วอนสงสารบ้าง/อย่าฟ้องเยอะเลย

‘นายกฯอิ๊งค์’ครวญ

เร่งทำนโยบายแถลงต่อสภา

แบ่งงานให้รองนายกฯ6คนแล้ว

รมต.ป้ายแดงแห่เข้าทำเนียบ

ตรวจRT-PCRก่อนถวายสัตย์

นายกฯ“อิ๊งค์”ถกจัดทำร่างนโยบายรัฐบาล เข้าครม.นัดพิเศษยันสานต่อยุคเศรษฐาโอด!สงสาร“นายกฯ อายุน้อย”อย่าฟ้องร้องกันเยอะเลยอุทานใช้คำแรง“ครม.สืบสันดาน”วอนขอให้ดูที่ความตั้งใจ ลั่นนั่งหัวโต๊ะไม่พร้อมข่มเหงใคร แต่พร้อมรับฟังให้เกียรติทุกฝ่ายทำเนียบคึกคัก!รองนายกฯ-รมต.ชุดใหม่22คน ทยอยตรวจโควิด-19ก่อนเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯ‘ชูศักดิ์’คาดดูงานก.ม.เล็งแก้รธน.กำหนดมาตรฐานจริยธรรมให้ชัด ไม่ห่วงคดี‘นายกฯอิ๊งค์’เพราะศึกษาบทเรียนในอดีต‘อนุทิน‘หยันวาทกรรม‘ครม.สืบสันดาน’ฝืด ควรหมดได้แล้ว มั่นใจ’ซาบีดา’มีคุณสมบัติเหมาะนั่ง มท.3‘ธรรมนัส’ยกก๊วนออก กก.บห.พปชร.ตั้งแต่ 20 ส.ค.ผ่านนายทะเบียนพรรคการเมืองโดยตรง

เมื่อเวลา 10.15น.วันที่ 5กันยายน2567 ที่อาคารชินวัตร 3 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเดินทางเข้ามาปฎิบัติภารกิจโดยเปิดเผยว่าจะมาจัดทำร่างนโยบายรัฐบาลที่เตรียมเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นัดพิเศษในวันเสาร์ที่ 7กันยายนนี้

นายกฯอิ๊งค์เร่งจัดทำนโยบายรัฐบาล

น.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่าวันนี้ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะให้ได้ข้อสรุปทุกอย่างรวมถึงจะดูเรื่องของถ้อยคำเพื่อไม่ให้สะดุดแต่เรื่องของนโยบายเรียบร้อยแล้วและต้องมีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลได้ทยอยส่งมาแล้ว เมื่อถามว่า มีการปรับเปลี่ยนนโยบายบ้างหรือไม่ทั้งในส่วนของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล น.ส.แพทองธารกล่าวว่ายังดูไม่จบ วันนี้จะมีการประชุมเรื่องของนโยบายในส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้น ยังคงนโยบายเดิมแต่จะปรับรายละเอียดเล็กน้อยในส่วนของดิจิทัลวอลเล็ตและจะอธิบายบางนโยบายให้เข้าใจง่ายขึ้น ขอให้อดใจรอนิดนึง ขอยังไม่พูดรายละเอียดในตอนนี้

ยันนโยบายส่วนใหญ่สานต่อยุคเศรษฐา

ส่วนจะมีอะไรใหม่หรือเพิ่มเติมเข้ามาจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสินหรือไม่ นายกฯกล่าวว่าขอให้รอสักนิดนึงทั้งนี้ในส่วนของนโยบายค่อนข้างที่จะเหมือนเดิมเพื่อไม่ให้สะดุด และอยากให้ประเทศเดินหน้าต่อ

เมื่อถามถึงนโยบายกัญชาที่พรรคภูมิใจไทยยืนยันจะเดินหน้าต่อจะพูดคุยกันอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า รับทราบเรื่องนี้แล้วและจะมีการพูดคุยกันในรายละเอียด คิดว่าคุยกันได้แน่นอน ไม่มีอะไรซึ่งที่จริงได้มีการพูดคุยกับทำความเข้าใจกันอยู่แล้ว เหลือเพียงการเขียนลงในนโยบายให้เป็นลายลักษณ์อักษร

เมื่อถามถึงสนามการค้าไทยกับต่างประเทศ จะยังเดินหน้าสานต่อจากรัฐบาลนายเศรษฐาใช่หรือไม่ นส.แพทองธาร กล่าวยืนยันจะเดินหน้าต่อ และได้มีการพูดคุยกับหลายหน่วยงาน

ลั่นครม.พร้อมลุยทำงานเพื่อปท.-ปชช.

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีตั้งรองนายกรัฐมนตรี 6 คน จะแบ่งงานอย่างไรว่า ได้วางเอาไว้แล้วว่าจะให้ใครทำอะไร ขออีกนิดนึงแต่อยากให้เกิดความชัดเจนเกิดขึ้นเวลามอบหมายงานก็จะได้ตามกลับมาได้ชัดเจนขึ้นด้วย เมื่อถามว่า มุ่งหวังกับคณะรัฐมนตรีชุดนี้และตั้งเป้าหมายอย่างไรบ้าง นายกฯอุทานว่า“โอ้ว”ก่อนบอกว่าคิดว่าดีและคิดว่าดีมากๆ จริงๆทุกคนมีความพร้อมที่จะสานงานต่อ และคิดว่าเป็นพลังอะไรที่เรามารวมกันแล้ว และอยากจะทำเพื่อพี่น้องประชาชน อยากให้ประเทศไปต่อฉะนั้นหลายๆคน มีทั้งหน้าใหม่และหน้าเดิม ทุกคนก็พร้อมตรงนี้พร้อมยังปฎิเสธด้วยว่า ยังไม่มีการตั้งเงื่อนเวลาเพื่อวัดKPIในการทำงาน

ร้อง‘โห’ใช้คำแรง‘ครม.สืบสันดาน’

เมื่อถามว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์หน้าตาครม.เป็นการสืบต่อครอบครัวเพราะตัวเองไม่ได้ตำแหน่งแต่ให้ลูกให้เพื่อนให้ญาติแทนลักษณะอาจจะใช้คำแรงว่า “ครม.สืบสันดาน” นายกฯอุทานว่า “โห”ก่อนกล่าวว่า “แรงจริงๆด้วย” พร้อมกับหัวเราะและกล่าวว่าใช้คำแรงจัง จริงๆมีหลายรูปแบบและหลายๆ คนที่ไม่ใช่เป็นครอบครัว หรือเกี่ยวข้องกัน และมีหลายๆคู่ ที่เป็นครอบครัวต่อกันมา

“แต่อยากให้มองว่าเป็นความตั้งใจได้ไหมที่มันถ่ายทอดกันมาในคนใกล้ชิดคนรู้จัก เพราะหลายๆอย่าง ที่ต้องทำต้องใช้แรงผลักดัน อาศัยความภาคภูมิใจของคนข้างๆคนรอบๆฉะนั้นคำว่า เป็นครอบครัว หรือเป็นอะไร มันไม่ใช่ข้อเสีย มันเป็นเรื่องของแรงผลักดันให้กันมากกว่าโดยเห็นว่าคนหนึ่งทำเพื่อประเทศแบบนี้ อีกคนหนึ่งในครอบครัวก็มีแรงผลักดันเช่นกัน มันเป็นแบบนั้น”

โอด‘นายกฯอายุน้อย’อย่าฟ้องเยอะเลย

เมื่อถามว่าพอมีคำว่าคนในครอบครัวก็มีการมองถึงการครอบงำซึ่งนายกฯยังไม่ปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็มีเรื่องข้อหารวมถึงการฟ้องร้องก็มีมา น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “สงสารนายกฯบ้าง อย่าฟ้องอะไรเยอะเลย เป็นนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว และก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ ฉะนั้น อย่างที่บอกและให้สัมภาษณ์ไป บางทีเรื่องเล็กๆอย่าไปให้ความสำคัญอะไรมากเลย แม้แต่เรื่องการฟ้องร้องอะไรต่างๆคนฟ้องก็อย่าฟ้องเยอะเลยมันไม่ได้มีอะไรผิดแบบนั้นอยู่แล้ว ต้องค่อยๆ”

ไม่ข่มเหงใคร/พร้อมรับฟัง-ให้เกียรติ

เมื่อถามว่า ด้วยความที่นายกฯอายุน้อยและในสถานะต้องนั่งหัวโต๊ะและต้องเป็นประธานบอร์ดโดยตำแหน่งในหลายๆคณะจะประหม่าตัวเองหรือกังวลหรือไม่ นายกฯกล่าวว่าเอาจริงๆตนได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้แล้ว โดยการโหวตจากสภา ต้องขอบพระคุณทุกท่าน

“การที่ดิฉันเป็นตำแหน่งนายกฯไม่พร้อมที่จะข่มเหงใคร แต่พร้อมที่จะรับฟังและพร้อมที่จะให้ความเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้น คิดว่าหลักคิดตรงนี้ มันจะทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้อย่างสมูทคิดอย่างนั้น”นายกฯกล่าวย้ำ เมื่อถามย้ำว่าจะทำให้เกิดความบั่นทอนในการทำงานหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ก็ไม่ ก็โอเคนะคะ ทุกคนมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ ถ้าทุกคนคิดในใจว่า วิจารณ์ด้วยเหตุผลไม่ได้ใช้อารมณ์ คิดว่าน่าจะมี แต่โอเคมันเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว เพียงแต่ขอกำลังใจกันบ้างแค่นั้นเอง”

‘ทักษิณ’เลี่ยงไปชั้นใต้ดินตึกชิน3

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวที่อาคารชินวัตร 3ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ามาปฏิบัติภารกิจช่วงเช้าเวลา10.15น.

จากนั้นเวลา 11.28น.มีรายงานว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้เดินทางเข้ามายังอาคารชินวัตร 3โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าตั้งแต่มีการถูกวิจารณ์เรื่องการครอบงำ ทำให้นายทักษิณได้เข้าทางชั้นใต้ดินของอาคารโดยไม่ได้เข้าทางด้านหน้าอาคาร

‘ภูมิธรรม’คุมมั่นคง-‘พิชัย’คุมศก.-กษตร

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ภายหลังที่ นางสาวแพทองธาร เข้าทำงานที่ อาคารชินวัตร 3 ได้มีการหารือกับคณะทำงาน เพื่อแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี 6คน โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะกำกับดูแลกระทรวงเกี่ยวกับด้านความมั่นคง รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งหมดโดยนายภูมิธรรม ถือเป็นบุคคล ที่มีความอาวุโส ได้รับความไว้วางใจ จากนายกรัฐมนตรีและพรรค อีกทั้งยังทำหน้าที่ประสานงานและผู้จัดการรัฐบาล คอยช่วยงานนายกรัฐมนตรีเป็นหลัก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกำกับดูแล งานกระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข ขณะที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะกำกับดูแลงานในส่วนของกระทรวงด้านเศรษฐกิจ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงบประมาณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กำกับดูแลงานด้านสังคม กระทรวงดิจิทัลฯ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอนุทิน ชาญวีรกูล กำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม กระทรวงแรงงานและกระทรวงศึกษาธิการด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรีรัฐวิภาค กำกับดูแล กระทรวงพลังงาน กระทรวงยุติธรรม ยกเว้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ทำเนียบคึกครม.ชุดใหม่เข้าตรวจโควิด19

ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.)ได้แจ้งให้ รองนายกรัฐและรัฐมนตรีชุดใหม่ในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทยอยเดินทางเข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19โดยวิธี RT-PCRจากทีมแพทย์ของโรงพยาบาล บำราศนราดูร ก่อนเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

โดยมีรัฐมนตรี 22 คน ทยอยเดินทางมาตรวจซึ่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ได้เดินทางมาถึงเป็นคนแรกในเวลา 09.15น.จากนั้นรัฐมนตรีคนอื่นๆ ทยอยเข้าตรวจอาทิ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.คลัง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายวราวุธศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย

ส่วนรัฐมนตรีคนอื่น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข จะตรวจด้วยตัวเอง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน แจ้งตรวจด้วยตัวเองและจะนำผลมาแสดง

‘นฤมล’ชุดฟ้าปัดตอบปมการเมือง

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ได้สวมชุดสีฟ้าและรองเท้าสีฟ้า ไม่ได้ใส่เครื่องประดับใดๆรวมถึงแหวนและกำไรเครื่องรางที่เคยใส่ในสมัยดำรงตำแหน่งรมช.แรงงานทั้งนี้ นางนฤมลมีสีหน้ายิ้มแย้มเมื่อถูกถามว่าได้เดินทางเข้าไปยังกระทรวงเกษตรฯแล้วหรือไม่นางนฤมลตอบว่า“ไม่ได้ไป”เมื่อถามว่าตื่นเต้นหรือไม่ที่ได้มาคุมกระทรวงเกษตรฯซึ่งเป็นกระทรวงใหญ่เกรดเอนางนฤมลกล่าวว่า“เดี๋ยวค่อยคุยกัน”จากนั้น นางนฤมล เดินไปยังห้องตรวจRT-PCR ซึ่งมีรายงานก่อนที่ นางนฤมล จะเดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาล ได้เดินทางไปที่กระทรวงเกษตร และสหกรณ์เพื่อดูห้องทำงานแล้ว

‘ชูศักดิ์’คาดได้รับผิดชอบงานกฎหมาย

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับมอบหมายว่าให้ดูแลหน่วยงานใดและนายกรัฐมนตรีน่าจะมอบหมายให้ดูเรื่องกฎหมาย ที่จะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีและสภาฯ ส่วนจะได้ดูแลสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีการมอบหมาย ตนคิดว่างานสำคัญคือเรื่องการผลักดันการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญหลายฉบับรวมถึงนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ต้องการนำเสนอเช่นกฎหมายซอฟท์พาวเวอร์

เล็งแก้รธน.ตึกรอบจริยธรรมให้ชัด

เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีการตีกรอบเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรมให้มีความชัดเจนมากขึ้นหรือไม่นาย นายชูศักดิ์ กล่าวว่า หลักการของเราคือให้สภาร่างรัฐธรรมนูญร่าง (สสร.) รัฐธรรมนูญเป็นผู้ดำเนินการ การแก้ไขอะไรยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดตอนนี้ ส่วนสภาจะเสนอแก้อะไรก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้

“มาตรฐานเรื่องจริยธรรม ผมเคยบอกว่าปัญหาคือความไม่ชัดเจน และเกิดปัญหาในการตีความ ซึ่งเป็นปัญหาของการเขียนรัฐธรรมนูญ และที่วิตกการหากตีความกันอย่างกว้างขวางอาจจะทำให้การบริหารประเทศเป็นไปไม่ได้ เช่น มีคนเคยถูกใบสั่งเมื่อ20ปีที่แล้ว มาถูกรื้อฟื้นว่าฝ่าฝืนกฎจราจรจะเป็นความผิดมาตรฐานจริยธรรมหรือไม่มันก็ยากแก่การชี้วัด ผมมองว่าเรื่องนี้ต้องทำอย่างไรให้เป็นมาตรฐาน ไม่ต้องตีความอะไรมากมาย ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการเขียนกฎหมาย ในอนาคตก็ให้เขาไปว่ากันเรื่องการแก้ไขถ้อยคำซึ่งหากมีการตั้งสสร.ก็ต้องให้เขาไปคิด”นายชูศักดิ์ ย้ำ

‘อนุทิน’ยันเดินหน้าต่อยอดนโยบาย

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวถึงหน้าตา คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่าครม.ชุดนี้คนหลัก ยังดำรงตำแหน่งในหน่วยงานความรับผิดชอบเดิม ภาพรวมคงต่อยอดนโยบายไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เชื่อว่าช่วงการทำงานในระยะเวลาที่เหลือของสภาชุดนี้จะสามารถผลักดันนโยบายต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติออกมาได้ ด้วยความร่วมมือกันของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค

หยันวาทกรรม‘ครม.สืบสันดาน’ฝืด

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น‘ครม.สืบสันดาน’นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นศัพท์กฎหมาย เป็นคำที่อยู่ในกฎหมายอยู่แล้ว วาทกรรมเหล่านี้ควรจะหมดไป เพราะมันฝืดแล้ว คนที่จะมาเป็น ครม.ได้จะต้องมีการสืบประวัติดูคุณวุฒิ วัยวุฒิ และวุฒิการศึกษา กรณีพรรคภูมิใจไทยที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ขอถอนตัวไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรีชุดนี้ ไม่ได้บอกว่าต้องเอาลูกสาวตน เท่านั้น ในฐานะที่นายชาดาได้ดำรงตำแหน่งตรงนี้มาก่อนก็ให้สิทธิในการนำเสนอ “เมื่อนำเสนอมาแล้วเป็นน.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ เมื่อดูประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ประวัติส่วนตัวและการเมืองมั่นใจว่า มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ที่จะทำงานด้านนี้ได้ สำหรับการแบ่งงานในกระทรวงมหาดไทยคงไม่เปลี่ยนแปลงมาก”นายอนุทินกล่าว พร้อมพูดติดตลกว่า“คุณซาบีดาอายุ 39ปีเป็นรัฐมนตรี ตอนผมเป็นอายุ36ปี ไม่อยากจะคุย”

‘ซาบีดา’ไม่ตื่นเต้นนั่งมท.3แทน‘พ่อ

ด้านน.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย กล่าวว่าไม่ตื่นเต้นที่ต้องมาทำหน้าที่ในกระทรวงมหาดไทย เมื่อถามว่าเตรียมตัวอย่างไรกับการทำหน้าที่เพราะงานค่อนข้างหนัก น.ส.ซาบีดา ตอบว่าก็จะใช้ประสบการณ์ที่ติดตามการทำงานมาจากคุณพ่อ ส่วนนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรมช.มหาดไทยได้มีการฝากฝังอะไรหรือไม่ว่า ยังไม่มีอะไร ขอให้เข้าที่เข้าทางก่อนไม่รู้สึกตกใจที่ต้องมาทำหน้าที่แทนพ่อโดยพร้อมตั้งรับ น.ส.ซาบีดายังยืนยันว่าไม่กังวลกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ครม.ชุดนี้เป็น ครม.ครอบครัว เพราะไม่มี เมื่อถามย้ำว่านายชาดาอยากให้สานต่องานด้านใด น.ส.ซาบีดาตอบว่า“คุณพ่อก็บอกให้ทำงานเต็มที่ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ”ส่วนที่มีคนปรามาสถึงความสามารถในการทำงาน น.ส.ซาบีดาตอบว่า“ขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์”

‘พีระพันธุ์’ไร้ปัญหา’เอกนัฏ’เจอดราม่า

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสดราม่า นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เลขาธิการพรรคมาร่วมรัฐบาล’แพทองธาร ชินวัตร’ในอดีตเป็นแกนนำ กปปส.ออกมาขับไล่ตระกูลชินวัตรว่า ไม่มีปัญหา เราทำงาน เราก็ต้องรู้ว่าปัญหาหลักของประเทศคืออะไร เราก็ต้องเดินหน้าไปให้ได้ ที่สำคัญต้องสร้างความมั่นคงให้ประเทศ

“การทำงานทุกอย่าง มันไม่สามารถที่จะทำให้ถูกใจใครได้ทุกคนหรอก แต่เราก็ต้องทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ การทำงานแม้แต่ตัวเราเอง บางครั้งมันก็ไม่ได้ถูกใจเรา แต่เราก็ต้องทำ เพราะเราต้องคิดว่าสิ่งที่เรารับผิดชอบต่อบ้านเมืองมันสำคัญกว่าความรู้สึกของเรา”นายพีระพันธุ์ ระบุ และเมื่อถามต่อว่าในฐานะที่ร่วมรัฐบาลเป็นห่วงคดีที่มีการยื่นร้องนายกฯจะทำให้การทำงานรัฐบาลสะดุดหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนว่ามันไม่เกี่ยวกันหรอก สมัยที่แล้ว นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯก็โดนหลายเรื่อง เราก็ทำงานกันได้แต่ละกระทรวงก็เดินหน้าทำงานตามภารกิจ

‘ธรรมนัส’ยกก๊วนออกกก.บห.พปชร.

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)เปิดเผยว่ากลุ่มของตนได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐหลังจากได้ประกาศไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคโดยลาออกทันทีในวันที่ 20 สิงหาคม ทั้ง 6 คนประกอบด้วยร.อ.ธรรมนัส,นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร,นายอรรถกร ศิริลัทยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา ,นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี,นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์และนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส ซึ่งหนังสือลาออกทั้ง 6 คน ได้เขียนเรียนนายทะเบียนพรรคการเมือง ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2567 และให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ออกเอกสารฉบับนี้ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ลงเลขรับเมื่อวันที่29 สิงหาคม 2567 โดยเราไม่ได้แจ้งทางพรรค เราลาโดยตรงกับนายทะเบียนพรรคการเมือง นั่นคือเลขาธิการกกต.ทั้งนี้ร.อ.ธรรมนัสเปิดเผยอีกว่าขณะนี้กำลังดูข้อกฎหมายว่าจะออกจากพรรคอย่างไรแบบถูกกฎหมายแต่ยังคงสถานภาพเป็น ส.ส.อยู่