ปัดเอี่ยว‘สปส.’
ซื้อขายตึกSkyy9
พ่อลูก‘พร้อมพัฒน์’
เปิดแถลงตอบโต้
“พัฒนา” แจงตระกูล “พร้อมพัฒน์” ไม่เกี่ยวปมสปส.ซื้อตึก Skyy9 ชี้ขายให้เอจีอาร์อี 101 แล้วไม่ได้เข้าไปดูอีกเลย ปัดตอบราคาพุ่งเกินจริงหรือไม่ด้าน “สันติ” แจงไร้ดีลการเมือง ไม่รู้คนซื้อต่อขายใคร ยันไม่ฟ้องคนพาดพิง เผยตึกราคาสูงเพราะทำเลดี
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่อาคารรัชดาวัน ถนนรัชดาภิเษก นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ ผู้บริหารบริษัท วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน จำกัด ลูกชายนายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีต รมช.สาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงชี้แจงกรณีการซื้ออาคาร Skyy9 ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) มูลค่า 7 พันล้านบาท ว่าตามที่กระแสข่าวว่า สปส.ซื้ออาคารดังกล่าวราคาสูง โดยอ้างว่าเป็นการซื้อจากบริษัทลูกชายนักการเมืองนั้น ขอเรียนว่า บริษัท วอเตอร์เกทพาวิลเลี่ยน จำกัด ที่เป็นเจ้าของตึก ได้ซื้อเมื่อปี 2560 ขณะนั้นเป็นอาคารร้าง สภาพสุดโทรม ไม่สามารถใช้งานได้ โดยซื้อจากหลายเจ้าของ มีแผนปรับปรุงเป็นสำนักงาน ต่อมา บริษัท เอจีอาร์อี 101 ที่ระดมทุนจากนักลงทุนจากต่างประเทศ สนใจซื้อ และในวันที่ 23 สิงหาคม 2562 ได้โอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้ซื้อ บริษัทได้ชำระเงินแล้วโอนกรรมสิทธิ์โดยไม่มีปัญหา ซึ่งผู้ซื้อไม่ได้มีนิติสัมพันธ์ใดๆ กับบริษัทที่เป็นผู้ขาย และตนไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ได้ติดต่อ ไม่ได้ติดตามหลังจากที่ทำการขายโอนกรรมสิทธิ์จบสิ้น และไม่เกี่ยวกับผู้ซื้อ
นายพัฒนา กล่าวต่อว่า ทราบเพียงว่าผู้ซื้อไปมีจุดประสงค์ที่จะปรับปรุงอาคารนี้ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ เพื่อประกอบธุรกิจตามที่ได้วางแผนไว้ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและบริษัทก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ซื้อในทางใด และไม่ทราบเรื่องราวว่าอาคารเหล่านี้ได้เปลี่ยนมือเป็นของใคร ซื้อขายกันราคาเท่าไหร่ เพิ่งจะทราบเรื่องพร้อมกับที่ สปส.ได้ซื้ออาคารหลังนี้ไปตามข่าว ยืนยันว่าไม่เคยพบ ไม่รู้จักกับผู้ใดในสปส.และไม่รู้จักกรรมการหรือผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นใครใน สปส.หรือกระทรวงแรงงาน
“ส่วนที่บอกว่าผมเป็นผู้ขายหรือเกี่ยวข้องกับการขายอาคารหลังนี้ให้แก่ สปส.นั้นไม่เป็นความจริง การที่ผู้ซื้อได้ซื้อไปและนำไปปรับปรุงทำให้อาคารมีสภาพที่ดี สามารถใช้ประโยชน์ได้ ใช้เงินพัฒนาไปต่างๆ นานาหลายพันล้านบาท ไม่เกี่ยวกับผม จะมีกำไรหรือขาดทุน ก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง” นายพัฒนา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงมีกระแสข่าวออกมา นายพัฒนา กล่าวว่า ก็มี ส.ส.ออกมาเปิดประเด็นเรื่องประกันสังคม ปกติไม่ได้ตามข่าวเท่าไหร่ พอทราบว่ามีประเด็นนี้เริ่มมีการเชื่อมโยงมาที่ตนจึงต้องออกมาชี้แจงว่าไม่เกี่ยว เมื่อถามว่าหากมองย้อนไป เพราะเห็นมูลค่าในตลาดถึงได้ตัดสินใจซื้อตั้งแต่ตอนแรกใช่หรือไม่ นายพัฒนา กล่าวว่า อาคารหลังนี้ค่อนข้างใหญ่ สภาพทรุดโทรม แต่อยู่ในโลเคชั่นที่ดี น่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนได้ จำเป็นต้องถูกปรับปรุง ส่วนราคาซื้อขายขออนุญาตไม่เปิดเผย แต่ที่บริษัทขายให้กับ เอจีอาร์อี 101 มูลค่า 2 พันล้าน อาคารมีสภาพเก่าอุปกรณ์ภายในเสียหาย
ต่อข้อถามว่ามองอย่างไรกับยุคก่อนหน้านี้ที่ใช้เงินซื้อตึกถึง 7 พันล้านบาท ถ้าเป็นนักลงทุนจะซื้อหรือไม่ นายพัฒนา กล่าวว่า ตึกนี้ปรับปรุงออกมาแล้วสวย มีคุณภาพ แต่ไม่ขอแสดงความคิดเห็นเรื่องมูลค่า 7 พันล้านบาท เมื่อถามย้ำว่า การซื้อขายครั้งนี้เป็นการเอื้อประโยชน์กันในพรรคการเมืองใช่หรือไม่ นายพัฒนา กล่าวว่า ไม่ทราบ และบริษัท เอจีอาร์อี 101ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลพร้อมพัฒน์ และนายสันติ ไม่เกี่ยวข้องด้วย เป็นเรื่องที่แค่มีเพื่อนในวงการแนะนำมา
ด้านนายสันติ กล่าวว่า จริงๆ แล้วเรื่องอสังหาริมทรัพย์นายพัฒนา ลูกชายตน มีความรู้ความสามารถ จบปริญญาโทจากอังกฤษด้านอสังหาริมทรัพย์ ตนเลยปล่อยให้บริหารจัดการในบริษัท วอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน จำกัด การซื้อตึกของ สปส.ไม่ได้เป็นดีลพิเศษขณะที่อยู่พรรคเดียวกับ รมว.แรงงาน ในยุคนั้น ตอนที่เขาซื้อตึกนี้มาจากบริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ บสก.เขาก็ยังต้องไปซื้อห้องอื่นๆ ในอดีตที่ขายกันไปแล้วกลับมา จนสามารถรวมเป็นตึกเดียวกันภายใต้เจ้าของเดียว
นายสันติ กล่าวอีกว่า ตอนนั้นเขามาหารือตนว่าอยากจะรีโนเวท พอสักพักเมื่อมีคนรู้ข่าวว่าตึกนี้มีเจ้าของเดียวแล้ว มีคนสนใจจำนวนมาก ตนรู้แค่เพียงตอนที่เขาขาย ประมาณ 2 พันกว่าล้านบาท ให้บริษัทของฝรั่งที่มาจดทะเบียนในเมืองไทย เป็นกองทุนที่ใหญ่มาก วันที่เขาซื้อก็จ่ายเงินเลยทั้งหมด พอจ่ายแล้วก็แล้วกัน เราไม่รู้อะไรอีกเลยว่าเขาจะเอาไปทำอะไร รู้เพียงแต่ว่าเอาไปรีโนเวท ตนนั่งรถผ่านก็เห็นว่าสวยมาก มารู้อีกทีตอนมีข่าวจากสื่อมวลชนว่าตึกหลังนี้ได้ขายไป โดย สปส.เป็นเจ้าของ ในราคา 7 พันล้านบาท
เมื่อถามว่าการถูกเชื่อมโยงเรื่องนี้ มองว่าถูกดิสเครดิตหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า เราเข้าใจเพราะเป็นนักการเมืองสื่อต้องพยายามที่จะตรวจสอบให้เกิดความชัดเจน เพราะฉะนั้นนายพัฒนาซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัท วอเตอร์เกทฯ ก็บอกว่าเรื่องนี้ต้องแถลงให้กับประชาชนเข้าใจ ไม่เช่นนั้นจะพูดไปอย่างนั้นอย่างนี้ วันหลังจะปวดหัวเปล่าๆ ตนจะช่วยยืนยันว่าสิ่งที่นายพัฒนาแถลงเป็นความจริง เรื่องนี้ไม่มีอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นคนในตระกูลพร้อมพัฒน์ หรือพร้อมทวีสิทธิ์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายของบริษัท เอจีอาร์อี 101 จำกัด กับ สปส.ส่วนลูกชายตนทำเรื่องซื้อขายตึกเก่ามารีโนเวทขาย
ต่อข้อถามว่ามีการต่อสายคุยกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานขณะนั้นหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า เราไม่ได้สนใจอะไร ไม่มีความจำเป็นต้องไปต่อสาย ไม่ได้ไปเชื่อมโยงหรือพูดคุย โดยเฉพาะกับนายสุชาติ เราไม่เคยคุยอะไรเลย แม้เคยอยู่พรรคเดียวกัน แต่เอาเข้าจริงเราไม่รู้ว่า สปส.เข้ามายุ่งเกี่ยวตั้งแต่สมัยนั้น ยืนยันไม่มีเรื่องดีลทางการเมืองตามที่เป็นข่าว ให้สื่อมวลชนไปค้นหาหรือทำอะไรได้ทั้งนั้น ตนเป็นนักการเมืองต้องทำอะไรตรงไปตรงมา
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการฟ้องร้องอะไรต่อจากนี้หรือไม่ นายสันติ หัวเราะก่อนจะระบุว่า ไปฟ้องทำไม เพราะเรายืนอยู่บนความถูกต้อง ทั้งนี้ ไม่ว่าจะสื่อมวลชนหรือประชาชนอยากจะรู้ลึกๆ ว่าเราไปมีอะไรกับเขาหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อเราเป็นนักการเมือง เป็นบุคคลสาธารณะ ตนไม่ฟ้อง
ต่อข้อถามว่าในระยะเวลาไม่กี่ปีมูลค่าของตึกพุ่งสูงมากถือว่าเหมาะสมหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า เรื่องนี้เหมือนคนที่ใส่สร้อยทอง 20 บาท ก็จะดูมีราคาแพง หากพิจารณาทั้งตึกก็เหมาะสม เพราะว่าตึกมีการรีโนเวท ใช้ของที่มีคุณภาพ เมื่อถามย้ำว่า การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ด้วยราคา 7 พันล้านบาท ของ สปส.มาถูกทางแล้วใช่หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า เราไม่รู้ว่าใครมีวัตถุประสงค์อะไรในการซื้อทรัพย์สิน แต่ตึกดังกล่าวอยู่ใจกลางเมือง ดังนั้นราคา 7 พันล้านบาท ก็ตกราคาตารางละ 70,000 บาท ถือว่าราคาไม่แพง บางที่ตารางเมตรละ 100,000 บาทก็มี
เมื่อถามว่าหลายคนวิพากษ์วิจารณ์เนื่องจากตึกดังกล่าวยังไม่สามารถเปิดให้เช่าได้ถึง 50% ของพื้นที่ นายสันติ กล่าวว่า เศรษฐกิจเป็นเช่นนี้ การเช่าก็จะเหนื่อยหน่อย ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา ตนเชื่อว่าเดี๋ยวก็มีผู้มาเช่าถึง ส่วนจะทำให้คุ้มทุนอย่างไรเป็นหน้าที่ของเจ้าของทรัพย์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี