‘สส.ปูอัด’ระทึก
สภาบรรจุวาระลอยแพ20ก.พ.
ส่งตัวให้ตร.ดำเนินคดีข่มขืน
“ร่างทรงสส.ปูอัด”แฉ ตำรวจรีดเงิน 4 แสนแลกเป่าคดี แต่เจ้าตัวไม่จ่าย เลยโดนหมายจับรับฟาดสาวไต้หวันจริง แต่เป็นเรื่องสมยอม ขณะที่ ผกก.สภ.เชียงใหม่ โต้ข่าว เรียกรับ 4 แสนแลกจบคดี ท้านำหลักฐานมาร้องทุกข์ ด้านเลขาฯสภาฯ คาด20 กุมภาพันธ์ประชุม ส่งตัว “สส.ปูอัด”ให้ตำรวจ
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ว่า ภายหลังจากที่“สส.ปูอัด” หรือนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า ถูกออกหมายจับจากคดี
ข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวสัญชาติไต้หวัน ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้นายไชยามพวาน ยังไม่ออกมาแสดงตัว หรือให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ ขณะเดียวกันเริ่มมีการปล่อยภาพและคลิปภาพกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด เพื่อนนายไชยามพวาน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้นายไชยามพวาน ยังอยู่ในกทม. รอวันไปมอบตัวที่ จ.เชียงใหม่ ก่อนวันที่ 20ก.พ.นี้ และจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทีเดียวที่ จ.เชียงใหม่เลย ยืนยันว่านายไชยามพวาน ยังไม่มีความคิดที่จะลาออกจากตำแหน่ง สส. หลังเพื่อนสมาชิกกดดันไม่ให้ใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง
เพื่อนของนายไชยามพวาน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ทราบข้อมูลมาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการเรียกรับเงินจำนวน 400,000 บาท แลกกับการยุติคดี ตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เพราะนายไชยามพวานได้เดินทางกลับไปที่ จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่รู้ว่าถูกแจ้งความดำเนินคดี แต่เมื่อไม่จ่ายเงินก็กระโดดจากหมายเรียกเป็นหมายจับเลย ซึ่งหลังจากนี้จะค่อยๆ ปล่อยหลักฐานออกมา
“ยอมรับว่านายไชยามพวานกับนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวันมีเพศสัมพันธ์กันจริง แต่เป็นการสมยอม และในห้องมี 3 คน คือ นายไชยามพวาน หญิงชาวไต้หวัน และเพื่อนสาวของเธอ ถ้าเป็นการข่มขืนจริงทำไมเพื่อนเธอจึงไม่ช่วย และคืนนั้นหญิงชาวไต้หวัน ได้เดินออกมาส่งนายไชยามพวาน ที่หน้าห้อง แต่น่าเสียดายที่ทางโรงแรมแจ้งว่ากล้องวงจรปิดเสีย ทำให้ไม่มีหลักฐาน และหนึ่งประเด็นที่ทางนายไชยามพวาน ตั้งข้อสังเกตคือหลังเกิดเหตุตำรวจไม่ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานแวดล้อมเลย ฟังแต่คำให้การของผู้เสียหาย ซึ่งแน่นอนว่าการตรวจร่างกายย่อมเจออสุจิอยู่แล้ว ทำให้นายไชยามพวาน ทีมงาน และทนายความต้องลงพื้นที่ไปเก็บหลักฐานเอง”
“ถ้าจากคลิปวงจรปิดที่ถูกปล่อยออกมาจะเห็นได้ว่า นายไชยามพวาน ไม่มีท่าทีมึนเมา สามารถเช็คกับทางร้านอาหารได้ว่าคืนนั้นนายไชยามพวานไม่ได้สั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงเชื่อว่าเขามีสติครบถ้วน แต่ที่ไม่ออกมาแถลงตอนนี้เพราะกระแสสังคมยังแรงอยู่ พูดอะไรออกมาก็คงไม่ฟัง” เพื่อนของนายไชยามพวาน ระบุ
ด้านเดอะเนชั่น ทีวี รายงานว่า พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้มีการประชุมความคืบหน้าของคดีโดยมีพนักงานสอบสวนในคดีนี้เข้าร่วมประชุม ในที่ประชุมได้มีการพูดคุยการสรุปสำนวนหลักฐานพยานต่างๆ ที่ตำรวจรวบรวมไว้ทั้งหมด อาทิ ภาพกล้องวงจรปิด คำให้การพยาน ผู้ต้องหา หลักฐานทางการแพทย์ และยังมีการพูดคุยประเด็นที่ทางคนสนิท สส. ที่ออกมาให้ข่าวทางสื่อว่าตำรวจเรียกรับเงิน 4แสน เพื่อจบคดีนี้ด้วย
โดย พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า คดีนี้หลักฐานพยานเรามีครบทุกอย่าง ตั้งแต่เกิดเหตุที่สาวไต้หวันมาแจ้งความ ก็มีการรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินการกับผู้ต้องหาไว้หมดแล้ว จนสามารถออกหมายจับได้ ซึ่งตำรวจก็รู้อยู่แล้วว่าผู้ต้องหาจะต้องแก้คดีด้วยการอ้างว่าสมยอมทั้งสองฝ่าย หากสมยอมจริง ผู้เสียหายจะแจ้งความทำไม ทุกอย่างที่ออกจากฝ่ายผู้ต้องหาเป็นคำกล่าวอ้างโต้ออกสื่อ แต่ความจริงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีเพศสัมพันธ์กัน
ส่วนประเด็นล่าสุดที่กำลังเป็นกระแสอย่างมากในตอนนี้ถึงเรื่องที่ว่ามีตำรวจเรียกเงินจำนวน 4 แสนบาท ในเรื่องนี้ขอทางคนสนิท สส.ที่ออกมาให้ข่าวนำหลักฐานมาร้องทุกข์ ที่สภ.หรือกับผู้บังคับบัญชาได้เลย หากพบเป็นเรื่องจริงและถ้าตำรวจนายไหนเกี่ยวข้องทางเราไม่เอาไว้แน่นอน ซึ่งจะถูกดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางวินัยด้วย แต่หากไม่เป็นความจริงคนพูดต้องรับผิดชอบเช่นกันเพราะทำให้ภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียหายอีกด้วย
ว่าที่ร้อยตำรวจตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า หมายจับของนายไชยามพวาน ยังมาไม่ถึงสภาฯ เพราะตามขั้นตอนสภ. เชียงใหม่จะส่ง หมายจับของศาลไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหนังสือเพิ่งถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จึงคาดว่ามาถึงสภาฯ ไม่วันที่ 10 ก.พ. ก็ 11 ก.พ. นี้ เพราะต้องผ่านขั้นตอนคือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) หรือรองผบ.ตร. ก็จะทำหนังสือถึงประธานสภาฯ เพื่อขออนุญาต พิจารณาคดีระหว่างสมัยประชุม ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 125 วรรค 1 ทั้งนี้เมื่อหนังสือมาถึงทางสำนักประชุมก็จะนำเสนอประธานสภาฯ เพื่อขออนุญาตบรรจุวาระการประชุมในวันที่ 20 ก.พ.เป็นเรื่องด่วน เพราะวันพุธ เป็นวันพิจารณากฎหมาย
เมื่อถามว่า หากนายไชยามพวานลาออก ไม่ต้องพิจารณาเรื่องนี้ใช่หรือไม่ ว่าที่ร้อยตำรวจตรีอาพัทธ์ กล่าวว่า ถ้าลาออกก็ถือว่าขาดสมาชิกภาพทางสภาฯก็ไม่ต้องพิจารณา การคุ้มกันต่างๆจะหมดลง แต่ตอนนี้อยู่ในระหว่างชั้นการสอบสวนยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ยังไม่ได้ฟ้องศาล แต่ทันทีที่สภาฯอนุมัติให้จับเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าควบคุมตัวนายไชยามพวาน ได้ทันที
เมื่อถามว่า มองว่าช้าไปหรือไม่ที่บรรจุวาระดังกล่าวในวันที่ 20 ก.พ. กล่าวว่า เป็นขบวนการตามปกติ เนื่องจากสัปดาห์นี้มีประชุมร่วม ยังไงก็บรรจุไม่ได้อยู่แล้ว ต้องรอสัปดาห์หน้า
เช่นดียวกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ระบุว่า ยังไม่ได้รับหมายจับ สส.ปูอัดจากตำรวจ ถ้าได้รับหนังสือ จะรีบดำเนินการโดยด่วน แต่ถ้าเป็นคดีที่เข้าข่ายประมวลกฎหมายอาญามาตรา149 ที่ระบุว่า“ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือ ยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือ ไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึง ยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต”
“ประธานสภาฯ ไม่จำเป็นต้องหารือในที่ประชุมสภา จ้าหน้าที่สามารถเข้าจับกุมได้เลย แต่ต้องเป็นหนังสือจากศาลเช่นเดียวกับคดีตากใบ แต่ถ้าเป็นหนังสือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเดียว จะต้องหารือที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่าจะอนุมัติหรือไม่อนุมัติ ซึ่งเมื่อมีหนังสือมาถึงต้องบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมภายใน 15 วัน โดยมาถึงวันนี้น่าจะบรรจุเข้าที่ประชุมได้ในสัปดาห์หน้า โดยจะบรรจุเป็นเรื่องด่วนเพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมสภา”ประธานสภาผผู้แทนฯ ย้ำ
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายวันนอร์ กล่าวว่า สส.เป็นคนที่ต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าบุคคลทั่วไป แต่อย่างไรต้องดูข้อเท็จจริงในหนังสือที่จะส่งมาก่อนว่าเป็นอย่างไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี