‘จตุพร’ลั่นเมื่อไม่มีทางเลือกอื่น ประชาชนต้องลงถนนหยุดสิ่งเลวร้ายทำลายบ้านเมือง เตือน‘สภา’ใช้พวกมากลากไป ไม่ทำหน้าที่ปกป้องชาติ ขณะที่องค์กรตรวจสอบชั้น 14 ดึงผลสอบล่าช้า ประชาชนย่อมไม่มีทางเลือก เชื่อถนนจะหยุดอำนาจตั้งบ่อน-ซุกอำพรางขายแผ่นดิน 99 ปีได้
6 กันยายน 2567 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์เมื่อวันที่ 5 ก.ย.67 ว่า หากองค์กรอิสระ อีกทั้งการเมืองระบบสภาไม่หยุดยั้งความเลวร้ายจากอำนาจฮุบขายแผ่นดินหาผลประโยชน์ได้แล้ว ประชาชนย่อมไม่มีทางเลือกอื่น จึงต้องลงถนนเพื่อปกป้องชาติ
ส่วนอุ๊งอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร บอกเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่พร้อมจะข่มเหงใครนั้น นายจตุพร แย้งว่า ในทางการเมืองเป็นคำสะท้อนก้นบึ้งจิตใจอย่างดี เพราะเป็นคำพูดซ่อนนัยยะว่าหลังการถวายสัตย์ฯ เริ่มปฏิบัติหน้าที่นายกฯสมบูรณ์ จากนั้นอีกไม่นานจะพร้อมลงมือข่มเหงใครก่อน เมื่อผลตรวจสอบนักโทษชั้น 14 และหน่วยงานเกี่ยวข้องเปิดเผยออกมา
อีกทั้งคาดว่าเมื่อผลสอบแพทย์ รพ.ตำรวจ กับ รพ.ราชทัณฑ์ ของแพทยสภาเปิดเผยต่อสังคม อาจพลิกเปลี่ยนเหตุการณ์การเมืองครั้งใหญ่ โดยคนอื่นที่เกี่ยวข้องจะออกนอกประเทศได้ สำหรับนายทักษิณ ชินวัตร ไม่มีทางออกได้เด็ดขาด ดังนั้นการจัดการผู้ครอบครองนายกฯ ลูกสาว แล้ว ย่อมสะเทือนถึงนายกฯ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากอะไร
นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้ประชาชนทุกฝ่ายที่ร่วมชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมาถูกหลอกทั้งสิ้น อีกอย่างการปล่อยให้คนหนีคุกอยู่ต่างประเทศ 17 ปีได้แสดงวิสัยทัศน์เปิดบ่อน และเช่าที่ดิน 99 ปี ซึ่งเป็นการขายชาติอย่างมีนัยยะสำคัญ ดังนั้นประชาชนต้องร่วมมือกันให้ได้เพื่อรักษาชาติบ้านเมืองเอาไว้ รวมทั้งหวังว่าองค์กรอิสระและหน่วยงานเกี่ยวข้องที่ทำหน้าที่ตรวจสอบควรปฏิบัติหน้าที่ปกป้องชาติจากความเลวร้ายให้ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยไม่ให้ประชาชนมาทำหน้าที่แทน
“แม้ภาคประชาชนยังไม่พร้อมในการต่อสู้และลงถนนชุมนุม แต่ถ้าระบบการเมืองในสภาใช้พวกมากลากไปและปกป้องผลประโยชน์ของชาติไม่ได้ จึงต้องใช้ระบบนอกสภามาทำหน้าที่แทน”
นายจตุพร กล่าวว่า กรณีชั้น 14 ที่มีคำร้องให้ตรวจสอบนั้น ได้ยินมาว่าจะจบได้ใน พ.ย.นี้ องค์กรอิสระตรวจสอบต้องทำให้เสร็จตามเวลา เพราะหากดึงเรื่องทำให้เวลาเนินช้าไป ครม.เพื่อไทย อาจเร่งดันบ่อนกาสิโน ดิจิทัลวอลเล็ต คอนโด 99 ปี เชื่อว่าสภาเอาไม่อยู่ ดังนั้นถ้าองค์กรอิสระจัดการล่าช้าแล้ว ความล่าช้าย่อมทำให้ประชาชนไม่มีทางเลือก
สิ่งสำคัญการตัดสินของประชาชนยังต้องระวังทหารเข้าแทรกด้วย ดังนั้นการออกแบบต่อสู้ของประชาชนจึงไม่ง่ายและคิดแบบสะใจไม่ได้ แต่ความเสียของชาติเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าประชาชนไม่ยอมให้ขายชาติ ไม่มีวันแลกบ่อนและที่ดิน 3 แสนไร่ในแลนด์บริดจ์ กับผลประโยชน์ของชาติน้อยนิด ประชาชนย่อมเลือกทางที่ยังไม่พร้อมจะเลือกก็ได้
นายจตุพร กล่าวว่า ทางเลือกสำคัญของประชาชนต้องการหยุดยั้งความเสียหายของชาติที่มาจากอำนาจทุนกับการเมืองที่หาทางเอาผลประโยชน์มหาศาล เมื่อการเมืองมีผลประโยชน์จะนำเงินซื้อเสียงพลิกกระแสนิยมที่ตกต่ำมาเป็นชนะเลือกตั้ง แล้ววนรอบย้ำกลับมาได้อำนาจอีกตามเดิม
“ฝ่ายค้านถ้าหยุดอำนาจและผลประโยชน์ที่ทำให้ชาติเสียหายในสภาไม่ได้ ต้องคิดถึงประชาชน ผมไม่ได้ชวน แต่ให้คิดกันเอาเอง เพียงจะบอกว่า ถ้าสภาหยุดความเลวร้ายไม่ได้ถนนจะหยุดได้และผมเชื่อมั่นประชาชน”
ส่วนสหายใหญ่-นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็น รมว.กลาโหม และรองนายกฯ คุมความมั่นคงนั้น นายจตุพร กล่าวว่า นายภูมิธรรม เมื่อครั้งเข้าป่าประกาศต่อสู้กับทุน ขุนศึก ศักดินา แต่ออกจากป่ามา ปัจจุบันอยู่กับทุนแล้วได้คุมขุนศึก ส่วนท่าทีกับศักดินาตนไม่รู้ความคิด
“แม้บิ๊กอ้วน บอกเป็นเรื่องเมื่อ 50 ปีมาแล้ว แต่ประเทศนี้เว้นที่กลาโหมกับรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงไว้ โดยการเมืองต้องรู้ ดังนั้น สหายของพรรคคอมมิวนิสต์และกองทัพปลดแอกทำศึกสงครามกับกองทัพไทยสูญเสียชีวิตฝ่ายละเป็นหมื่นศพ ย่อมต้องหลีกเลี่ยงพื้นที่เหล่านี้เช่นกัน”
นายจตุพร ยังกระตุ้นให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เร่งปราบปรามบ่อนการพนันออนไลน์ให้เป็นรูปธรรม อย่าได้ปล่อยให้ภารกิจสำคัญต่อบ้านเมืองเช่นนี้เงียบกริบ ราวกับมีความลึกลับมาหยุดความกระตือรือร้นในการทำงาน อย่างไรก็ตาม กระทรวงนี้แม้อยู่นอกสายตาประชาชน แต่มีผลประโยชน์มหาศาล ซึ่งนักการเมืองต้องการครอบครอง
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี