วันเสาร์ ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ขุนคลังนัดถกผู้ว่าฯธปท.  อัตราดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า

ขุนคลังนัดถกผู้ว่าฯธปท. อัตราดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า

วันพฤหัสบดี ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag : ขุนคลัง ผู้ว่าฯธปท.
  •  

“พิชัย”นัดคุย “ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ”สัปดาห์หน้า หวังเห็นนโยบายการเงิน-การคลัง สอดคล้องกัน เชื่อดอกเบี้ยมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้าน“เผ่าภูมิ”ยก 4 ปัจจัยเข้าเงื่อนไขต้องลดดอกเบี้ย จี้แบงก์ชาติทบทวนนโยบายการเงินให้สอดคล้องกับประเทศคู่ค้า หลังบาทแข็งค่า และผันผวนหนัก

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึง การนัดหารือกับ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในสัปดาห์หน้า ว่า ในภาพใหญ่เรื่องนโยบายอัตราดอกเบี้ยเป็นเรื่องสำคัญกับทุกคนที่ต้องการใช้เงินลงทุน จึงเป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่า ซึ่งจากที่ตนติดตามมาค่าเงินบาทเมื่อวานนี้ถือว่า แข็งค่าสุดในรอบ 19 เดือน


นายพิชัย กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าเกิดจากปัจจัยจากภายนอก โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ที่มีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และส่งสัญญาณว่า จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยอีก และมีคนเชื่อว่า จะลงอีก 0.75% และจากการที่เฟดลดอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้เม็ดเงินไหลออกจากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ออกไปสู่ประเทศที่พัฒนา เช่น ประเทศไทยก็ถือเป็นกลุ่มเป้าหมาย และทุกประเทศก็จะเจอปัญหาเงินแข็งเช่นกัน

“เมื่อเปรียบเทียบค่าเงินบาทกับเงินสกุลอื่นโดยเฉพาะประเทศคู่ค้าของไทย เช่น เงินหยวนของจีน เงินดองของเวียดนาม หรือเงินเยนของญี่ปุ่น เป็นต้น ซึ่งต้องมาเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศเหล่านี้ หากประเทศไทยเงินแข็งค่ามากกว่าก็จะเสียเปรียบ และที่ตนดูปรากฏว่า ค่าเงินบาทไทยแข็งค่ามากกว่าประเทศอื่นๆ และจะส่งผลกระทบกับความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกด้วย”รมว.คลัง ระบุ

นายพิชัย กล่าวว่า อีกส่วนหนึ่งในเรื่องกรอบเงินเฟ้อที่ตนคิดว่า ไม่น่าอยู่ในกรอบเงินเฟ้อที่สูงดังที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย เคยคาดการณ์ไว้ว่า แม้เงินเฟ้อจะอยู่ระดับต่ำ แต่ในอนาคตจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ปรากฏว่า ไม่ได้เป็นไปตามที่แบงค์ชาติคิดไว้ และผ่าน 8 เดือน ค่าเงินเฟ้อเพิ่งเกินขึ้น 0.15 % โดยประมาณ ซึ่งตนก็ประมาณการณ์ได้ว่า เงินเฟ้อไม่สูงนัก และหลุดกรอบล่าง ที่เราเคยตกลงว่า อัตราเงินเฟ้อเป็นหนึ่งในปัจจัยกำหนดนโยบายแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย ที่เรากำหนดไว้ 1-3% แต่เราอยากเห็นใกล้ๆ 2 %

“ดังนั้น เมื่อเราหลุดกรอบข้างล่าง อันนี้ผมคิดว่า เป็นอีกเรื่องหนึ่งนอกเหนือจากค่าเงินแล้ว เรื่องกรอบเงินเฟ้อเป็นเรื่องที่ต้องตกลงกัน ซึ่งตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องตกลงกันแล้วว่า กรอบเงินเฟ้อเป็นอย่างไร ระหว่าง 1-3% ซึ่งเราไม่ถึงกรอบล่างเลย และการกำหนดกรอบเงินเฟ้อก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยนำไปกำหนดดอกเบี้ยนโยบาย ถ้ากำหนดกรอบเงินเฟ้อไว้ระดับหนึ่ง 1-3% แล้วไม่สูง แสดงว่าเศรษฐกิจมันไม่ขึ้น ก็ต้องดูว่า อัตราดอกเบี้ยเราสูงเกินไปหรือไม่ วันนี้ผมคิดว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเอาข้อมูลทั้งหมดมาดูแล้วว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเราเป็นอย่างไร ซึ่งก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้คนเกิดความมั่นใจในฝั่งผู้ผลิตมากขึ้น” นายพิชัย กล่าว

รองนายกฯ และรมว.คลัง กล่าวต่อว่า ในขณะนี้เศรษฐกิจไทยตกต่ำมายาวนานหากเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน และต่ำกว่าศักยภาพที่ไทยควรจะเป็น ส่งผลในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มมากขึ้น หนี้ SME เพิ่มขึ้น และหนี้สาธารณะสูงขึ้น นโยบายเดียวที่จะทำคือ ทำให้เศรษฐกิจไทยกลับไปแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านหรือในตลาดโลกได้ ซึ่งในส่วนรัฐบาลใช้กรอบงบประมาณเต็มที่ เพื่อทำให้เศรษฐกิจเติบโต แต่ในขณะที่เมื่อเศรษฐกิจยังไม่โต เรายังเก็บภาษีเท่าเดิม

นายพิชัย ย้ำว่าการบริหารประเทศรัฐบาลใช้มาตรการทางการคลัง หรือเม็ดเงินที่เก็บได้มากระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ทั้งหมดต้องสัมพันธ์กับนโยบายทางการเงิน ตัวที่สำคัญที่สุด คือ ดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งนโยบายรัฐบาลเดินไปทิศทางที่ให้เศรษฐกิจเติบโต แต่ถ้าดันให้ดอกเบี้ยสูงก็จะสวนทางกัน จึงควรพิจารณาให้ดอกเบี้ยต่ำหรือไม่ แต่ถ้ากลัวว่า ดอกเบี้ยต่ำแล้วคนจะใช้จ่ายเงินเยอะ ค่าเงินเฟ้อสูง แต่ในปัจจุบันเห็นชัดแล้วว่า ค่าเงินเฟ้อเราอยู่ในระดับที่ต่ำ ในเกือบ 8 ปี หลุดต่ำกว่ากรอบมา 6 ครั้งแล้ว

“ผมคิดว่า อยากจะเชิญชวนให้นโยบายการเงิน นโยบายการคลังมาทำงานร่วมกันให้สอดประสานกัน อันหนึ่งดันเศรษฐกิจให้ขึ้น อันหนึ่งก็กลัวเศรษฐกิจมีปัญหา ถ้าผมมาดูสถาบันการเงินแล้ว วันนี้สถาบันการเงินเข้มแข็ง ระบบธนาคารเราเข้มแข็ง จึงอยากเชิญชวนมานั่งคุยกัน ว่า มองเห็นข้อมูลเดียวกันและทำงานร่วมกันในนโยบายการเงินสอดคล้องนโยบายการคลัง และเป็นไปในทิศทางที่รัฐบาลอยากจะผลักดันตามที่สัญญาไว้กับประชาชน ผมว่า เป็นแนวทางที่ดีที่สุด” รองนายกฯ และรมว.คลัง กล่าว

นายพิชัย ย้ำว่า เวลาพูดคุยกันก็จะใช้เหตุผลกัน ถ้ากลัวว่า ดอกเบี้ยลงแล้วคนจะกู้มากขึ้น ทำให้หนี้มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลมองเห็นว่า อาจจะใช่ถ้าในภาวะที่คนที่เงินเยอะ แต่ถ้าดอกเบี้ยลงในภาวะคนไม่มีเงิน คนจะเอาที่ไหนไปกู้ จึงต้องมานั่งคุยกันว่า ตรรกะที่แท้จริงคืออะไร หลังจากได้ข้อมูลทั้งหมด วันนี้ได้เวลาที่จะคุยเรื่องกรอบเงินเฟ้อ นำไปซึ่งแนวทางดอกเบี้ยนโยบายและนำไปซึ่งการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ เพราะทั้งหมดจะประสานกันหมด ดีที่สุดจับมือกัน ร่วมมือกันนโยบายการเงิน นโยบายการคลัง เพื่อทำให้ประเทศไทยฟันฝ่าเศรษฐกิจที่เรื้อรังมายาวนาน

เมื่อถามว่า นโยบายการคลังจำเป็นต้องมีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า เราดำเนินนโยบายตามที่กรอบงบประมาณเอื้ออำนวย แต่ต้องดูภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง ซึ่งวันนี้เราใช้เม็ดเงินเต็มที่และคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นอีก เพราะถ้าเศรษฐกิจไม่ขึ้นเราไม่สามารถแก้ปัญหาได้

เมื่อถามว่า ในไตรมาสสุดท้ายต้องมีมาตรการการคลังกระตุ้นอีกหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ตอนนี้จะขึ้นไตรมาสสุดท้ายอยู่แล้ว แต่เห็นผลการใช้เงินอยู่แล้ว แต่คิดว่า ยังดูไม่ออกแต่คิดว่า ไม่น่าจะอยู่ในไตรมาสนี้

ด้าน นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า การพิจารณาถึงความเหมาะสมของอัตราดอกเบี้ยนโยบายเกิดจาก 4 ปัจจัย ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อที่ขณะนี้ไม่อยู่ในกรอบเป้าหมาย และยังไม่มีแนวโน้มจะเข้าสู่กรอบ ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ปัจจัยที่ 2 เรื่องค่าเงินบาท เมื่อเปรียบเทียบประเทศคู่ค้า เราอยู่ในเกณฑ์ที่แข็งค่ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน ปัจจัยที่ 3 การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยอยู่ในเกณฑ์ต่ำ จำเป็นต้องเหยียบคันเร่ง ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการ โดยเฉพาะโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายทางการคลังคือเหยียบคันเร่งวันนี้ใส่ไป 30,000 กว่าล้านบาท พรุ่งนี้อีก 40,000 กว่าล้านบาท และปัจจัยที่ 4 ทิศทางนโยบายทางการเงินของประเทศต่างๆ ในโลกที่มีผลต่อระบบเศรษฐกิจเศรษฐกิจของประเทศไทยว่าเป็นไปในทิศทางไหน ซึ่งหลายประเทศทยอยลดดอกเบี้ยนโยบายซึ่งนโยบายของไทยเองก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องปรับนโยบายให้สอดคล้องกับประเทศคู่ค้า

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สหรัฐฯไฟเขียว! พร้อมให้ไทยเจรจาเรื่องภาษี รัฐบาลส่ง\'ขุนคลัง\'คุย-รอเคาะวัน สหรัฐฯไฟเขียว! พร้อมให้ไทยเจรจาเรื่องภาษี รัฐบาลส่ง'ขุนคลัง'คุย-รอเคาะวัน
  • \'ขุนคลัง’แจงเลื่อนแผนเจรจาภาษีสหรัฐ  ขอดูประเทศอื่นก่อน  เร็วไปไม่ดี-ช้าเกินไปไม่ได้  เตรียม2เรื่องสำคัญรับมือ 'ขุนคลัง’แจงเลื่อนแผนเจรจาภาษีสหรัฐ ขอดูประเทศอื่นก่อน เร็วไปไม่ดี-ช้าเกินไปไม่ได้ เตรียม2เรื่องสำคัญรับมือ
  • ‘ขุนคลัง’ถกแบงก์ชาติ เคลียร์ข้อมูลก่อนเจรจามะกัน ‘ฮ่องกง’งดขนส่งปณ.ไปสหรัฐ ‘ขุนคลัง’ถกแบงก์ชาติ เคลียร์ข้อมูลก่อนเจรจามะกัน ‘ฮ่องกง’งดขนส่งปณ.ไปสหรัฐ
  • 2 ขุนคลัง ตั้งเป้า GDP ปี 68 โต 3% ฝ่ากระแสเศรษฐกิจฝืด 2 ขุนคลัง ตั้งเป้า GDP ปี 68 โต 3% ฝ่ากระแสเศรษฐกิจฝืด
  • ‘ขุนคลัง’ออกโรง  หนุนเปิดกาสิโน  ทบทวนขายเหล้า ‘ขุนคลัง’ออกโรง หนุนเปิดกาสิโน ทบทวนขายเหล้า
  • \'พิชัย\'เครื่องฟิต!! ประกาศภารกิจเร่งด่วน แก้ราคาสินค้าแพง-เข้มงวดสินค้าจีนทะลักไทย 'พิชัย'เครื่องฟิต!! ประกาศภารกิจเร่งด่วน แก้ราคาสินค้าแพง-เข้มงวดสินค้าจีนทะลักไทย
  •  

Breaking News

'โอเอซิส’ร่วมอาลัย! ขึ้นภาพ‘โชต้า’กลางคอนเสิร์ตรียูเนี่ยนรอบ16ปี

‘สม รังสี’เปิดไทม์ไลน์แฉ‘แรงจูงใจ’เบื้องหลัง‘ฮุน เซน’เล่นเกมกฎหมายถอดสัญชาติกัมพูชา

แฉกลยุทธ์ทหารกัมพูชา ตั้งใจล้ำเขตยั่วยุ ถ่ายคลิปข่มทหารไทยได้

จับแข้งดัง! ตำรวจตั้งข้อหา‘ปาเตย์’ข่มขืน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved