และให้เกียรติสภา ให้เกียรติตัวแทนของประชาชน
เมื่อถามว่า การที่ยังไม่มี ครม.ชุดใหม่ และรองประธานสภาฯ คนที่ 1 จะทำให้งานสภาฯ ชะงักหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ถ้ายังไม่มี ครม.อาจทำให้งานสภาฯ บางอย่างชะงักลงไปบ้าง แต่บางเรื่องเรายืนยันว่าทำต่อได้ แต่อาจจะมีข้อกังวลเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ว่า ครม.รักษาการ ทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งเป็นเรื่องของทางราชการที่ต้องตรวจสอบความแน่นอน หากบางอย่างไม่ชัดเจนก็คงไม่อยากให้ดำเนินการต่อ ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ที่ยังว่างอยู่นั้น ตนคิดว่าควรจะมีโดยเร็ว เพราะการมีแค่ประธาน และรองประธานสภาฯ คนที่ 2 สลับกันทำหน้าที่ในวันที่มีการประชุมยาวนาน ทั้ง 2 ก็ทำงานหนักเหมือนกัน จึงคิดว่าต้องมีคนมาช่วยทำหน้าที่และในที่ประชุม และงานที่ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ทำค้างไว้ก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินการต่อ และรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ยังมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องร่างกฎหมายต่างๆ ด้วย ซึ่งเกี่ยวพันกับการประชุมสภาโดยตรง รวมถึงระบบไอทีของสภาด้วยที่นายปดิพัทธ์ทำไว้ ก็ควรจะมีคนมารับช่วงงานนี้ต่อ
เมื่อถามว่า พรรคประชาชนเตรียมส่ง นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ต้องแยกเป็น 2 ส่วนก่อน ส่วนแรกคือจะส่งหรือไม่ส่ง เรายังไม่ได้ตัดสินใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าจะส่งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลา โดยเฉพาะการแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้าน ตนคิดว่าคงต้องดูจังหวะเวลาตอนนั้น ว่าเหมาะสมหรือไม่อย่างไรที่จะส่งคนชิงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ส่วนที่ 2 คือจะส่งใคร พรรคประชาชนก็ยังไม่ได้สรุป มีการหยิบยกชื่อในวง ส.ส.ว่ามีชื่อใดบ้างที่มีความเหมาะสม ซึ่งตอนนี้ก็เหลือประมาณ 3 - 4 ชื่อ ที่หยิบยกขึ้นมาคุยกัน ยังไม่ได้มีความชัดเจนใดๆ
เมื่อถามว่า จะติดข้อกฎหมายหรือไม่ ระหว่างที่จะต้องเลือกผู้นำฝ่ายค้านกับ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 เพราะอาจเสียตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งไป นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า สิ่งที่ตนพูดคือการที่จะส่งหรือไม่ส่ง ชิงรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ต้องดูจังหวะเวลาว่าในการเสนอผู้นำฝ่ายค้าน ไปถึงไหนแล้ว เพราะขณะนี้เอกสารจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ต้องยืนยันกลับมายังสภาฯ ว่าเราคือ ส.ส.พรรคประชาชน กกต.ยังไม่ส่งกลับมา ฉะนั้น ขนาดนี้ยังไม่มีอะไรเป็นทางการทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า จะต้องเลือกหรือไม่ระหว่างรองประธานสภาฯ คนที่ 1 กับผู้นำฝ่ายค้าน นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เราต้องการตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน และถ้ามองย้อนกลับไปในอดีตมีหลายครั้ง ที่มีพรรคชัดเจนด้วยตัวเองอยู่แล้ว ว่ากำลังจะเป็นฝ่ายค้าน และได้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านแต่ก็ส่งชื่อแข่งชิงประธานสภา หรือรองประธานสภาด้วย เพื่อแข่งกับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งตนคิดว่าเป็นเรื่องปกติของสภา เพราะมองเห็นว่าใครที่อาจจะมีความเหมาะสมมากกว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลส่งรายชื่อมา แม้เราเป็นเสียงส่วนน้อยโหวตไปอย่างไรก็แพ้ ดังนั้น จึงต้องมีจุดยืนบางอย่างที่เราจะต้องยืนยัน โดยเฉพาะสิ่งที่นายปดิพัทธ์ทำไว้ ประชาชนสามารถมองออกได้ว่า ไม่เคยมีรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 คนไหน ใช้อำนาจหน้าที่ เพื่อทำในสิ่งที่นายปดิพัทธ์ทำ จึงมองว่าควรจะสานต่อเพื่อประโยชน์ของสภา
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี