เลคเชอร์ 4 ข้อ! จับตา‘หยวนซื่อไข่’เมืองไทยยึดอำนาจทหาร ปฐมบทรัฐประหาร
8 ธันวาคม 2567 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol หัวข้อ “หยวนซีไขไทยเริ่มยึดอำนาจทางทหารแล้ว” ดังนี้...
หยวนซีไขไทยเริ่มยึดอำนาจทางทหารแล้ว
1. ในปลายราชวงศ์ชิงของจีน ได้เกิดกบฏซินไฮ่ ที่นำโดยนักเรียนเก่าฝรั่งเศส ประชาชนเข้าร่วมขบวนการปฏิวัติซินไฮ่จำนวนมาก ราชสำนักจีน กลัวพลังปฏิวัติของประชาชน จึงตั้งให้หยวนซีไข (หยวนซื่อไข่) เป็นผู้มีอำนาจ ในการปราบกบฏชิงไห่ และจัดตั้งรัฐบาลหยวนซีไขขึ้น
ปรากฏว่าหยวนซีไขมีอำนาจทางทหารแล้วก็ได้ทำการรัฐประหารล้มราชวงศ์ชิง ตั้งตนเป็นฮ่องเต้แทน แต่ถูกต่อต้านจากหัวเมืองต่างๆ และพวกกบฏต่างๆ จนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต และในที่สุดซุน ยัตเซ็น แห่งพรรคก๊กมินตั๋ง ก็ไปเป็นหัวหน้ารัฐบาลต่อมา
บทเรียนของการล้มราชวงศ์ชิง คือ การยึดอำนาจทางทหารซึ่งแต่เดิมเป็นอำนาจของฮ่องเต้ในการแต่งตั้ง และบังคับบัญชาทหารทั้งหมด
ดังนั้นการได้อำนาจของหยวนซีไขทางทหารจึงเป็นปฐมบทของการรัฐประหาร และล้มล้างราชวงศ์ชิง เป็นบทเรียนทางทหารสำคัญที่รู้กันทั่วไป
2. คณะที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลกยุคใหม่ ซึ่งหัวเรือใหญ่ก็เป็นคนเดียวกันกับทีมที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลกสมัยรัฐบาล พลเอก ชาติชาย เคยคิดยึดอำนาจทางทหาร จึงถูกคิดยึดอำนาจ โดยคณะ รสช. และมาบัดนี้ หัวเรือใหญ่นั้นก็มาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เหมือนยุคพลเอก ชาติชาย และตามเส้นทางเดิมที่เคยเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีพรรคไทยรักไทย
3. เมื่อวานซืนนี้ได้มีการประชุมที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก และลงมติให้รัฐบาลแก้ไขกฎหมายกลาโหม ในขณะที่พรรคเพื่อไทย ก็ได้เตรียมร่างกฎหมายนี้ และทำโพลกันแล้ว ให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายทหารแทนสภากลาโหม
นี่คือปฐมบทการยึดอำนาจทางทหารของประเทศไทย
อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรือไม่ แบบไหนก็ต้องติดตามด้วยใจระทึก
4. ประเทศไทยของเรามีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นจอมทัพไทย ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจโปรดเกล้าแต่งตั้งทหารทุกยศชั้น และทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจประกาศสงคราม
ในการพิจารณาเสนอโยกย้ายแต่งตั้งทหารนั้นกฎหมายกลาโหมบัญญัติให้เป็นอำนาจสภากลาโหม ซึ่งประกอบด้วยผู้นำทหารทุกเหล่าทัพ ปลัดกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกัน ปรึกษาหารือร่วมกันในการแต่งตั้งโยกย้ายทหาร และเสนอนำความกราบบังคมทูลพระมหากษัตริย์โปรดเกล้าแต่งตั้งต่อไป โดยมีคณะองคมนตรีฝ่ายทหารเป็นผู้พิจารณากลั่นกรอง และปรึกษากับสภากลาโหม ซึ่งแม้ว่าสภากลาโหมจะประกอบด้วยฝ่ายทหาร และฝ่ายการเมืองที่ต้องปรึกษาหารือกัน แต่ฝ่ายทหารเป็นเสียงข้างมากและยึดโยงกับคณะองคมนตรีฝ่ายทหาร จึงเป็นระบบประสานงานทำให้เป็นระบบระเบียบ และมั่นคงทำให้พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์มั่นคง
นอกจากนั้นคณะที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลกยังให้มีบทบัญญัติป้องกัน และห้ามทหารยึดอำนาจอีกด้วย ซึ่งเป็นการประกาศการไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ และยังเห็นทหารเป็นฝ่ายตรงกันข้าม
จึงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด ว่าหยวนซีไขไทยจะยึดอำนาจ และล้มล้างการปกครอง ได้สำเร็จหรือไม่
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี