วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
อภิปรายนอกสภา!‘อดีตขุนคลัง’ชำแหละ 4 ข้อดีข้อเสีย‘ดิจิทัลวอลเล็ต’

อภิปรายนอกสภา!‘อดีตขุนคลัง’ชำแหละ 4 ข้อดีข้อเสีย‘ดิจิทัลวอลเล็ต’

วันพุธ ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2567, 08.36 น.
Tag : ประชุมสภา ขุนคลัง ธีระชัยภูวนาถนรานุบาล อภิปรายนอกสภา งบ68 ดิจิทัลวอลเล็ต เงินดิจิทัล
  •  

อภิปรายนอกสภา!‘อดีตขุนคลัง’ชำแหละ 4 ข้อดีข้อเสีย‘ดิจิทัลวอลเล็ต’

4 กันยายน 2567 นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “อภิปรายนอกสภา-2: เรื่องข้อดีข้อเสียดิจิทัลวอลเล็ต” ระบุว่า...


อภิปรายนอกสภา-2: เรื่องข้อดีข้อเสียดิจิทัลวอลเล็ต

เมื่อวันที่ 5 ส.ค. มีบทความใน FT เกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของพรรคเพื่อไทย โดยโปรเฟสเซอร์มหาวิทยาลัยคอร์เนล (ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัย Top 10 ของสหรัฐ)

เขาเห็นว่า ถ้าทำโครงการนี้สำเร็จ ก็จะเปลี่ยนโฉมระบบการเงินในไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจติดตาม แต่ในขณะเดียวกัน กรณีประเทศใดที่จะใช้นโยบายทำนองนี้ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ

แนวคิดของโครงการทำนองนี้คือ รัฐจะสามารถควบคุมวิธีการใช้เงินที่แจกได้อย่างละเอียด เช่น กำหนดเวลาที่ต้องใช้เงิน (คือทำให้เงินหมดอายุเมื่อพ้นเวลาหนึ่ง) หรือกำหนดให้วงเงินลดลงไปเรื่อยๆ ถ้าหากผู้รับเงินแจกไม่รีบนำไปใช้จ่าย (คือทำให้เงินมีดอกเบี้ยชนิดที่ติดลบ) หรือกำหนดห้ามใช้ซื้อสินค้าบางชนิด เช่น เหล้า บุหรี่ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี เขาเตือนว่า เงินดิจิทัลที่ออกโดยบริษัทเอกชนตามคำสั่งของกระทรวงคลังดังกล่าว อาจทำลายความเชื่อถือในเงินปกติที่ออกโดยแบงค์ชาติ

ถ้าเงินดิจิทัลแบบนี้ขยายใหญ่โต ก็จะกลับทำให้แบงค์ชาติเปลี่ยนบทบาท จากปัจจุบันที่เป็นผู้ออกเงินตรา ไปเป็นผู้ทำหน้าที่เพียงแต่เป็นเอเยนต์ของรัฐ โดยรัฐเป็นผู้ออกเงินตราเสียเอง]

ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ประธานสภาพัฒน์ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับบทความนี้ในลิงค์ข้างล่าง

ผมตั้งข้อสังเกตดังนี้

1.จะต้องแก้ไขกฎหมายเงินตราเสียก่อน

กฎหมายเงินตราบัญญัติให้แบงค์ชาติเป็นผู้ออกธนบัตร โดยมาตรา 14 ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีอำนาจจัดทำจัดการ และนำออกใช้ซึ่งธนบัตรของรัฐบาล โดยรัฐมนตรีเป็นผู้ประกาศ ชนิด ราคา สี ขนาด และลักษณะอื่น ๆ ของธนบัตร และมาตรา 9 ห้ามมิให้ผู้ใดทำ จำหน่าย ใช้ หรือนำออกใช้ซึ่งวัตถุหรือเครื่องหมายใด ๆ แทนเงินตรา เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี

ดังนั้น เงินดิจิทัลที่ออกโดยบริษัทเอกชนตามคำสั่งของกระทรวงคลังซึ่งมีเนื้อหาทางเศรษฐกิจเป็นเงินตราอย่างหนึ่ง จึงต้องขออนุญาตจากรัฐมนตรีผ่านแบงค์ชาติ

แต่ถ้ารัฐบาลต้องการให้กระทรวงคลังทำหน้าที่ออกเงินดิจิทัล ที่เป็นระบบคู่ขนานกับระบบธนบัตรที่ออกโดยแบงค์ชาติ อันจะเป็นการเบียดเข้าไปในกรอบอำนาจหน้าที่ของแบงค์ชาติ นั้น รัฐบาลก็จะต้องแก้ไขกฎหมายเพื่อให้อำนาจกระทรวงคลังทำหน้าที่นี้เสียก่อน

2.ไม่มีประเทศไหนทำเช่นนี้

กรณีประเทศตะวันตกที่มี stable coin เป็นเงินคริปโทชนิดหนึ่งที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชน ซึ่ง stable coin เหล่านี้เป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้เกิด smart contract ตามที่คุณทักษิณกล่าวในการแสดงวิสัยทัศน์ นั้น

ผมขอเรียนว่า stable coin เหล่านี้ในประเทศตะวันตก ออกโดยบริษัทเอกชนกันเอง โดยไม่มีอำนาจพิเศษที่กระทรวงคลังของประเทศนั้นมอบให้ใดๆ และขณะนี้ก็ยังไม่มีกฎหมายออกมาควบคุมการดำเนินการ stable coin แบบนี้ จึงมักเกิดปัญหา บางคอยน์ที่โยงกับสกุลดอลลาร์ ถูกกล่าวหาว่ามีทรัพย์สินสกุลดอลลาร์หนุนหลังไม่เต็ม 100%

ดังนั้น กรณีเงินดิจิทัลที่ออกโดยบริษัทเอกชนไทยตามคำสั่งของกระทรวงคลังไทย จึงเป็นโมเดลที่ยังไม่มีประเทศใดในโลกทำกันเลย จะแหวกแนวสุดๆ

ส่วนกรณีที่มีการออก Central Bank Digital Currency (CBDC) นั้น ล้วนออกโดยธนาคารชาติของประเทศนั้นๆ ไม่ใช่ออกโดยบริษัทเอกชนตามคำสั่งของกระทรวงคลังของประเทศนั้น

3.ต้องไม่มั่วนโยบายการคลังปะปนกับนโยบายการเงิน

กรณีที่รัฐบาลต้องการแจกเป็นเงินดิจิทัลเพื่อให้สามารถควบคุมการใช้เงินแบบที่โฟกัสเงื่อนไขได้ นั้น ในกระบวนการปกติปัจจุบัน รัฐบาลควรเอาเงินปกติไปมอบให้แบงค์ชาติ เพื่อแลกขอให้แบงค์ชาติออกเป็น CBDC แล้วส่งไปให้แก่ประชาชนอีกทอดหนึ่ง ซึ่งจะเป็นการแยกกรอบนโยบายการคลังไม่ให้ปะปนกับนโยบายการเงิน อันเป็นไปตามครรลองปกติในทุกประเทศ

แต่ถ้ารัฐบาลไทยไปแก้ไขกฎหมายให้กระทรวงคลังมอบอำนาจพิเศษให้แก่บริษัทเอกชนเป็นผู้ออกเงินดิจิทัลให้แก่ประชาชนแทนแบงค์ชาติ นั้น จะเป็นการเอากรอบนโยบายการคลังไปมั่วปะปนกับนโยบายการเงิน ซึ่งมีแต่จะทำให้ความมั่นใจในสกุลบาทตามปกติลดลงเพราะเป็นการลิดรอนอำนาจหน้าที่ของแบงค์ชาติ เป็นอันว่า รัฐบาลไทยจะทำให้ทั่วโลกขาดความมั่นใจในนโยบายการเงินของแบงค์ชาติไทยด้วยน้ำมือของรัฐบาลเอง

4.การใช้บล็อกเชนจะสร้างปัญหา

คุณทักษิณกล่าวในการแสดงวิสัยทัศน์ว่า การแจกรอบที่สอง จะแจกเป็นเงินดิจิทัล และน่าจะด้วยเหตุนี้ รัฐบาลรักษาการณ์จึงเพิ่งโอนย้ายงบประมาณของสถาบันการเงินเฉพาะของรัฐ 5 แห่ง วงเงินรวม 35,000 ล้านบาท ไปใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัล

ผมขอเรียนให้ท่านทราบว่า กรณีเงินดิจิทัลที่ออกโดยบริษัทเอกชนไทยตามคำสั่งของกระทรวงคลังไทย ที่ขับเคลื่อนโดยบล็อกเชน นั้น จะมีปัญหาว่าการอนุมัติผ่านรายการใช้เวลานาน ตัวอย่างกรณีบิตคอยน์ใช้เวลาต่อรายการละ 10 นาทีกว่าจะยืนยันรายการโอนบิตคอยน์ได้สำเร็จ และบางรายการต้องรอเป็นชั่วโมง

นอกจากนั้น การเชื่อมโยงจากระบบบล็อกเชนเข้าไปในบัญชีเงินฝากของประชาชนแต่ละคนในแบงค์พาณิชย์ต่างๆ นั้น จะไปก่อความเสี่ยงในระบบคอมพิวเตอร์ของแบงค์พาณิชย์ จึงจะต้องได้รับความเห็นชอบจากแบงค์พาณิชย์และแบงค์ชาติเสียก่อน

อนึ่ง กรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2568 ลงคะแนนเสียงส่วนใหญ่อนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการ โดยโอนย้ายงบประมาณของสถาบันการเงินเฉพาะของรัฐ 5 แห่ง วงเงินรวม 35,000 ล้านบาท ไปใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัล นั้น ผมคาดว่า สส. ที่ยกมือลงมติเห็นชอบดังกล่าว คงไม่ได้เชิญให้ตัวแทนกระทรวงการคลังมาชี้แจงว่า เงินดิจิทัลที่จะแจก จะขับเคลื่อนโดยบล็อกเชนหรือไม่ และกระทรวงการคลังจะแก้ปัญหาการผ่านรายการล่าช้าได้อย่างไร

ถ้าท่านไม่ได้เชิญตัวแทนกระทรวงการคลังมาชี้แจง ก็น่าเป็นห่วงว่า ที่ท่านยกมือลงมติเห็นชอบดังกล่าว ท่านได้ทำหน้าที่กรรมาธิการอย่างถูกต้องรอบคอบครบถ้วนแท้จริง หรือไม่?

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ธนกร\'ขอบคุณรัฐบาล! ชะลอจ่ายเงินดิจิทัลฯเฟส 3 ไปก่อน 'ธนกร'ขอบคุณรัฐบาล! ชะลอจ่ายเงินดิจิทัลฯเฟส 3 ไปก่อน
  • วัยโจ๋รอเก้อ! เงินหมื่นเฟส 3 ดิจิทัลวอลเล็ต ยังไม่เข้า ครม. ขอฟังความเห็นก่อน วัยโจ๋รอเก้อ! เงินหมื่นเฟส 3 ดิจิทัลวอลเล็ต ยังไม่เข้า ครม. ขอฟังความเห็นก่อน
  • ดันสุดตัว!‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’จ่อเข้าคิวแรกหลังเปิดสภา รัฐบาลพร้อมดีเบต ดันสุดตัว!‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’จ่อเข้าคิวแรกหลังเปิดสภา รัฐบาลพร้อมดีเบต
  • \'อดีตรมว.คลัง\' แนะ \'นายกอิ๊งค์\' หยุดขายฝันกาสิโน เร่งแก้ปัญหาปากท้องเร่งด่วนดีกว่า 'อดีตรมว.คลัง' แนะ 'นายกอิ๊งค์' หยุดขายฝันกาสิโน เร่งแก้ปัญหาปากท้องเร่งด่วนดีกว่า
  • ‘ขาโจ๋’ลุ้น! 6 พ.ค.คลังเสนอครม.เคาะแจกเงินหมื่น3‘เฟสวัยรุ่น’ ‘ขาโจ๋’ลุ้น! 6 พ.ค.คลังเสนอครม.เคาะแจกเงินหมื่น3‘เฟสวัยรุ่น’
  • ‘สกลธี’สะกิด‘แจกเงินหมื่น’ พายุหมุนทางเศรษฐกิจหรือละลายแม่น้ำ? ‘สกลธี’สะกิด‘แจกเงินหมื่น’ พายุหมุนทางเศรษฐกิจหรือละลายแม่น้ำ?
  •  

Breaking News

เริ่มแล้ว!!! การแข่งขันเรือใบ Trat Regatta 2025 ระดับนานาชาติครั้งแรกในจังหวัดตราด

'โฆษก​ มท.'แจงแล้ว! ​ปมเรียก​สรรพนาม'คุณลูกค้า'แทน'คุณลุง​-​คุณป้า'

ด่วน!เปิดชื่อ 55 สว. เรียกรับทราบข้อหาปม'คดีฮั้ว' แบ่งเป็น 3 ลอต

ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติ'แพทยสภา'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved