เจ้ากระทรวงต้องรับผิดชอบ
โดดเดี่ยว‘พิชัย’
‘ภูมิธรรม’เร่งแก้ข้าวตกต่ำ
วันนอร์แจ้งแก้ญัตติซักฟอก
ตัดชื่อ‘ทักษิณ’เป็นคนนอก
หักเหลี่ยมฝ่ายค้าน!!! “ประธานวันนอร์”ทำหนังสือด่วนที่สุดถึง “เท้ง” แก้เนื้อหาญัตติซักฟอก “แพทองธาร” ให้เอาชื่อ “ทักษิณ” ออกอ้างเป็นคนนอก ไม่สามารถชี้แจงในสภาฯได้โดดเดี่ยว “พิชัย”! “ภูมิธรรม” โยนแก้ปัญหา“ราคาข้าวตกต่ำ” ม็อบชาวนาจ่อบุกทำเนียบฯ ยันนายกฯ “อิ๊งค์” รับทราบ ด้าน “พิชัย” รมว.พาณิชย์แจงเหตุพูดปลูกกล้วยแทนข้าว แค่เสนอทางเลือกให้ชาวนา ปลูกพืชที่ตลาดต่างประเทศต้องการย้ำรัฐบาลไม่มีนโยบาย เปลี่ยนพืชหลักประเทศ ขณะที่’ชูศักดิ์’ยํ้าซักฟอกกี่วัน อยู่ที่วิปสามฝ่าย ตกลงกัน ดักคอ‘ฝ่ายค้าน’อภิปรายพาดพิงถึงรัฐมนตรี อาจถูกประท้วงวุ่น เพราะญัตติมีแค่ชื่อนายกฯคนเดียว
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ว่า วันนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหนังสือด่วนที่สุดถึง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ว่า
ตามที่ท่านกับคณะได้เสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ นั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาแล้ว เห็นว่า การระบุรายชื่อบุคคลภายนอกในเนื้อหาญัตติ อาจทำให้บุคคลภายนอกได้รับความเสียหาย เนื่องจากไม่สามารถชี้แจงในที่ประชุมสภาฯ ได้ จึงขอให้ท่าน แก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าว โดยนำรายชื่อบุคคลภายนอกออกจากเนื้อหาญัตติ ตามข้อบังคับการประชุม สภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2562 ข้อ 176 จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการ
ทั้งนี้ ข้อ 176 ระบุว่า เมื่อประธานสภาฯ ได้รับญัตติตามข้อ 175 แล้ว ให้ทำการตรวจสอบ หากมีข้อบกพร่อง ให้ประธานสภาแจ้งผู้เสนอทราบภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับญัตติ เมื่อประธานสภาฯ ได้ตรวจสอบความถูกต้องของญัตติแล้ว ให้บรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุม เป็นเรื่องด่วนและแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในท่อนหนึ่งญัตติดังกล่าว ระบุว่า “นายกรัฐมนตรีสมัครใจยินยอมให้ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการ หรือ งด เว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยมีบิดา เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง ที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ”
‘ภูมิธรรม’โยน‘พิชัย’แก้ราคาข้าว
นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์กรณี ม็อบชาวนาประท้วงกรณีราคาข้าวตกต่ำ บริเวณรอบข้างทำเนียบรัฐบาล ว่า ทุกคนตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนและนายกรัฐมนตรีก็รับทราบรายละเอียด และพยายามติดตามการแก้ไขปัญหาให้มีความคืบหน้า ซึ่งขอให้เป็นเรื่องของกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรัฐบาลก็มีหน้าที่ในการทำความเข้าใจและอธิบาย ในส่วนรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ และหาแนวทางดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง หากมีอะไรที่ต้องการปัจจัยเพิ่มเติม ตนก็จะพยายามดูแลให้ แต่ขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้ากระทรวงเป็น ผู้รับผิดชอบรับผิดชอบ” นายภูมิธรรม กล่าว
ปชน.ฉ‘พิชัย’ปลูกกล้วย-ไปเลี้ยงลิง
ด้าน นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สส.พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า กรณี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ แสดงวิศัยทัศน์คิดสั้นเกินไปกับชีวิตเกษตรกรไทย การนะนำเปลี่ยนอาชีพง่ายๆ แบบนี้สะท้อนว่า ไม่เข้าใจปัญหาจริงของเกษตรกร หากเกษตรกรเลิกทำนาแล้วไปปลูกกล้วย ใครจะรับรองไม่เกิดปัญหาล้นตลาด หรือราคาตกต่ำเหมือนพืชเศรษฐกิจอื่น เช่น มะพร้าว ปาล์มน้ำมัน หรือแม้แต่ลำไย แนวคิดนี้ขาด มาตรการสนับสนุนที่เป็นรูปธรรม เช่น การหาตลาดรองรับ การจัดระบบการผลิตให้มีเสถียรภาพ นาข้าวเป็นอาชีพหลักของเกษตรกรมายาวนาน ไม่ใช่ว่าทุกพื้นที่จะเหมาะกับการปลูกกล้วย เกษตรกรลงทุนไปแล้วกับการทำนา ทั้งเครื่องจักร ระบบชลประทาน จะให้เปลี่ยนเป็นปลูกกล้วยทันทีมันคงไม่ง่ายขนาดนั้น
“รมว.พาณิชย์ ไม่เข้าใจปัญหาเกษตรกร แต่กลับออกไอเดียแบบลอยๆ ว่าให้เปลี่ยนไปปลูกกล้วยแทนข้าว นี่คือแนวคิดของคนที่ไม่รู้จริงเรื่องโครงสร้างเศรษฐกิจเกษตร เพราะกล้วยไม่สามารถแทนข้าวได้ ทั้งในแง่ของตลาด และความมั่นคงทางอาหาร ถ้าคนระดับรัฐมนตรีคิดได้แค่นี้ ถ้าคนแบบนี้อยู่ในตำแหน่งต่อ อนาคตเศรษฐกิจไทยจะเป็นยังไง เราควรมีผู้นำที่มองการณ์ไกล และรู้จักวางนโยบาย ไม่ใช่แค่พูดเล่นไปวันๆ ถ้าคิดอะไรที่ดีกว่านี้ไม่ได้ ก็ลาออกไปเลี้ยงลิงเถอะ”นายนนท์ กล่าว
เจ้าตัวโต้รบ.ออกมาตรการช่วยแล้ว
ขณะที่ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ’กรรมกรข่าว คุยนอกจอ’ ชี้แจงแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรและชาวนา พร้อมยืนยันว่า ไม่มีนโยบายให้เปลี่ยนจากการปลูกข้าวเป็นการปลูกกล้วย กระทรวงพาณิชย์ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด คิดเสมอว่า ทุกข์ของชาวนาคือทุกข์ของแผ่นดิน ต้องเร่งแก้ปัญหาทันที ราคาข้าวตกต่ำ เกิดจากอินเดียผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่กลับมาส่งออกอีกครั้ง ได้รวบรวมความเห็นของชาวนากลุ่มต่างๆ แล้วนำเข้าสู่ที่ประชุม นบข.ออกเป็นมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน โดยในระยะสั้น รัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือชาวนาโดยสนับสนุนเงินช่วยเหลือไร่ละ1,000บาท ไม่เกิน10ไร่ต่อครัวเรือน ซึ่งเป็นข้อเสนอที่มาจากชาวนา เพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาข้าวตกต่ำ ขณะที่ในระยะกลางและระยะยาว รัฐบาลเร่งพิจารณาแนวทางเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร โดยการวางระบบการเกษตรให้เหมาะสมกับสภาพตลาดและศักยภาพของแต่ละพื้นที่
ไม่ได้ให้เลิกปลูกข้าวไปปลูกกล้วย
รมว.พาณิชย์ ชี้แจงว่า การกล่าวถึงการปลูกกล้วยเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของพืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะกล้วยญี่ปุ่นที่มีมูลค่าทางการตลาดสูง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ได้มีนโยบายให้ชาวนาเปลี่ยนจากการปลูกข้าวไปปลูกกล้วยทั้งหมด แต่เป็นการเสนอทางเลือกเพิ่มเติมให้กับเกษตรกรในพื้นที่ที่เหมาะสม ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีการทดลองปลูกกล้วย 150,000 ต้น เพื่อเป็นตัวอย่างให้เกษตรกรเห็นถึงโอกาสในตลาดต่างประเทศ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องเปลี่ยนจากการปลูกข้าวเป็นกล้วยทั้งหมด ไม่ได้เปลี่ยนจากปลูกข้าวเป็นปลูกกล้วย แต่หมายถึงว่าที่ไหน บริเวณไหน ปลูกกล้วยได้แล้วได้ราคาสูง เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ก็ปลูก ไม่ได้ว่าให้เปลี่ยนอย่างนั้น แค่คิดก็ผิดแล้ว เพียงให้เป็นทางเลือกกับเกษตรกรที่จะปลูก” นายพิชัย กล่าว
กำหนดวันซักฟอกรอวิป3ฝ่ายเคาะ
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรอบเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้คุยกัน ต้องรอดูว่าวิป3 ฝ่ายจะตกลงกันอย่างไร คาดว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรจะนัดพูดคุยกันวันนี้ (7 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวถามว่า จุดยืนของรัฐบาลกำหนดหรือไม่ว่าจะให้อภิปรายกี่วัน นายชูศักดิ์ กล่าวว่า พรรคคุยกันว่าหากอภิปรายคนเดียว ก็น่าจะใช้เวลาวันเดียว แต่ที่สุดแล้วไปคุยกันให้จบดีกว่า ดูว่าอะไรเหมาะสมที่สุด เมื่อถามว่า ส่วนตัวคิดว่ากี่วันเหมาะสม นายชูศักดิ์ กล่าวว่า การอภิปรายนั้น สาระสำคัญอยู่ที่เนื้อหาที่จะพูด หากยังพูดเนื้อหาไม่จบแล้วไปปิดก่อน ก็จะเสีย เพราะฉะนั้น ต้องดูว่าเนื้อหามากน้อยขนาดไหน
เชื่อประท้วงวุ่น-ซักฟอกรมต.คนอื่นๆ
เมื่อถามย้ำว่า วันเดียวน้อยไปหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ดีทีสุดให้เขาคุยกันดีกว่า ว่าเนื้อหามีประมาณไหน อภิปรายแบบไหน เช่นหากอภิปรายนายกฯและโยงไปถึงรัฐมนตรี ก็จะมีปัญหาว่า นายกฯ และรัฐมนตรีต้องตอบ ทำให้เวลายืดยาวออกไป ให้ทุกฝ่ายไปตกลงกันก่อนว่าจะเอาอย่างไร ส่วนตัวไม่รู้ว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร เอาที่เหมาะสมและไม่เสียความชอบธรรม เมื่อถามว่า ญัตติฝ่ายค้านไม่ได้ระบุว่าอภิปรายนายกรัฐมนตรีและครม.สามารถชี้แจงแทนได้ใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญมี 2ประเภท คือ 1.อภิปรายครม.ทั้งคณะ สามารถพูดได้หมดตั้งแต่นายกฯลงมา 2.อภิปรายบุคคล ซึ่งตนดูญัตติของฝ่ายค้าน เห็นว่า เป็นอภิปรายรายบุคคล คือนายกฯ คนเดียว ไม่ใช่ทั้งคณะ ซึ่งหลักทั่วไปตามข้อบังคับที่ทำกันมา จริงอยู่ที่นายกฯต้องรับผิดชอบในการบริหารราชการแผ่นดิน แต่นายกฯ ก็มีสิทธิ์ให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องตอบ ที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้ เพราะนายกฯไม่ได้ไปบริหารกระทรวงโดยตรง แค่กำกับดูแลการทำงานทั่วไป เรื่องนี้เคยบอกแล้วว่ายาก เพราะฝ่ายค้านไม่ได้ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีด้วย หากไปอภิปรายพาดพิงถึงรัฐมนตรี ซึ่งตรงนี้จะยุ่ง เพราะในญัตติไม่ได้บอกว่า อภิปรายรัฐมนตรีคนนี้ และท้ายที่สุดจะเกิดการประท้วงวุ่นวาย คนที่ตัดสินเรื่องนี้คือ ประธานสภาผู้แทนราษฎร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี