ฝ่ายค้านจัดสรรพกำลังพร้อมเต็มร้อย
เชือด‘อุ๊งอิ๊งค์’!
ปชน.ย้ำเรื่องสำคัญต้องตอบเอง
‘อนุทิน’การันตีภท.ไม่แตกแถว
ปธ.วิปฯมั่นใจนายกฯคุมอารมณ์ได้
พท.จัด3ทีมสู้ศึก-โวเสียงแน่นปึ้ก
ระเบิดศึกซักฟอก ฝ่ายค้านพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ในการกินโต๊ะซักฟอก “อุ๊งอิ๊งค์”ถึงขั้นทำให้หวั่นไหว ชี้เรื่องส่วนตัวนายกฯต้องตอบเอง พปชร.ขู่งัดดาบสองเช็คบิลนายกฯหลังจบศึกซักฟอก ยื่นป.ป.ช.-ศาลรธน.ปมที่ธรณีสงฆ์ สนามกอล์ฟ อัลไพน์–ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม เตรียมขยี้ลึก ดันกาสิโนใครได้ประโยชน์ ‘ลุงป้อม’พูดแค่10นาที ‘ดนุพร’ มั่นใจเสียงโหวต ‘รัฐบาล’ แน่นปึ้ก เย้ย ห่วงเสียง ‘ฝ่ายค้าน’ มากกว่าจะมาครบหรือไม่ ลั่น เก็งข้อสอบไว้ประมาณหนึ่ง
เมื่อวันที่ 23มีนาคม2568 นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงความพร้อมในการเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ของพรรคฝ่ายค้าน ในวันที่ 24-25 มีนาคม และลงมติวันที่ 26 มีนาคมนี้ ว่า มีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์
โดยลำดับการอภิปรายเบื้องต้นกำหนดไว้ตามสัดส่วนเวลา ส่วนรายชื่อในการอภิปรายของพรรค ปชน.นั้น ทางพรรคจะมีการทยอยเปิดอีกครั้ง สำหรับพรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคอื่นๆ ก็จะมีการสลับเป็นวันแรกและวันที่สองบ้าง เมื่อถามว่า ประเด็นภาพรวมวันแรกจะเป็นเรื่องใดบ้าง นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า จะมีความหลากหลายซึ่งจะเกี่ยวข้องกับตัวของนายกรัฐมนตรีโดยตรง โดยบางประเด็นอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับบางกระทรวงบ้าง แต่ยังเกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีโดยตรง ทั้งนี้ เราไม่ได้แบ่งถึงขนาดว่าวันแรกต้องเป็นเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ในแต่ละวันนั้นจะมีไฮไลต์อยู่แล้ว
ฟันธงรัฐบาลหวั่นไหว
เมื่อถามว่า พอจะสามารถแย้มประเด็นที่พอจะทำให้รัฐบาลต้องหวั่นไหวได้หรือไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า หากรั่วเพื่อทำให้รัฐบาลต้องหวั่นไหว รัฐบาลก็อาจจะไม่หวั่นไหว รอติดตามในการอภิปรายเลยดีกว่า โดยจะเป็น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรค ปชน. ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้อภิปรายเปิด
เมื่อถามว่า มั่นใจของพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า มั่นใจ มีการพูดคุยกันแล้ว ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ในส่วนของ ส.ส. 3 คนของพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ที่เคยโหวตสวนมติฝ่ายค้าน จะมีปัญหาอะไรหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า จริงๆ เรื่องนี้น่าจะจบไป เพราะชัดเจนไปนานแล้ว เพราะทางพรรค ทสท.ก็มีมาตรการลงโทษแล้ว ซึ่งเราคงไม่ได้นับ ส.ส.ทั้ง 3 คนอยู่แล้ว และในทางปฏิบัติ ทางพรรค ทสท.ก็ไม่ได้นับ ส.ส. 3 คนนั้นว่าเป็น ส.ส.พรรค ทสท. ซึ่งคงจะไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า แล้วในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เท่าที่พูดคุยเขายังมั่นใจว่าจะครบถ้วน
‘พปชร.’ขู่เตรียมเช็คบิลดาบที่2
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการเตรียมพร้อมของพรรคพลังประชารัฐในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีที่จะเริ่มในวันจันทร์นี้ 24 มีนาคมว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะเป็นการอภิปรายนัดประวัติศาสตร์ เพราะมีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่นเป็นการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯคนเดียวและมีความเข้มข้นเพราะฝ่ายค้านพร้อมเต็มที่ นายกฯ จะเป็นนายกฯหุ่นเชิด นายกฯนอมินีหรือไม่รอดูในเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจเพราะในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาฯ จะไปขอให้คนในครอบครัวบางคนมาช่วยก็ไม่ได้ และอย่าดูเฉพาะตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างเดียว เพราะหลังจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจมันจะมีเรื่องอื่นต่อหลายเรื่องที่นำมาอภิปราย มันมีปัญหาข้อกฎหมายทั้งสิ้นที่นำมาขยายผลได้ เช่นเรื่องผลประโยชน์ชาติ หรืออาจจะแปลงเป็นคำร้องต่างๆ เช่นคำร้องยื่นกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือมีการส่งคำร้องไปศาลรัฐธรรมนูญที่มันก็อาจมีผล เช่นหากมีคำร้องไปศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับตัวนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากทั้งข้อกฎหมาย ความถูกต้องต่างๆ มันพร้อมทั้งองค์ประกอบ มันจะเกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้นมา
เล่นงานจริยธรรมนายกฯ
ส่วนที่จะมีการขยายผลมีการไปร้องต่อศาลรธน.หลังเสร็จสิ้นการอภิปราย นายไพบูลย์ ขยายความว่า เช่นสมมุติต้องรอฟัง อาจจะเปิดมาด้วยกรณีที่ชัดเจน เรื่องของตัวนายกฯ เลย การครอบครองที่ธรณีสงฆ์ เป็นเรื่องของความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ หากมีข้อกฎหมายครบถ้วน ถ้านายกฯ ไปกระทำอย่างนั้น ก็ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม ไปที่ศาล รธน. โดยศาล รธน.มีบรรทัดฐานในการวินิจฉัยไว้อยู่แล้ว และยังมีบรรทัดฐานที่ศาลฎีกาด้วย กรณีอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการ และในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีการพูดถึงเรื่องการครอบงำ ที่ครอบงำทั้งตัวนายกฯ และตัวพรรคการเมือง เรื่องนี้อย่าประมาท กกต.สอบไปตั้งเยอะ การอภิปรายไม่ไว้วางใจมันก็จะเสริมเรื่องเข้าไปอีก เกิดกกต.ฟังขึ้นมาแล้วลงมติส่งศาล รธน. สนุกแน่
“ประวัตร”จั่วหัวซักฟอก
นายไพบูลย์กล่าวต่อว่าส่วนการลุกขึ้นอภิปรายของพลเอกประวิตร หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นการอภิปรายภาพรวม ที่จะพูดถึงประเด็นที่เป็นสาเหตุของปัญหาต่างๆ แต่จะไม่ลงรายละเอียดเพราะรายละเอียดเป็นเรื่องของ สส.พลังประชารัฐที่จะอภิปราย ซึ่งอาจจะสอดรับกับดีลแลกประเทศ ของพรรคประชาชน เพราะการให้นายทักษิณ ชินวัตร ได้อำนาจในการควบคุมประเทศกลายเป็นปัญหาในส่วนที่เป็นผลประโยชน์ อย่างที่ฝ่ายค้านกล่าวถึงคือ เป็นผลประโยชน์ของส่วนตนของพรรคพวกมาเป็นตัวตั้งก่อนในการกำหนดนโยบาย แล้วจากนั้นถึงค่อยออกมาเป็นนโยบาย
กานิโนผลประโยชน์ทัพซ้อน
“อย่างเรื่อง กาสิโนชัดเจน คือกำหนดขึ้นมาจากผลประโยชน์ก่อน คือการมีแล้วได้ผลประโยชน์ ส่วนว่าผลประโยชน์เป็นอย่างไร ก็รอฝ่ายค้านขยี้เอา รับรองขยี้ลึกเลยได้รู้ว่าจะได้เท่าไหร่ด้วย ซึ่งทั้งหมดมันมหาศาลผลประโยชน์ที่เขาจะได้ แล้วค่อยหาคำมาอธิบายเช่นว่าทำแล้วจะดีกับประเทศอย่างไร พยายามแต่งปรุงเข้าไป แต่มันก็รู้เท่าทันกันหรือMOU44 ที่ไปแบ่งปันผลประโยชน์ทางทะเลกับกัมพูชา ตั้งขึ้นมาจากอะไร ก็จากผลประโยชน์ส่วนตัวก่อน เหมือนกับตั้งบริษัทเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว รับสัมปทานอะไรต่างๆ เป็นแสนๆ ล้านเลย ซึ่งสิ่งนี้ฝ่ายค้านก็จะนำเสนอ แล้วเลี้ยวกลับไปว่าถึงค่อยมาทำ แล้วไม่ใช่แค่เรื่องนี้ แต่หลายเรื่อง รวมถึงตอนหลังเรื่องธุรกิจการเงินที่จะซื้อหนี้ประชาชน ก็จะเปิดช่องให้มีการทำธุรกิจการเงินโดยลดอำนาจ ตัดอำนาจของธนาคารกลาง ทั้งหมดมีอย่างเดียวก็คือ เอาประเทศไปเพื่อที่จะไปหาผลประโยชน์”
ฟันธงรัฐบาลยุบสภา
เลขาธิการพรรค พปชร.กล่าวย้ำว่า การลุกขึ้นอภิปรายของพลเอกประวิตร เวลาที่อภิปรายจะอยู่ที่ประมาณบวกลบไม่เกินสิบนาที โดยหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐตั้งใจมากในการอภิปรายครั้งนี้ เพื่อทำหน้าที่อย่างเต็มที่และเป็นเชิงสัญลักษณ์ด้วยว่าพรรคพลังประชารัฐเอาจริง เราทำจริงทุกเรื่อง เป็นรัฐบาลก็จริง เป็นฝ่ายค้านก็เอาจริง ทั้งหมดที่ทำมา ความคาดหวังก็คืออยากให้มีการเลือกตั้ง หากมีการเลือกตั้งเราก็พร้อมที่จะเข้าไปในสนามเลือกตั้ง และลุงป้อมก็ตั้งใจอยู่แล้วว่าจะต้องกลับมา ที่ส่วนตัวมองว่าเรื่องการยุบสภาฯ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ในช่วงก่อนปลายปีนี้ การยุบสภาของการเมืองไทยจะเกิดตอนช่วงเกิดปัญหา ต้องหนีปัญหา ผมพูดไว้เลยว่ามันมีเหตุที่จำเป็นต้องยุบ
พท.ยันเสียงแน่น-ตั้ง3ทีมรับมือ
นายดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมของพรรค พท.ในการสู้ศึกอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ของพรรคฝ่ายค้าน ในวันที่ 24-25 มีนาคม และลงมติในวันที่ 26 มีนาคมนี้ ว่า เนื่องจากวันที่ 24 มีนาคมต้องอยู่กันจนถึงเช้าของวันที่ 25 มีนาคม เราจึงได้เตรียมทีมที่จะสลับปรับเปลี่ยนที่เข้าไปนั่งในห้องประชุมสภาฯ และพักหรือทำงานได้บ้าง เพื่อที่จะไม่ให้รู้สึกว่าเวลาที่ฝ่ายค้านอภิปราย ไม่มีฝ่ายรัฐบาลนั่งอยู่ในห้องประชุมเลย หรือแม้กระทั่งเวลาที่นายกรัฐมนตรีชี้แจง ก็ไม่มีส.ส.ของพรรคอยู่เลย แบบนั้นไม่ใช่ ซึ่งขณะนี้กำลังไล่ลงชื่อกันอยู่
เตือนอย่าอภิปรายป่วน
นายดนุพร กล่าวต่อว่า ส่วนทีมที่สองจะเป็นทีมสื่อสาร ทีมดูแลสื่อออนไลน์ต่างๆ เราจะให้ไปอยู่ที่อาคารรัฐสภาเลย เพื่อที่จะได้สรุปประเด็นของผู้อภิปรายและผู้ชี้แจงแต่ละคนเพื่อป้องกันการนำประเด็นไปทำให้เกิดการเข้าใจผิด สำหรับทีมที่สามจะเป็นทีมที่เราเตรียมไว้สำหรับเรื่องข้อบังคับการประชุมต่างๆ เช่น ไม่ให้มีการอภิปรายในประเด็นที่ซ้ำ การพาดพิงทำให้บุคคลอื่นเสียหายจนเกินงาม
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่เพราะฝ่ายค้านก็ออกมายืนยันว่ามีข้อมูลที่เป็นเรื่องทีเด็ดทีขาดเกี่ยวข้องโดยตรงกับตัวนายกรัฐมนตรี นายดนุพร กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะเราก็เก็งข้อสอบมาแล้วประมาณหนึ่งว่าเขาจะอภิปรายประเด็นอะไรบ้าง ซึ่งบางเรื่องก็จะเป็นการตอบคำถามเพื่อให้ประชาชนคลายข้อสงสัยด้วย
เมื่อถามว่า มั่นใจเสียงโหวตของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ว่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน นายดนุพร กล่าวว่า แน่นอน ค่อนข้างมั่นใจว่าเสียงโหวตไม่น่ามีปัญหา ที่เป็นห่วงคือเสียงโหวตของฝ่ายค้านมากกว่าว่าเขาจะมากันครบหรือไม่
ขุดหลุมล่อรบ.ให้ประท้วงหนักๆ
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี วันที่ 24มี.ค.ว่า ดูแล้วไม่ราบรื่น เป็นธรรมดาของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ใช่การยอวาที แต่เป็นการกล่าวหา ฝ่ายค้านคงกล่าวหาบุคคลในครอบครัวนายกฯเยอะๆ เพราะต้องการให้รัฐบาลประท้วงมากที่สุด จะได้ถูกประชาชนบูลลี่ แต่ถ้าฝ่ายค้านทำผิดข้อบังคับการประชุมจริงๆ ก็จำเป็นต้องประท้วง พรรคเพื่อไทยไม่ลนลาน ไม่กีดกันการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ อย่างการตัดชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากญัตติ เป็นเรื่องของประธานสภาฯกับฝ่ายค้าน ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล หรือการต่อรองเวลาก็เป็นเรื่องปกติ ฝ่ายค้านอย่ามาขึ้นราคาให้ตัวเอง เราไม่ให้ราคา ถ้าตีรวนปั่นป่วนมากๆ รัฐบาลมีสิทธิเสนอให้ปิดการอภิปรายได้ ยกมือตัดสิน ฝ่ายค้านก็แพ้อยู่แล้ว ถ้าอภิปรายกันดีๆ 2 วัน ไม่ว่ากัน แต่อย่ามาดราม่าว่ากันมากไป เรื่องกีดกันการอภิปราย ฝ่ายค้านได้ 28 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 7 ชั่วโมง กีดกันตรงไหน ยุติธรรมไหม ถ้าจะก่อกวนมากๆ ก็เป็นสิทธิฝ่ายรัฐบาลเสนอปิดอภิปราย เราไม่ได้ขู่ แต่ไม่อยากทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย แนะนำนายกรัฐมนตรีให้ควบคุมอารมณ์ให้ดี อย่าอ่อนไหวคำพูดแดกดันของฝ่ายค้าน นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่ต้องห่วง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีอยู่กับการเมืองมาตั้งแต่เด็ก มีประสบการณ์ทำงานการเมือง ไม่กังวล มั่นใจนายกฯควบคุมอารมณ์ได้ ไม่มีโกรธ การมุ่งสร้างแต่วาทกรรม ไม่ใช่ประชาชนจะชอบเสมอไป ชาวบ้านอยากฟังเหตุผล ข้อเท็จจริงมากกว่าวาทกรรม อยากให้การเมืองมีความสร้างสรรค์
‘ประยุทธ์’ยันพท.ไม่คิดประท้วง
นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ในวันที่24 มี.ค.ว่า การอภิปรายวันดังกล่าว ตนจะไม่ท้วงติงในที่ประชุมสภาฯ ถึงกรณีทำหนังสือถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ทบทวนการแก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯที่ดำเนินการไม่ถูกต้อง เพราะมีผู้นำฝ่ายค้านลงชื่อรับรองการแก้ญัตติแค่คนเดียว เมื่อประธานสภาฯยืนยันการแก้ไขญัตติถูกต้อง จะไม่ท้วงติงอะไรในที่ประชุม การแสดงออกทางกฎหมาย ไม่ใช่การยับยั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นคนละเรื่องกัน เชื่อว่าการอภิปรายวันแรกจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ราบรื่น ในฐานะทีมองครักษ์พิทักษ์ข้อบังคับการอภิปรายไม่ไว้วางใจอยากแนะนำสส.ไม่ให้ประท้วงพร่ำเพรื่อ ประชาชนจะเบื่อ นิดๆหน่อยๆต้องทนเอา
‘การจะประท้วงต้องดูข้อเท็จจริงกับข้อบังคับการประชุมประกอบกัน หากฝ่ายค้านเอ่ยชื่อถึงนายทักษิณ ชินวัตรและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ต้องดูคำพูดหน้างาน เจตนา และข้อบังคับการประชุม มาพิจารณาจะประท้วงหรือไม่ ต้องดูหน้างานเป็นหลัก ไม่สามารถบอกได้ว่า พูดประโยคใดแล้วจะประท้วงทันที” นายประยุทธ์ กล่าว
‘หนู’ย้ำพร้อมป้อนข้อมูลให้นายกฯ
ที่พรรคภูมิใจไทย(ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมพรรคภูมิใจไทยวันนี้ (23 มี.ค.)ว่า ไม่ใช่การเช็คเสียงสส.ของพรรครอบสุดท้าย ก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะพรรคมีเสียงอยู่เท่านี้ ซึ่งสส.ภูมิใจไทย พร้อมสนับสนุนนายกฯ พรรคไม่เคยมีเสียงแตกแถว โดยจะลงคะแนนเสียงไว้วางใจให้กับนายกฯ ครบทุกคน ไม่มีเสียงแตกและไม่มีเห็นต่าง เมื่อถามว่า หากการอภิปรายของฝ่ายค้านนอกลู่ และพาดพิงการทำงานในส่วนรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย จะตั้งทีมออกมาชี้แจงอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า หวังว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายอยู่ในประเด็น แต่หากพาดพิงไปที่ตัวบุคคล ตามสิทธิ์ที่มีอยู่ในสภาทุกคนสามารถชี้แจงได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะประเด็นที่ไม่มีข้อเท็จจริงหรือถูกให้ร้าย คนที่ถูกพาดพิงก็มีสิทธิ์ที่จะชี้แจงได้ทันที เชื่อว่าคงไม่มีปัญหา เพราะฝ่ายค้านมีประสบการณ์อยู่แล้ว ดังนั้นต้องอยู่ในประเด็นให้มากที่สุดเมื่อนายกฯ หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงในสภาแล้วมีทีมคณะทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการเมืองข้าราชการประจำ หรือข้าราชการการเมืองมาชี้แจงเพิ่มเติม โดยมีหลักฐานมายืนยันก็จะทำให้เกิดความชัดเจน ทำให้ข้อสงสัยต่างๆ ได้รับการเคลียร์ ซึ่งเป็นประโยชน์กับประชาชน
ยังไม่มีปรับครม.หลังการอภิปราย
เมื่อถามว่า ดินเนอร์หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 21มี.ค.ที่ผ่านมา นายกฯได้พูดคุยเบื้องต้นถึงการปรับ ครม.หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีและไม่ได้พูดคุยกันเลย ซึ่งนาก่อนหน้านี้นายกฯ ได้ย้ำกับสื่อมวลชนแล้วว่า มีความประสงค์อยากให้รัฐมนตรีได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง และไม่ต้องแบกความกังวลใดๆ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะประเมินการทำงานของรัฐมนตรีเอง ดังนั้น เรื่องการปรับครม.พวกเราเข้าใจกันดีอยู่อยู่แล้วว่าเป็นอำนาจนายกฯทั้งสิ้น คงไม่เอาเรื่องนี้มาพูดคุยในโต๊ะอาหาร เพราะไม่เกี่ยวข้องกันและในวันนั้นนายกฯเชิญรับประทานอาหาร เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าทุกฝ่ายมีความสบายใจในการสนับสนุนนายกฯซึ่งหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลได้ให้คำยืนยันเช่นนั้น
‘จิรายุ’โวผลงานนายกฯมีเพียบ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี วันแรกในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ว่า ฟังที่ฝ่ายค้าน ออกแขก แสดงความดูถูก เหยียดเพศ หยาบคาย ตลอดสัปดาห์โดยใช้ภาษาต่ำกว่าสะดืออย่างไม่น่าเชื่อว่าจะออกจากปากของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่เรียกร้องเรื่องสิทธิเสรีภาพ ความเท่าเทียม และพูดเสมอว่าอยากทำการเมืองใหม่ และมีบางช่วงที่บอกตนเองเป็นขบวนการไรเดอร์จึงทำให้พอเห็นภาพว่าการอภิปราย 2 วันนี้ น่าจะเป็นหนังภารตะ ที่วิ่งไล่ไปมาตามต้นไม้ กว่าที่คนฟังจะหาประเด็นได้ คงจะหลับก่อน
นายจิรายุกล่าวว่า ส่วนกรณีที่รองหัวหน้าพรรคประชาชนกล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีภาวะความกังวลอย่างมากในการอภิปรายครั้งนี้ ขอแนะฝ่ายค้านว่าอย่าไปคิดแทนคนอื่น เพราะดูจากช่วงเวลา 2-3 วันที่ผ่านมา นายกฯมีความสุขสดชื่น และพร้อมโดยไม่มีอะไรให้กังวล และยังเตรียมข้อมูลที่จะชี้แจงผลงานของรัฐบาลในรอบ 6 เดือน ที่ทำงานมาอย่างเต็มที่ เรียกว่าฝีมือระดับ “Wonder Woman” ขณะที่ความกดดันในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ไม่ได้ตกอยู่ที่รัฐบาลหรือนายกฯ แต่ตกอยู่ที่ฝ่ายค้าน ที่จะต้องอภิปรายให้ปังไม่ใช่เอาแค่ข่าวเก่าข่าวแปะมาอภิปราย “ผมหวังว่าการอภิปรายจะไม่มีภาษาตลาดล่าง ต่ำกว่าสะดือออกมาอีก เพื่อยกระดับรัฐสภาไทย อย่างที่คนรุ่นใหม่คาดหวังกันไว้ให้เป็นสภาระดับสากล และฝ่ายค้านควรจะช่วยกันนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างที่คาดหวังไว้” นายจิรายุกล่าว
ภูมิใจไทยชมอุ๊งอิ๊งค์คนเก่ง
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้ใจวางใจของพรรคประชาชน ที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จะต้องอภิปรายนำเป็นคนแรกว่า ในช่วงที่เคยสัมผัสนายณัฐพงษ์ ครั้งที่เป็นสส. ด้วยกัน นายณัฐพงษ์ เป็นคนพูดเรียบๆ ไม่ดุดัน แต่ก็เป็นคนรุ่นใหม่ อยากเห็นมิติการอภิปรายที่สุภาพแต่แน่นไปด้วยเนื้อหาเป็นแบบอย่างคนรุ่นใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องมีโวหารเกินไป เท่าที่ดูสีสันการอภิปรายน่าจะอยู่ที่นายรังสิมันต์ โรม กับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิสรสส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นหลัก แต่สิ่งที่น่าห่วงคือการอภิปรายด้วยถ้อยคำเสียดและไม่สุภาพ และกล่าวพาดพิงบุคคลภายนอก ซึ่งจะมีการประท้วงแน่นอน
ในฐานะรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มั่นใจว่า นายกรัฐมนตรีสามารถชี้แจงได้ และเชื่อว่าการตอบโต้กลับฝ่ายค้านจะทำให้ฝ่ายค้านเสียรังวัดได้ เพราะจากที่ได้ทำงานร่วมกับนายกรัฐมนตรี นส.แพทองธาร ชินวัตร ท่านเป็นคนเก่งแถมท่านยังมีความเด็ดขาด มีความมั่นใจในตัวเองสูงมากและเป็นตัวของตัวเอง มั่นใจปราศจากข้อสังสัยว่า พรรคร่วมเหนียวแน่นและพร้อมชี้แจงกรณีทึ่ท่านนายกฯ มอบหมายให้รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง ชี้แจงแทน ในส่วนพรรคภูมิใจไทยนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทยในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ให้กำลังใจท่านนายกรัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคภูมิใจไทยทุกเสียง พร้อมสนับสนุนท่านนายกฯอย่างพร้อมเพียง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี