‘จิรายุ’มาแรงปาดหน้า‘จักรภพ’

เสียบโฆษกรบ.

ชงเข้าครม.รับรอง17กันยายนนี้

‘อุ๊งอิ๊งค์’ตามรอย‘เศรษฐา’

ไม่ขอรับเงินเดือนนายกฯ

จับตา“จิรายุ”แซงโค้งเบียด“จักรภาพ”นั่งโฆษกรัฐบาลคนใหม่ ขณะที่“อุ๊งอิ๊งค์”เดินตามรอยเศรษฐา ไม่ขอรับเงินเดือนนายกฯ “เทพไท”ชม 6 ฝ่ายค้าน 1 ฝ่ายรัฐบาล“ดาวเด่น”อภิปรายนโยบายครม.แพทองธารยก “ภคมน หนุนอนันต์” สส.บัญชีรายชื่อ ปชน. สุดยอดสส.ปักษ์ใต้ ฝีปากกล้า“นิด้าโพล”เช็คเรตติ้ง“รัฐบาลแพทองธาร”สะท้อนประชาชนหวั่นไม่ทำตามสัญญา เชื่อบทบาท“ทักษิณ”ฉุดคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทย

เมื่อวันที่ 15กันยายน2567 นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นัดแรก ในวันที่ 17ก.ย. ว่า จะเสนอรายชื่อเข้ามาในส่วนที่พร้อมแล้ว พยายามที่จะให้มีการเสนอชื่อเข้ามาให้เยอะที่สุด เพราะงานต้องเดินต่อแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นคนเดิม รวมถึงตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีน่าจะได้ในวันนั้นด้วย

“จิรายุ”เบียด“เจ๊เพ็ญ”นั่งโฆษกรบ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่จะมีการเสนอแต่งตั้งในวันที่ 17 ก.ย.เช่นเดียวกันนั้น เดิมที่มีชื่อนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และอดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดต ล่าสุดติดเงื่อนไขบางประการ ทำให้มีชื่อของนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีตสส.กทม.พรรคเพื่อไทย (พท.) ขึ้นมาเป็นแคนดิเดตถูกเสนอชื่อเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแทน โดยได้ยื่นใบลาออกจากกรรมการรัฐวิสาหกิจตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว

ภท.เสนอ“คารม”รองโฆษกฯตามเดิม

ขณะที่ตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โควตาพรรคร่วมรัฐบาลนั้นส่วนของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เสนอคนเดิม คือ นายคารม พลพรกลาง อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ นั่งในตำแหน่งเดิมโควตาพรรคภูมิใจไทย

ส่วนโควตากลุ่มร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรมว.เกษตรและสหกรณ์ สส.พะเยา อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีชื่อของนายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ อดีตผู้สมัคร สส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ไม่ประสงค์ส่งคนนั่งรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ

ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีรายงานข่าวว่า ขณะที่ได้ชื่อคนที่จะมาเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดเผย

“อุ๊งอิ๊งค์”ไม่รับเงินเดือนนายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะยึดแนวความคิดเดิม คือ การไม่รับเงินเดือนในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยจะมอบให้กับมูลนิธิต่างๆ เช่นเดียวกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นความคิดของ น.ส.แพทองธารมาตั้งแต่ต้นแล้ว

“เทพไทย”ชมฝ่ายค้านทำงานดี

ทางด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิป พร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊ก“เทพไท – คุยการเมือง” ในหัวข้อ “6 ฝ่ายค้าน 1 ฝ่ายรัฐบาล ที่อภิปรายได้ยอดเยี่ยม”ระบุว่า 6ฝ่ายค้าน1ฝ่ายรัฐบาล ที่อภิปรายได้ยอดเยี่ยมการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาการแถลงนโยบายของรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ผ่านพ้นไปแล้ว ผมได้ติดตามรับฟังการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาพบว่า มีสส.ฝ่ายค้าน 6 คน และสส.ฝ่ายรัฐบาล 1คน ที่อภิปรายได้ถูกใจผมเป็นพิเศษ คือ 1.นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้อภิปรายในประเด็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจ นำเสนอข้อมูลชัดเจน ตรงประเด็น ได้พัฒนาการอภิปรายเป็นระดับมืออาชีพ มีลูกล่อลูกชน และวิธีการนำเสนอก็น่าสนใจ สมกับเป็น หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรคประชาชน

2.นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร พรรคพลังประชารัฐ แม้ว่าจะเป็นสส. สมัยแรก แต่ได้ผ่านการเป็นนายกอบจ.มาแล้ว อภิปรายแบบประชดประชัน เสียดสีรัฐบาล ที่ตัดพรรคพลังประชารัฐออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จนถูกสส.พรรคเดียวกันประท้วง

ยก“ภคมน”ฝีปากเยี่ยม

3.นางสาวภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ได้อภิปรายแบบนักการเมืองภาคใต้ในอดีต ทั้งลีลาท่าทาง มีการเปรียบเปรยนำคำภาษาใต้มาสอดแทรกการอภิปราย ทำให้ดูน่าสนใจมากขึ้น

4.นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน อภิปรายแบบดุดัน สไตล์บู๊ล้างผลาญ ลีลาการอภิปรายดุเดือด เผ็ดร้อน ยกตัวอย่างบัญชีม้า เปรียบกับนายกม้าและรัฐมนตรีม้าได้อย่างเห็นภาพชัดเจน

“ชวน”สมฉายา“ใบมีดโกนอาบน้ำผึ้ง”

5.นายพริษฐ์วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แม้ว่าจะเป็นสส. สมัยแรก แต่เป็นผู้อภิปรายสรุปของฝ่ายค้าน มีวิธีการนำเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบ เป็นนักอภิปรายแนวบุ๋น ข้อมูลแน่นทำการบ้านมาดี

6.นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ถูกจับตาเป็นพิเศษว่า จะอภิปรายอย่างไร ได้ใช้ประสบการณ์อภิปรายได้อย่างคลาสสิก แนะนำ เสนอแนะ กระทบชิ่งเชื่อมโยงกับรัฐบาลระบอบทักษิณ ได้อย่างแนบเนียน สมกับฉายา“ใบมีดโกนอาบน้ำผึ้ง”

ขอให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์

ในส่วนของพรรครัฐบาล คงมีแต่นายสุทิน คลังแสง ผู้อภิปรายสรุปฝ่ายรัฐบาล ซึ่งยังอภิปรายได้แบบท็อปฟอร์มเหมือนเดิม หลังจากการไปอยู่ฝ่ายบริหาร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อกลับมาสู่สภา ทำหน้าที่อภิปรายเก็บข้อมูล ชี้แจง ตอบโต้ทุกเม็ด ทุกประเด็นสมกับมือสรุปของฝ่ายรัฐบาลคนเดิม

ยังมี สส.อีกหลายคนที่อภิปรายดี มีเนื้อหาสาระ แต่อาจจะไม่ครบเครื่อง หรือตรงใจของผม จึงนำเสนอเฉพาะบุคคลที่ถูกใจเป็นการส่วนตัว และขอให้กำลังใจทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ขอให้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสมบูรณ์ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนต่อไป

“พิชัย”ผิดหวัง“โรม”คุณภาพตก

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจในการอภิปรายของนายรังสิมันต์ โรม ที่ต่ำกว่าคุณภาพมากกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา ทั้งที่ตนเองเพิ่งชื่นชมนายรังสิมันต์ในสภา เทียบเคียงกับ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล และนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ที่อภิปรายมีข้อสังเกตดีเยี่ยม เปรียบเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคแทนเทียบชั้น นายพิธาลิ้มเจริญรัตน์, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, นายปิยบุตร และ นางสาวพรรณิการ์ วานิช แต่กลับต้องผิดหวังและไม่คิดว่านายรังสิมันต์ ที่เป็นตัวแทน สส.คนรุ่นใหม่ จะกลายพันธุ์เป็น สส. รุ่นเก่า ใช้เพียงการสร้างวาทกรรมสาดโคลน และพาดพิงให้คนอื่นเสียหายเท่านั้น

ซัดใช้วาทะกรรมที่ไร้วุฒิภาวะ

“ข้อวิจารณ์เรื่องยาเสพติดและเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ว่ามีนายใหญ่ได้เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการกล่าวหาแบบไม่มีหลักฐาน พาดพิงบุคคลอื่นให้เสียหาย เพราะการลงทุนในเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ใช้เงินมหาศาล มุ่งหวังที่จะเอาเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมาบนดิน ในกระบวนการต่างๆ ต้องอาศัยการลงทุนของภาคเอกชน และจำเป็นต้องดึงดูดผู้สนใจมาลงทุน ไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกับนายใหญ่ที่ท่านพูดถึง ดังนั้น จึงอย่าพูดแบบไร้หลักฐาน เพราะจะกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุนอีกประเด็นคือการกล่าวหาว่า นายกฯถูกสั่งจากแสงจันทร์ ถือเป็นวาทกรรมที่ไร้วุฒิภาวะ วันนี้ควรหยุดพูดกันได้แล้วว่าจะมีใครมาสั่งนายกฯ ได้” นายพิชัย กล่าว

“โรม”งัด5ข้อสวนกลับทันควัน

ด้าน นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กตอบโต้กรณี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ที่ออกมาระบุถึงนายรังสิมันต์ ควรเลิกทำการเมืองสาดโคลน (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ฉะเดือด‘รังสิมันต์’! ‘พิชัย’หวดอภิปรายจับแพะชนแกะ คิดได้แค่‘วาทกรรมสาดโคลน’) ว่า...ตอบ รมต. พิชัย รมต. พาณิชย์ รายประเด็น ควรคิดให้มากกว่านี้ก่อนพูดมันออกมา

1. เรื่องที่จะโยงผมว่าเป็นเด็ก ไม่ทันต่อสถานการณ์ต่างๆ คุณพิชัยไม่ควรที่จะเอาเรื่องอายุมาโยงกับการทำหน้าที่ของผมเลย เพราะในความเป็นจริงผมเองก็อายุน้อยกว่านายกรัฐมนตรีไม่มากนัก และเรื่องอายุก็ไม่รู้จะทำยังไงให้ตัวเองมีอายุมากกว่านี้คงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ คุณพิชัยควรทำตัวน่าเคารพมากกว่านี้ เรื่องอายุเป็นเรื่องไร้สาระที่ไม่ควรหยิบยกมาพูดถึง

แก้ปัญหายาเสพติด1ปีไม่มีประสิทธิภาพ

2. เรื่องยาเสพติด ข้อมูลทั้งหมดได้พิสูจน์แล้วว่ายาเสพติดราคาถูกลงจริงๆ ถ้าไม่เชื่อผมก็ลงพื้นที่ไปถามชาวบ้านถามประชาชนเดี๋ยวเขาจะเป็นคนบอกเองว่าเป็นอย่างไร การที่มีผู้ติดยาเพิ่มขึ้นและการจับยาเสพติดได้เพิ่มขึ้นไม่ได้หมายความว่าเรามีประสิทธิภาพในการป้องกันยาเสพติดมากขึ้น แต่มันต้องพิจารณาถึงราคายาเสพติดโดยรวมที่ลดลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายาเสพติดที่อยู่ภายในประเทศของเรามีมากขึ้นอย่างแน่นอน ผมพยายามจะชี้ให้เห็นว่าเราสามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้การจัดการชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพและมุ่งปัญหาไปที่ต้นตอ ซึ่งวิธีการเดิมๆนั้นล้มเหลว ตลอดหนึ่งปีของพรรคเพื่อไทยไม่ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการจัดการเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย ออ อย่าลืมไปดูพรรคร่วมของท่านด้วย ที่ทำการพรรคการเมืองของเขาวันนี้ถูกยึดอายัดโดย ป.ป.ส.นะครับ

“บัญชีม้า”ไม่จบแน่หากไม่ปราบจริงจัง

3. เรื่องบัญชีม้าตราบใดที่ไม่แก้ปัญหาที่ต้นตอคือความหลวมของธนาคารคือการไม่รับผิดชอบของธนาคารและผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต เราแทบจะแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ ไม่ต้องเชื่อผมในข้อมูลที่ผมพูดในสภาก็ได้ แต่การฆ่าตัวตายและการถูกหลอกของพี่น้องประชาชนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ส่วนกรณีบัญชีม้ากว่า 500 บัญชีที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดทุนมินลัต เรื่องนี้ผมพิจารณาในกรรมาธิการของผมด้วยตัวเองและทราบว่าบัญชีม้าทั้งหมดที่ผมเอ่ยถึงยังไม่มีมีการดำเนินคดีแต่อย่างใด ถ้าไม่มีการปราบปรามบัญชีม้าเป็นคดีอาญาอย่างจริงจังการเปิดบัญชีม้าจะยังคงดำเนินต่อไปไม่สิ้นสุด

ท้า“พิชัย”คุยกันครั้งหน้าในสภาฯ

4. เรื่องเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ เรื่องนี้ก็ขอให้มันจริงอย่างที่ท่านพูดว่านายใหญ่จะไม่เกี่ยวข้องหรือมีส่วนแบ่งกับเรื่องนี้ ท่านพิสูจน์เรื่องนี้ได้ด้วยความจริงและความโปร่งใส ผมจะรอดู แต่ยืนยันการที่ผมหยิบยกเรื่องนี้มาเป็นการเตือนด้วยความหวังดี

5. ส่วนเรื่องนายกม้า คุณทักษิณเขาพูดเองว่าเขาครอบครองนายกรัฐมนตรี อีกทั้งวันที่คุณเศรษฐาต้องพ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรี บรรดาพรรคการเมืองต่างๆไปที่ไหน ประชาชนเขาเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น คุณแพทองธาร จะเป็นนายกม้าให้คนอื่นใช้งานหรือไม่อยู่ที่การพิสูจน์ตัวเอง ผมจะรอดูนะครับ

น่าเสียดายที่คุณพิชัยไม่ได้ตอบโต้เรื่องนี้ต่อผมที่สภา ผมจะได้ลุกขึ้นชี้แจงที่สภา หวังว่าครั้งหน้าท่านจะใช้โอกาสของสภาในการพูดเรื่องนี้อย่างจริงจังนะครับ

“นิด้าโพล”เช็กเรตติ้ง“รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์”

วันเดียวกัน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “ความเชื่อมั่น ความกังวลที่มีต่อรัฐบาลนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 9-11 กันยายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความเชื่อมั่นและความกังวลของประชาชน ต่อรัฐบาลนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในการบริหารประเทศ เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

ไม่ค่อยเชื่อมั่น“นายกฯแพทองธาร”

เมื่อถามความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ในการแก้ไขปัญหาของประเทศ พบว่าร้อยละ 35.42 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อมั่น,ร้อยละ 28.17 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อมั่น,ร้อยละ 22.52 ระบุว่า ไม่เชื่อมั่นเลย, ร้อยละ 13.13 ระบุว่า เชื่อมั่นมาก ส่วนร้อยละ 0.76 ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ด้านความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร พบว่าร้อยละ 36.03 ระบุว่า เป็นเรื่องผลงาน ของรัฐบาลไม่เป็นไปตามที่สัญญาและคาดหวัง,ร้อยละ 32.14 ระบุว่า อายุและประสบการณ์ทางการเมือง/การบริหารของนายกฯ อาจทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด และบทบาทของคุณทักษิณ ชินวัตร ที่เกินขอบเขตจนนำไปสู่การถูกฟ้องเรื่องการครอบงำ นายกฯ/พรรค/รัฐบาล ในสัดส่วนที่เท่ากัน,ร้อยละ 24.89 ระบุว่า การบริหารงานที่ไม่ระมัดระวังจนอาจเกิดการทุจริต คอร์รัปชัน, ร้อยละ 21.76 ระบุว่า การบริหารงาน ที่ผิดพลาดจนนำไปสู่สถานการณ์วิกฤต

ร้อยละ 21.53 ระบุว่า การชุมนุมประท้วงรัฐบาลจนเกิดความวุ่นวายทางการเมือง,ร้อยละ 18.85 ระบุว่า กลุ่มผู้ต่อต้านนายทักษิณ ชินวัตร ที่พร้อมจะร้องเรียนและล้มรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร,ร้อยละ 18.63 ระบุว่า ไม่มีความกังวลใด ๆ เลย,ร้อยละ 14.73 ระบุว่า การก่อรัฐประหารล้มรัฐบาล,ร้อยละ 11.83 ระบุว่า พรรคร่วมรัฐบาลจ้องจะล้มนายกฯ แพทองธาร,ร้อยละ 10.08 ระบุว่า การทำงานของพรรคฝ่ายค้านที่จะนำไปสู่การล้มลงของรัฐบาล, ร้อยละ 0.46 ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

เชื่อ“ทักษิณ”ทำคะแนนนิยมพท.วูบ

เมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อบทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร ที่จะส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยในช่วงรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร พบว่าร้อยละ 40.23 ระบุว่า ส่งผลกระทบในทางลบต่อคะแนนนิยม ทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย, ร้อยละ 33.29 ระบุว่า ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อคะแนนนิยมทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย,ร้อยละ 22.21 ระบุว่า ส่งผลกระทบในทางบวกต่อคะแนนนิยมทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย, ร้อยละ 4.27 ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ปชช.หนุน10นโยบายเร่งด่วน

ขณะที่ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “10 นโยบายเร่งด่วน รัฐบาล แพทองธาร 1” ระหว่างวันที่ 10-13 กันยายน 2567 กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,159 คน สำรวจผ่านทางออนไลน์และภาคสนาม พบว่า จาก 10 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล กลุ่มตัวอย่างเห็นด้วยกับทุกนโยบาย โดยเห็นด้วยกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวมากที่สุด ร้อยละ 97.15 โดยคิดว่าเป็นนโยบายที่คาดว่าน่าจะทำได้สำเร็จ ร้อยละ 74.46 อีกนโยบายที่คาดว่าน่าจะทำได้สำเร็จ คือ นโยบายออกมาตรการลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค ร้อยละ 65.40

ส่วนนโยบายที่กลุ่มตัวอย่างมองว่า น่าจะทำไม่สำเร็จได้แก่ นโยบายแก้ปัญหายาเสพติดร้อยละ 33.05 และอาชญากรรมออนไลน์ร้อยละ 31.06 และนอกจาก 10 นโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลประกาศออกมาแล้วนั้น กลุ่มตัวอย่างระบุว่า อยากให้เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนโดยเร็ว ร้อยละ 67.46

สะท้อนคาดหวังการท่องเที่ยวมากสุด

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพลกล่าวถึงผลการสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวว่า ระบุว่า ผลโพลสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนมีความหวังกับนโยบายด้านการท่องเที่ยวมากที่สุด เพราะไทยมีศักยภาพและเป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจ ด้านนโยบายลดราคาพลังงานก็ได้รับความหวังสูงเนื่องจากเกี่ยวข้องกับค่าครองชีพ ในขณะที่นโยบายเรือธงอย่างดิจิทัลวอลเล็ตกลับสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้น้อยกว่านโยบายอื่นๆ อาจเนื่องมาจากความกังวลในแง่การดำเนินการ โดยรวมแล้วประชาชนเห็นด้วยทุกนโยบาย สุดท้ายจะสำเร็จหรือไม่ก็เป็นเรื่องของฝีมือ