ยื่น'อสส.'ส่ง'ศาลรธน.'ตีความปมนายกฯตั้ง'เต้น'ที่ปรึกษาฯ ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่?

ยื่น'อสส.'ส่ง'ศาลรธน.'ตีความปมนายกฯตั้ง'เต้น'ที่ปรึกษาฯ ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่?

วันพุธ ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2568, 13.05 น.

’สนธิยา‘ยื่น อสส.ส่งศาลรธน.วินิจฉัยตีความ ‘อุ๊งอิ๊ง’ตั้ง"เต้น"ณัฐวุฒิ เป็นที่ปรึกษาของนายกฯ ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ชี้พฤติการณ์สนับสนุนม็อบเคยติดคุก เคยโดนตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี เคยร้องเรียนหลายที่แต่เงียบกริ๊บ!

วันที่ 15 มกราคม 2568 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถนนเเจ้งวัฒนะ นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ขอให้ตรวจสอบพิจารณาส่งเรื่องต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 67 ที่ผ่านมา ที่อาจจะกระทำผิดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากนายณัฐวุฒิถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี ถูกจำคุก 2 ปี 8 เดือน กรณีบุกบ้านพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ นอกจากนี้ยังเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มผู้กระทำความผิดกฎหมายในมาตรา 112


โดยนายสนธิญากล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ยื่นร้องเรียนสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ปรับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 67 หลังการแต่งตั้ง 7 วัน ขณะเดียวกันในส่วนของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง  อดีตรองนายกรัฐมนตรี ตนได้ไปยื่นเรื่องร้องเรียน โดยการตรวจสอบของกฤษฎีกาทั้ง 3 คณะ ผลตรวจสอบออกมาว่านายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นข้าราชการการเมือง โดยในส่วนกรณีของนายณัฐวุฒิ ตนยื่นกรณีที่นายกรัฐมนตรีกระทำผิดรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ในมาตรา 160 เรื่องความซื่อสัตย์ สุจริตจริยธรรม และคุณธรรม และมาตรา 164 และมาตราอื่น ๆ ประกอบ

นายสนธิญากล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยแจ้งความดำเนินคดีกับนายณัฐวุฒิ เมื่อปี 2550 กรณีกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการบุกบ้านพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี ฯ โดยศาลพิพากษาจำคุก นายณัฐวุฒิ เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน และได้ติดกำไร EM ออกมา หลังได้รับการปล่อยตัว โดยในคดีดังกล่าวศาลยังมีคำพิพากษาให้ตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปีด้วยเเละเมื่อออกมาจากเรือนจำนายณัฐวุฒิได้ประกาศชัดว่า สนับสนุนกลุ่มราษฎรเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 63 โดยกลุ่มราษฎรดังกล่าวมีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “รุ้ง” และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน”  โดยในส่วนของเพนกวินตนได้ยื่นร้องเกี่ยวกับเรื่องมาตรา 112 ประมาณ 5 คดี ปัจจุบันเพนกวินไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีและปริญญาโทที่ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยมีคดีความผิดเกี่ยวกับมาตรา 112 จำนวน 25 คดี พฤติกรรมของนายณัฐวุฒิจึงเป็นการเซาะ กร่อน บ่อนทำลายเกี่ยวกับสถาบัน เป็นการกระทำที่รุนแรงต่อกฎหมายความมั่นคง 

นายสนธิญากล่าวว่า ตนร้องไปที่สำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อให้คัดชื่อนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ออกไปภายใน 1 อาทิตย์ กระทั่งผ่านมาถึงวันนี้เป็นเวลา 3 เดือน 11 วัน  ไม่มีการคัดชื่อนายณัฐวุฒิออกแต่อย่างใด ประกอบกับกฤษฎีกาทั้ง 3 คณะชี้ว่ากรณีของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นข้าราชการทางการเมือง ซึ่งเป็นประเด็นเดียวกัน กับนายณัฐวุฒิตนจึงนำเข้าสู่กระบวนการยื่นให้อัยการสูงสุดชี้ว่าการกระทำของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญตามที่ตนกล่าวหาหรือไม่ อย่างไร บทสรุปสุดท้ายสำนักงานอัยการสูงสุดจะต้องสรุปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ถ้าไม่ยื่น ตนจะใช้สิทธิ์ภายใน 60 วันยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยต่อไป

นายสนธิญากล่าวด้วยว่า กระบวนการที่จะเข้าสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญได้มี 2 ช่องทาง คือ ผ่านสำนักงานอัยการสูงสุด กกต. หรือผู้ตรวจการแผ่นดิน ตนเลือกใช้วิธียื่นผ่านสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อโปรดพิจารณา ทั้งนี้หากใครจะเคลื่อนไหวสนับสนุนกลุ่มราษฎรหรือมีความเห็นอย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่กรณีของนายณัฐวุฒิเป็นผู้ประกาศสนับสนุน กลับมาแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ทั้งที่นายกรัฐมนตรีจะต้องตรวจสอบคนที่จะเข้ามาทำงานในตำแหน่งนี้ เพราะฉะนั้นนายณัฐวุฒิและนายกรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิเสธได้ สำหรับการแต่งตั้งดังกล่าวมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงลายมือชื่อ แต่งตั้งด้วยตัวเองเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่ต้องรับผิดชอบโดยตรง

"สุดท้ายตอนฝากไปถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีที่มีนักร้องมาร้องเรียนมากมายนั้น ขอเรียนว่า ตนจะไปถอนในการร้องเรียนต่อกกต. 2 เรื่องที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ และนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ประธานกกต.ได้ชี้แจงมาแล้ว แล้วตนเห็นว่าไม่เข้ากระบวนการก็จะถอนให้ 2 เรื่อง เพราะท่านเป็นบุคคลที่อยู่นอกการเมืองแต่เข้ามามีส่วนร่วมในทางการเมือง ตนร้องเรียนในส่วนที่เห็นว่าชัดเจน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวินิจฉัยชี้แจง และยื่นไปถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไป ตนไม่ได้ทำด้วยความเกลียดชังหรือความโกรธแต่อย่างใด" นายสนธิญากล่าว.
 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top