วันจันทร์ ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ปชน.ฉะนายกฯหุ่นเชิด-บริหารล้มเหลว  ซัด‘อิ๊งค์’หนีภาษี  นายกฯโต้แหลก‘เสียภาษีถูกต้อง’

ปชน.ฉะนายกฯหุ่นเชิด-บริหารล้มเหลว ซัด‘อิ๊งค์’หนีภาษี นายกฯโต้แหลก‘เสียภาษีถูกต้อง’

วันอังคาร ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag :
  •  

ปชน.ฉะนายกฯหุ่นเชิด-บริหารล้มเหลว

ซัด‘อิ๊งค์’หนีภาษี

นายกฯโต้แหลก‘เสียภาษีถูกต้อง’

หยันอายุน้อยแต่จ่ายภาษีมากกว่า

‘ป้อม’อัดปท.ไม่ใช่เวทีมือสมัครเล่น

‘หนู’ยัน‘อิ๊งค์’ไม่ยุ่งที่ดินอัลไพน์

เปิดศึกซักฟอกนายกฯ“อิ๊งค์”วันแรก “เท้ง”ซัด“รบ.-พท.”เปิดดีลแลกประโยชน์“เจ้าสัว”ลั่นสถานะรัฐบาล“คณะร่วมรัฐประหาร”ฉะ“นายกฯอิ๊งค์”หุ่นเชิดพา “พ่อแม้ว” กลับบ้านมาเป็น‘ผู้นำนอกระบบ’ใช้‘ตระกูลชิน’เป็น‘แกนกลาง’หลอมสารพัดดีลผลประโยชน์สูบชาติ ร่วมเจ้าสัวสุมหัวเตี๊ยมเดินเกมรู้กันมาแต่แรก หยันแค่2ปีผ่านเสียหนักกว่า‘รัฐบาลบิ๊กตู่’‘วันนอร์’แตะเบรกห้ามพาดพิงคนนอก ‘ลุงป้อม’ลุกอภิปราย10นาที ซัด’อิ๊งค์’ปล่อยปชช.หนี้ท่วมหัว หุ้นดิ่งเหวทุบประวัติศาสตร์ ความเชื่อมั่นปท.ถดถอย ห่วงลูกหลานเผชิญปัญหาสังคม อาชญากรรมเพิ่มจากธุรกิจสีเทา ขาดคุณสมบัติสุจริตเป็นที่ประจักษ์ ลั่นประเทศชาติ ไม่ใช่เวทีของมือสมัครเล่นซัดถือหุ้น’อัลไพน์’ทั้งที่รู้ว่า เป็นที่ดินธรณีสงฆ์ ด้าน’อุ๊งอิ๊ง’ลุกตอบย้อนรอยงที่พูดมาไม่เป็นความจริงค่ะ’

เมื่อเวลา 08.20น.วันที่ 24มีนาคม2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาญัตติด่วน ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา151 ซึ่ง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กับคณะรวม 165 คน ยื่นเสนอ


‘เท้ง’ซัดบริหารล้มเหลว-ยอมเป็นหุ่นเชิด

จากนั้น เวลา 08.37น.นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค ปชน.ผู้นำฝ่ายค้านฯกล่าวเปิดญัตติโดยย้ำถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม ขาดวุฒิภาวะ ความรู้ความสามารถและเจตจำนงในการบริหารราชการแผ่นดิน จงใจลอยตัวอยู่เหนือปัญหา ไม่รับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเอง ครอบครัวและพวกพ้อง ไม่ดำเนินการตามนโยบายที่สัญญาไว้ เป็นนั่งร้านช่วยเหลือต่างตอบแทนกลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย บริหารบ้านเมืองผิดพลาด ล้มเหลว ยอมให้บุคคลในครอบครัวชี้นำ ชักจูงให้ทำหรืองดเว้นการกระทำที่เป็นเรื่องสำคัญของบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกหุ่นเชิด โดยมีบุคคลในครอบครัวเป็นนายกฯตัวจริง ที่ไม่รับผิดชอบการใช้อำนาจ

ใช้’ตระกูลชิน’แสวงหาผลประโยชน์

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ เริ่มต้น ดำรงอยู่ และเดินหน้าต่อเพื่อให้เกิดดีลแลกประเทศ ที่คนตระกูลชินวัตรและครอบครัว ยึดเป็นแกนกลางและมีกลุ่มผลประโยชน์เป็นแกนรอง ส่วนผลประโยชน์ของประเทศไว้พูดตอนจะเลือกตั้ง จริงๆแล้วรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เป็นนั่งร้านให้ใคร แต่หลอมรวมกลายเป็นพวกเดียวกันหมดแล้ว ทำงานร่วมกัน หัวเราะกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ไม่เกี่ยวกับเจเนอเรชั่น หรือภูมิหลัง แต่ใช้วิธีจัดการผลประโยชน์เหมือนกัน ต่อรองผ่านสนามกอล์ฟ ใช้อำนาจเปลี่ยนดำเป็นขาว รู้ช่องทางหากินผ่านระบบราชการ เรียกได้ว่านายกฯ และครม. และพรรคร่วมรัฐบาล รู้ภาษาเดียวกัน เล่นเกมเดียวกันมาตั้งแต่แรก เรื่องใดที่เดินหน้าเร็ว ไม่สนใจเสียงทักท้วง เพราะดีลประโยชน์ลงตัว คือเอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งน.ส.แพทองธาร ตอบคำถามสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ถึงหัวข้ออภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องดีลประเทศ ที่ยอมรับว่าดีลตั้งรัฐบาลคือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะบิดา ต้องกลับบ้านจริงๆ

แก้รธน.ไม่คืบ-โลกประณามส่งอุยกูร์

นายณัฐพงษ์ อภิปรายอีกว่า ดีลแลกประเทศ ไม่ใช่แค่เรื่องที่นายทักษิณ กลับบ้านเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการแลกดีลผลประโยชน์มหาศาลดูเผินๆรัฐบาลชุดนี้อาจได้ประโยชน์ดีกว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ 2 ปีที่ผ่านมากลับเสียมากกว่าเดิม การตั้งอยู่ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร โดยเฉพาะเรื่องการเมือง รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทำให้ประชาธิปไตยประเทศถดถอย ซึ่งคะแนนวัดอันดับทางการเมืองตกต่ำลง จัดอยู่ในกลุ่มประชาธิปไตยบกพร่อง แก้รัฐธรรมนูญไม่คืบหน้า และถูกนานาชาติประณามเพราะส่งผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน ทำให้ความเป็นประชาธิปไตยเสื่อมถอยลงภายใต้เปลือกของคำว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ขณะที่ด้านเศรษฐกิจ พายุหมุนทางเศรษฐกิจไม่เคยเกิดขึ้น จากที่ระบุว่าจะได้ 5% เหลือ 2.5% ไม่เหมือนคำโฆษณา แต่ทิ้งราคาที่สังคมไทยต้องจ่ายมหาศาล

เกิดผู้นำนอกระบบ-ครอบงำรัฐบาล

“พรรคเพื่อไทยไม่ยอมรับว่าสมัยพรรคไทยรักไทยในอดีต ได้รับประโยชน์จากปัจจัยภายนอก ไม่ได้เก่งด้วยตนเอง เช่น หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่หมอชนบทขับเคลื่อนมาก่อนหน้านั้น การกระจายเม็ดเงินลงท้องถิ่นได้ประโยชน์จากโครงการมิยาซาว่า เมื่อเป็นรัฐบาลเพื่อไทยนโยบายดีๆ ที่กองบนโต๊ะไม่มี ทำให้คิดไปทำไป การบริหารประเทศได้นายทักษิณ กลับมาเหมือนได้ผู้นำแพคคู่ คนหนึ่งมีประสบการณ์ อีกคนอยู่ในตำแหน่งเป็นคนรุ่นใหม่ สิ่งที่เกิดขึ้นมีผู้นำนอกระบบ ทำงานนอกทำเนียบฯ ชี้นำ นำหน้ารัฐบาล ไม่มีการรับผิดรับชอบ เพราะไม่ถูกตรวจสอบ ส่วนคนในระบบ กลับขาดความรู้ความสามารถ วุฒิภาวะ และเจตจำนงทางการเมือง ทั้งนี้ประเทศไทยเสีย 2 ต่อ เพราะมีคนที่ลอยตัว ส่วนคนที่ถืออำนาจนั้นขาดคุณสมบัติ” นายณัฐพงษ์ อภิปราย

คดี’ตากใบ’ไร้ยุติธรรม-เงินหมื่นเหลว

ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ อภิปรายด้วยว่า ในประเด็นความยุติธรรม ที่คนตากใบยังรอความยุติธรรม แต่นายกฯ ไม่เร่งรัดติดตามตัวจำเลยที่หนีไปต่างประเทศมาดำเนินคดี ขณะที่นายกฯนอกระบบได้รับสิทธิอยู่ชั้น 14 เหนือระบบยุติธรรม ที่มีน.ส.แพทองธาร รับรู้ รับทราบสถานะของบิดามาโดยตลอด นอกจากนั้นในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ประชาชนมีฉันทามติ แต่น.ส.แพทองธาร ตอกฝาโลงเรียบร้อยว่าไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ทัน ที่คุยกันในรัฐสภาเป็นละครปาหี่ ที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่ต้องให้แก้ไข ทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียประโยชน์ ต้องอยู่กับรัฐธรรมนูญของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

“การแจกเงินหมื่นไม่สร้างการเติบโตเศรษฐกิจไทย การสร้างเอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ เห็นชัดล่วงหน้าว่าจะมีกลุ่มทุนที่ใกล้ชิดรัฐบาลที่ได้รับประโยชน์ เป็นการสูญเสียโอกาสของคนไทยที่ได้รัฐบาลคิดไปทำไป ดีลแลกประเทศมีคนไม่ถึง 1% ได้รับผลประโยชน์ แม้จะทำลายระบบนิติรัฐ นิติธรรม ซึ่งเป็นรัฐบาลที่ตกต่ำยิ่งกว่ารัฐบาลของคสช.ซึ่งอนาคตมีสิ่งที่ประเทศไทยต้องจ่ายมหาศาล ทั้งนี้สิ่งที่เราได้รับคือ พวกเราอ่อนแอ ไม่กล้าหวังอนาคตที่ดีกว่า ทั้งนี้การจัดตั้งรัฐบาลของดีลแลกประเทศ ทำให้ได้พรรคร่วมคณะรัฐประหาร หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน จึงไม่อาจไว้วางใจได้” นายณัฐพงษ์ กล่าว

‘ลุงป้อม’ซัด’บริหารเหลว-หนี้ท่วมหัว

เวลา 09.10น.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ลุกขึ้นอภิปรายทั่วไปไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ว่า เป็นผู้มีพฤติการณ์อันไม่อาจไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินในฐานะนายกฯได้ต่อไป เรื่องการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจ ที่ผิดพลาดล้มเหลว วันนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ปัญหาปากท้องไม่ได้รับการแก้ไข อย่างที่รัฐบาลได้ให้คำมั่นสัญญา พนักงานถูกเลิกจ้าง บริษัทปิดกิจการจำนวนมาก ประชาชนหนี้ท่วมหัว ทั้งในระบบและนอกระบบ หนี้ครัวเรือนสูงถึง 104 % ราคาข้าวและพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ตลาดหุ้นดิ่งเหวในรอบ 3 ปี รัฐบาลไม่มีแนวทางอะไร ที่แก้ปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม จริงๆผมพยายามเอาใจช่วยนายกฯให้แก้ปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องคนไทยให้สำเร็จ เพราะเห็นว่านายกฯเคยบริหารธุรกิจมาก่อน คงมีประสบการณ์ที่จะมาช่วยประเทศชาติได้ แต่ปรากฎว่า นายกฯไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น ซ้ำยังถอยหลังไปอีก จนจีดีพีไทยรั้งท้ายกลุ่มประเทศอาเซียน

ปท.ไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่นซ้อมมือ

พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า ที่สำคัญ คือการตัดสินใจที่ผิดพลาด ขาดความรู้ ความเข้าใจ เรื่องเศรษฐกิจ ด้วยการตัดงบประมาณนับแสนล้านบาท ที่ควรอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แต่นายกรัฐมนตรีกลับเอาเงินก้อนนี้ ไปใช้ แจกเงินหมื่น ซึ่งธนาคารโลก และ กองทุนIMF ได้ออกมาเตือนแล้วว่าการแจกเงินหมื่นไม่ได้ผล แต่ควรกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการต่างๆแทน ถ้านายกรัฐมนตรีได้ศึกษาข้อมูลเศรษฐกิจอย่างรอบคอบในทุกด้าน วันนี้คนไทยจะไม่ลำบาก ทุกข์ใจ ในเรื่องปากท้องอย่างแสนสาหัส ตนเป็นห่วงประเทศชาติอย่างมากและไม่สบายใจต่อการดำเนินนโยบายต่างประเทศและความมั่นคง คือเรื่องของ MOU 44 ที่วันนี้ท่านพาประเทศชาติไปสู่ความเสี่ยง เรื่องสูญเสียดินแดนและทรัพยากรทางทะเลมูลค่ามหาศาลและที่น่าเศร้าใจ คือ ลูกเรือประมงไทยที่นายกฯรับปากว่า จะพากลับไทย นี่ผ่านมา 4เดือนก็ยังไม่ได้กลับ ในฐานะที่ตนทำงานด้านความมั่นคงมาตลอดทั้งชีวิต ตั้งแต่ ผบ.ทบ.รองนายกฯด้านความมั่นคง และรมว.กลาโหม ตนทราบดีว่า การดำเนินงานด้านความมั่นคงไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจในหลายมิติมาก เห็นใจนายกฯที่ต้องเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องที่ท่านไม่มีประสบการณ์ แต่เรื่องความมั่นคงของชาติสำคัญอย่างยิ่ง ประเทศชาติไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่นมาซ้อมมือ

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า การบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะร่างกฎหมายประกอบธุรกิจ สถานบังเทิงครบวงจร หรือที่เรียกกันว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่รัฐบาลพยายามจะผลักดัน มันมีช่องให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบาย เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องได้อย่างมาก ตนขอย้ำว่า โครงการนี้อันตรายอย่างที่สุด เพราะจะทำให้เกิดธุรกิจสีเทาตามมาอีกมาก ซึ่งทุกวันนี้ การปล่อยปละละเลยในเรื่องต่างๆก็ส่งผลให้ไทยกลายเป็นแหล่งฟอกเงินของธุรกิจสีเทา และปัญหาอาชญากรรมมากมาย

ขาดคุณสมบัติซื่อสัตย์สุจริตถืออัลไพน์

พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้นายกฯขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) ( 5)ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะเรื่องการถือหุ้น บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์สปอร์ตคลับ จำกัด ตลอดจนการปล่อยปละละเลย ให้บุคคลในครอบครัวกระทำการ ให้เกิดผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตน เรื่องนี้ขอให้เป็นการตรวจสอบขององค์กรที่เกี่ยวข้องต่อไป ผลเป็นเช่นไร ตนเชื่อว่าประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินท่านเอง “ทั้งหมดที่ผมกล่าวมา ไม่ใช่การกล่าวด้วยอคติ แต่ข้อมูลหลักฐานต่างๆ สส. พรรคพลังประชารัฐอีก4ท่านจะนำเสนอในรายละเอียดต่อไป ผมขอขอบคุณ สส.ทุกท่านในที่นี้ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี และประชาชนทุกคน ที่รับฟังในสิ่งที่ผมพูด ผมเป็นคนพูดไม่เก่ง อาจไม่กระฉับกระเฉงเท่าตอนเป็นหนุ่มๆ ผมจึงใช้ “ใจบันดาลแรง”บริหารประเทศ ให้สำเร็จมาได้หลายอย่าง ส่วนนายกรัฐมนตรีเป็นคนหนุ่มสาวที่ยังมีแรง ผมเชื่อว่าถ้าท่านบริหารประเทศด้วยสติปัญญามีความอ่อนน้อม แต่หนักแน่นในหลักการ ยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติมากกว่าครอบครัว พวกพ้อง ผมเชื่อว่าประชาชน จะชื่นชมและยอมรับท่านเองครับ ขอให้โชคดีครับ”พล.อ.ประวิตร กล่าวทิ้งท้าย

‘อิ๊ง“ย้อน’ที่พูดมาไม่เป็นความจริงค่ะ’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันที่ พล.อ.ประวิตร อภิปรายจบ น.ส.แพทองธาร ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีสมาชิกฝ่ายค้านขึ้นมาอภิปรายในประเด็นต่างๆต่อจากนี้อีกหลายท่านและตนเองพยายามจะตอบทุกๆหัวข้อจะได้มีความสบายใจเกิดขึ้น สำหรับหัวหน้าพรรคพปชร.ผู้อาวุโสเมื่อกี้ตนได้ฟังท่านและจับเวลานาฬิกาด้วยตัวเอง ท่านผู้ประมาณ 10นาทีและอยากจะบอกว่า ที่ท่านสมาชิกอาวุโสพูดเมื่อสักครู่นี้ไม่เป็นความจริงค่ะ” น.ส.แพทองธาร กล่าวพร้อมยิ้มมุมปาก ก่อนลงนั่งเก้าอี้นายกฯ

‘วิโรจน์’ซัดนิติกรรมอำพรางหนีภาษี

เวลา09.40น.นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้รับเวลาการอภิปรายถึง70นาที กล่าวว่า คุณสมบัตินายกฯต้องซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ต้องไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง หากดูในรัฐธรรมนูญหมวด4 หน้าที่ของปวงชนชาวไทย ในมาตรา50(9) ระบุ บุคคลมีหน้าที่เสียภาษีอากรตามที่กฎหมายบัญญัติ แม้แต่นายกฯก็ไม่ได้รับการละเว้นในเรื่องนี้ ดังนั้นโดยสำนึกแล้ว นายกฯควรเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องเสียภาษี รวมถึงระบบการจัดเก็บภาษีต้องมีความเป็นธรรมต่อสังคม ถ้านายกฯยังทำตัวหนีภาษี ความเป็นธรรมจะเกิดขึ้นกับประชาชนได้อย่างไร ทุกคนทราบดีว่าภาษีเป็นแหล่งรายได้หลักประเทศ เพื่อนำมาพัฒนาประชาชน และประเทศ แต่หนึ่งในปัญหาการจัดเก็บภาษีของไทยปัจจุบัน คือการที่คนรวยบางกลุ่มก่อนใช้ช่องว่างทางกฎหมายหลบเลี่ยงภาษี ซ้ำร้ายหลายกรณีเข้าข่ายหนีภาษี ภาระการเสียภาษีส่วนใหญ่จึงตกไปอยู่กับมนุษย์เงินเดือน ชนชั้นกลาง และประชาชนชาวรากหญ้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พอสิ้นเดือนต้องโดนหักภาษีมูลค่าเพิ่ม พฤติกรรมการหนีภาษีน่ารังเกียจ เอาเปรียบประชาชน และขัดขวางการพัฒนาประเทศ ผมนึกไม่ถึงว่าพฤติกรรมที่น่าอดสูแบบนี้ จะเกิดขึ้นกับคนที่ชื่อว่าแพทองธาร ชินวัตร นายกฯ การอภิปรายครั้งนี้ไม่ใช่แค่ไม่ไว้วางใจน.ส.แพทองธาร แต่อภิปรายเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ให้ประชาชนได้รู้ว่า คนอย่างแพทองธาร ใช้ช่องว่างกฎหมายทำนิติกรรมอำพรางในการหนีภาษี เป็นเยี่ยงอย่างให้การหลีกเลี่ยงภาษีของคนใหญ่โตเป็นเรื่องปกติ สร้างภาวะให้สังคมต้องจำยอมรับสภาพ มนุษย์เงินเดือน คนจน คนฐานราก ต้องแบกรับภาษของประเทศ ถูกขูดรีดให้ต้องปรนเปรอให้คนมั่งมีที่เห็นแก่ตัวได้เสวยสุขอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร หนึ่งในนั้นคือแพทองธาร หลังจากที่น.ส.แพทองธาร ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกฯ เมื่อวันที่18ส.ค.67 น.ส.แพทองธาร มีการโอนหุ้น19บริษัท มูลค่า 9,330.5 ล้านบาท แต่ที่ผมต้องการถามเป็นแค่การโอนหุ้น 2 บริษัท มูลค่า 393.5 ล้านบาทของตัวเองไปให้กับแม่และพี่สาว ผมขอถามว่าโอนไปด้วยวิธีใด เป็นการให้ หรือขายหุ้น

ออกตั๊วPNตบตาโอนหุ้นให้ตัวเอง

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า น.ส.แพทองธาร มีพฤติกรรมใช้ช่องว่างทางกฎหมายทำนิติกรรมอำพรางในการหนีภาษีการรับให้ตั้งแต่ปี2559 จากที่มีการแก้กฏหมายประมวลรัษฎากรในส่วนของภาษีการรับให้บังคับใช้เมื่อวันที่ 1ก.พ.59 ผมจึงอยากชวนมาดูพฤติการณ์การซื้อหุ้นของแพทองธาร ชินวัตร กันแบบช้าๆ ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป แล้วให้ประชาชนทั้งประเทศ มาพิจารณาร่วมกันว่า จริงๆ แล้วแพทองธาร ซื้อหุ้น หรือได้หุ้นมาจากการให้ของ พี่สาว พี่ชาย ลุง ป้าสะใภ้ และแม่ กันแน่ น.ส.แพทองธาร ได้หุ้นมูลค่า 2,388.7ล้านบาท มาจากพี่สาว โดยเป็นการซื้อเชื่อ โดยที่น.ส.แพทองธารไม่ได้จ่ายเงินให้กับพี่สาวเลยแม้แต่บาทเดียว ออกตั๋ว PN เป็นกระดาษ 4 ใบ ให้พี่สาวไปนอนกอด หุ้นมูลค่า2,388.7 ล้านบาท เปลี่ยนมือจากพี่สาว ไปอยู่ในมือของน.ส.แพทองธาร เป็นที่เรียบร้อย โดยพี่สาวเป็นเจ้าหนี้ที่แสนดีไม่กำหนดว่า จะจ่ายหนี้ค่าซื้อหุ้นให้พี่สาวเมื่อไหร่ ดอกเบี้ยพี่สาวก็ไม่คิด

“นี่คือการซื้อหุ้นจากพี่สาว หรือเจตนาแล้วมันคือการได้หุ้นมาจากการให้ของพี่สาวกันแน่ กรณีพี่ชาย(นายพานทองแท้ ชินวัตร) ก็เหมือนกัน น.ส.แพทองธารได้หุ้นมูลค่า 335.4 ล้านบาท มาจากพี่ชาย โดยการซื้อเชื่อเช่นกัน โดยที่ น.ส.แพทองธาร ไม่ได้จ่ายเงินให้กับพี่ชาย เพียงแต่ออกตั๋ว PN เป็นกระดาษ 1ใบ ให้พี่ชายเก็บเอาไว้ ไม่มีกำหนดว่าจะจ่ายหนี้ค่าซื้อหุ้นให้พี่ชายเมื่อไหร่ ดอกเบี้ยพี่ชายก็ไม่คิด ตกลงแล้วมันคือการซื้อหุ้นจากพี่ชาย หรืออันที่จริงแล้วมันคือการได้หุ้นมาจากการให้ของพี่ชาย ส่วนกับลุง กับป้าสะใภ้ และกับแม่ ก็เช่นเดิม น.ส.แพทองธารได้หุ้นมาจากลุงมูลค่า 1,315.5 ล้านบาท ได้หุ้นมาจากป้าสะใภ้มูลค่า258.4 ล้านบาท และได้หุ้นมาจากแม่มูลค่า 136.5 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อเชื่อ น.ส.แพทองธารไม่ได้จ่ายเงินสักบาทให้กับลุง ไม่ได้จ่ายเงินสักบาทให้กับป้าสะใภ้ ไม่ได้จ่ายเงินสักบาทให้กับแม่ แต่ออกตั๋ว PN ให้ลุงเอาไปกอด 2 ใบให้ป้าสะใภ้ และแม่ไปเก็บไว้ใต้หมอนคนละใบ อย่างนี้ตกลงเป็นการซื้อหุ้น หรือได้หุ้นมาจากการให้ ของ ลุง ป้าสะใภ้และแม่ กันแน่”นายวิโรจน์

จงใจหลีกเลี่ยงเสียภาษี218ล้านบาท

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ถ้าน.ส.แพทองธาร ได้หุ้นมาจากการให้ของ พี่สาว พี่ชาย ลุง ป้าสะใภ้ และแม่ ก็ต้องเสียภาษีการรับให้ให้กับรัฐ แต่ถ้าน.ส.แพทองธาร ซื้อหุ้นจากพี่สาว พี่ชาย ลุง ป้าสะใภ้ และแม่ น.ส.แพทองธารก็ไม่ต้องจ่ายภาษีเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว และเนื่องจากหลักเกณฑ์การรับรู้รายได้ในการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะใช้เกณฑ์เงินสด ซึ่งรายได้จะถูกนับเป็นเงินได้พึงประเมิน ก็ต่อเมื่อมีการรับเงินสดจริง ดังนั้นการที่น.ส.แพทองธาร จ่ายค่าหุ้นที่ซื้อด้วยตั๋ว PN ที่ไม่ได้มีการจ่ายเงินกันจริง จะจ่ายกันเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ทำให้พี่สาว พี่ชาย ลุง ป้าสะใภ้ และแม่ ไม่ต้องเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดาเลยแม้แต่บาทเดียว และต่อให้มีการจ่ายค่าซื้อหุ้นกันในภายหลัง พี่สาว พี่ชาย ลุง ป้าสะใภ้และแม่ ก็ไม่ต้องเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดาอยู่ดี เพราะตามมาตรา 40(4)(ช) ของประมวลรัษฎากรกำหนดว่า รายได้จากการขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ เฉพาะส่วนเกินจากมูลค่าหุ้น (Capital Gain) หรือกำไรจากการขายหุ้นเท่านั้นจึงจะถูกนับเป็นเงินได้พึงประเมิน ดังนั้นหากกงสี ขายหุ้นให้น.ส.แพทองธารในราคาพาร์ หรือราคาทุน พี่สาว พี่ชายลุง ป้าสะใภ้ และแม่ ก็ไม่ต้องจ่ายภาษีรายได้บุคคลธรรมดาเลย สลึงเดียวก็ไม่กระเด็นออกจากกงสี ดังนั้นเมื่อคำนวณรวมแล้วน.ส.แพทองธาร ใช้ตั๋ว PN สร้างหนี้ปลอม เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีการรับให้เป็นเงินสูงถึง 218.7ล้านบาท

มีแต่ความทุจริตเป็นที่ประจักษ์

นายวิโรจน์ กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ไม่มีความยึดมั่นในกฎหมายเลย วันๆคิดแต่จะหาช่องหาหลืบของกฎหมายกระทำการอย่างไร้ความละอาย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ตนเอง เอารัดเอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบประเทศชาติ นายกฯหนีภาษีแบบนี้ หากปล่อยให้ดำรงตำแหน่งต่อไป ไม่ใช่แค่เสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง แต่ถึงขั้นเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ของประเทศชาติ เราจะบอกกับประเทศอื่นๆ ยังไง ว่าประเทศไทยของเรามีนายกหนีภาษี รู้ถึงไหนอายถึงนั่น ทั้งนิติกรรมอำพราง ที่ใช้ตั๋ว PN หนีภาษีการรับให้มูลค่า 218.7 ล้านบาท ย่อมเป็นที่ประจักษ์ว่า คนอย่าง น.ส.แพทองธาร มีแต่ความทุจริตเป็นที่ประจักษ์ วันๆ เอาแต่เสาะหาช่องว่างทางกฎหมาย เพื่อตักตวงผลประโยชน์ให้กับตนเอง จุ๊บๆจิ๊บๆ ก็เอาเล็กๆน้อยๆ ก็ไม่เว้นหนีภาษีแบบนี้ ไม่ใช่แค่เป็นนายกไม่ได้ แต่เป็นแค่คนปกติก็ยังเป็นไม่ได้ น.ส.แพทองธาร ไม่ใช่แค่ไม่มีศักดิ์ศรีที่จะลุก เดิน ยืน นั่ง ในทำเนียบรัฐบาล แม้แต่ตามถนนหนทางตามตรอกซอกซอย ในประเทศนี้ คนหนีภาษีอย่างน.ส.แพทองธาร ก็ไม่มีหน้าที่จะเดินหน้าตั้งคอตรง สู้หน้าประชาชนได้อีกต่อไป

เตือนสส.หนุนชง’ปปช.’ฟันยกเข่ง

นายวิโรจน์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้จะต้องร้องไปที่ ปปช.ไต่สวนเรื่องนี้แน่ เชื่อว่าพฤติกรรมเช่นนี้ น.ส.แพทองธาร ไม่รอด ตนเป็นห่วงก็แต่สส.ที่จะยกมือไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ให้ดำรงตำแหน่งนายกฯต่อไป เพราะอาจเข้าข่ายร่วมกันฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญได้ หากมีคนไปร้องสส.ที่ยกมือให้แพทองธาร ก็อาจจะเข้าปิ้งตายตกตามน.ส.แพทองธารไปด้วย ประชาชนฝากความหวังไว้กับผู้นำ แต่กลับได้โจรใส่อาภรณ์ ขุนนางสวมรองเท้าไข่มุก ปากที่ตัวเองเคยพูดว่ามีกินมีใช้ไปพร้อมๆ กัน ที่แท้ก็คือการหาช่องว่างทางกฎหมายเพื่อให้มีกินกันเฉพาะกงสีให้ได้อิ่มหมีเฉพาะตระกูล น.ส.แพทองธาร นายกหนีภาษี ไม่มีศักดิ์ศรีที่จะดำรงตำแหน่งต่อไปได้อีกแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงระหว่างที่นายวิโรจน์อภิปราย มีสส.จากฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงเป็นระยะๆตลอดการอภิปรายของนายวิโรจน์ จนทำให้วุ่นวาย เพราะมีการอภิปรายพาดพิงไปถึงบุคคลในครอบครัวของ น.ส.แพทองธาร เริ่มจาก นางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย กำลังจะลุกขึ้นประท้วง แต่ถูก นายวิโรจน์ สวนขึ้นมาว่า “ร้องกี้ก่อนได้มั้ยครับ” โดยนางนุชนาถ กล่าวว่า นายวิโรจน์ ไม่รู้สี่รู้แปด นายโรจน์ จึงตอบโต้ว่า“หากอยู่ในสภาฯต้องอยู่ในฐานะลิ่วล้อ เป็นบริวาร ไม่มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จะอยู่ทำไม ผมถามแค่นี้ ไม่มีความเป็นศักดิ์ศรีของความเป็นสส.จะอยู่ทำไม”

ทั้งนี้ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่1 ที่สลับขึ้นมาทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พยายามควบคุมการประชุม และได้ปิดไมโครโฟน แต่ไม่เป็นผล นายวิโรจน์ ยังตะโกนอภิปราย จนมีเสียงดังภายในห้องประชุมดังสวนขึ้นว่า “ออกไป”

‘อิ๊งค์’ยันเสียภาษีถูกต้อง-โปร่งใส

น.ส.แพทองธารได้ลุกขึ้นชี้แจงประเด็นตั๋วPN ตอบโต้ข้อกล่าวหา นายวิโรจน์ ที่ระบุว่า เป็นการทำนิติกรรมอำพรางเพื่อหนีภาษีโอนหุ้น โดยยืนยันว่าทุกอย่างโปร่งใสและเป็นไปตามกฎหมาย นายกฯระบุว่า ฝ่ายค้านใช้สำนวนโวหารบิดเบือนข้อเท็จจริงและนำภาษีคนละหมวดมาอธิบายให้ประชาชนเข้าใจผิด ย้ำว่าตนเองเสียภาษีถูกต้องทุกขั้นตอน และมั่นใจว่า

“แม้อายุน้อยกว่าท่าน แต่เสียภาษีมากกว่าท่านแน่นอนและยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ปปช.อย่างครบถ้วนและพร้อมให้ตรวจสอบทุกอย่าง ขณะที่ธุรกรรมทางการเงินและที่ดินของครอบครัวถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้นตั้งแต่รัฐประหาร2549และทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย การพูดเพื่อให้คนแตกแยก ไม่ใช่สิ่งที่ผู้มีวุฒิภาวะควรทำ”

‘จุลพงศ์’ซัดใช้อำนาจฮุบอัลไพน์

เวลา 11.30 น. นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคปชน.อภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ว่า นายกฯมีพฤติกรรมร่วมสมคบคิดคนในครอบครัว ใช้อิทธิพลทางการเมืองของบิดาเพื่อให้ที่ธรณีสงฆ์ที่บริษัทอัลไพน์กอล์ฟแอนด์สปอร์ตคลับ จำกัด ที่ยึดถืออยู่ไม่ต้องคืนเป็นที่ดินของวัด หลังจากที่ น.ส.แพทองธาร ได้ถือหุ้นแทนบิดาในบริษัทดังกล่าวมาระยะหนึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้ามาเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าวในช่วงปี 59-67และน.ส.แพทองธาร ก็ทราบดีว่า ที่ดินสนามกอล์ฟของบริษัทเป็นที่ธรณีสงฆ์ ที่ควรต้องคืนกลับให้วัด หลังจากมีคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลอาญาทุจริต ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจไม่เคยแสดงเจตนาที่จะทำเรื่องนี้ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ฉวยโอกาสให้บริษัทของตัวเองประกอบธุรกิจสนามกอล์ฟเพื่อแสวงหากำไรจากที่ดินของวัด เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อน.ส.แพทองธารมาเป็นนายกฯก็ใช้อำนาจหน้าที่กับข้าราชการเพื่อฮุบที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ต่อให้นานที่สุด ตอนนี้นายกฯ ยังนำเรื่องสนามกอล์ฟมาต่อรองกับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อจะได้ค่าชดเชยจากกรมที่ดินกว่า 7พันล้านกว่าบาท จากการที่ถูกเพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ของวัด หากจะต้องโอนที่ดินคืนให้แก่วัด

ละเลยแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ

เวลา12.30น.นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคประชาชน อภิปรายในประเด็นการละเลยการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ ที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนจำนวนมากว่า ตามรายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสื่อสาร โทรคมนาคมและดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาผู้แทนราษฎร ชี้ชัดว่ามีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเป็นคนนำเข้าเพียงรายเดียวเมื่อปี2549 แม้จะมีข้อมูลว่า ปลาหมอคางดำที่นำเข้านั้นตายหมด แต่ไม่มีการพิสูจน์ใดๆ สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นที่พบการระบาดหนักปี2567ไม่พบการแก้ปัญหาของรัฐบาล แม้มีม็อบปลาหมอคางดำ ยื่นข้อร้องเรียนต่อนายกฯ แต่นายกฯกลับไม่สนใจ เพราะไปรับช่อดอกไม้จากนายทุน ขอให้ สส.ดูแลปัญหาและใช้อำนาจที่ได้มาจากประชาชน วันนี้ช่วยลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯ เพื่อแสดงเจตจำนงไม่ยอมให้กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่กอบโกยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทยและเพื่อสู้กับผู้ควบคุมรัฐบาลที่ชักใย ชื่อเรียกว่า’สทร.’

‘สมชัย’ให้’ลุงป้อม’8คะแนนฝืนสังขาร

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต.และนักวิชาการ ได้โพสต์ข้อความทาง facebookเนื้อหาการให้คะแนนการอภิปรายไม่ไว้วางใจช่วงเช้า โดยให้คะแนน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านฯได้ 6.5จาก 1 คะแนน โดยเห็นว่ายังอภิปรายราบเรียบ พยายามให้ครอบคลุมประเด็นแบบกว้างๆยังไม่มีอะไรประทับใจ ไม่สามารถอธิบายคำว่าดีลและประเทศได้อย่าง ขณะที่ พล.อ.ประวิตร เห็นว่าการอภิปรายเนื้อหา 10นาที ควบคุมเนื้อหาได้อย่างดี แรงในประเด็นไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีการทำนิติกรรมอำพราง มีการยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ เป็นการเปิดประเด็นให้แก่ผู้อภิปรายคนต่อไปถ้าอย่างสวยงาม ไปให้คะแนนความพยายามฝืนสังขารอภิปรายที่ทุกคนต้องลุ้นและปรบมือให้ตอนจบที่ 8คะแนน ส่วน น.ส.แพรทองธาร ที่ลุกตอบไม่ถึงนาทีแบบไร้วุฒิภาวะสร้างมุกตลก โดยใช้คำพูดในอดีตของ พล.อ.ประวิตรสั้นๆ”ที่กล่าวมานั้นไม่เป็นความจริง”นายสมชัย เห็นว่า คงนึกว่าเฉียบคม แต่เป็นตลกที่ดิสเครดิตตัวเองว่า เหมาะไปวิ่งเล่นกับลูกมากกว่าเป็นนายกฯให้ 1คะแนนขณะที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคปชน.อภิปรายในประเด็นการยื่นทรัพย์สินหนี้สินเป็นเท็จ การทำนิติกรรมอำพรางและหลีกเลี่ยงภาษีของนายกฯ เป็นประเด็นที่ขยายความต่อจาก พล.อ.กประวิตร ให้คะแนน8.5

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘วันนอร์’ยัน‘รองปธ.สภาคนที่ 2’ ไม่ใช่โควตาของพรรคใด คาดไม่เกิน ก.ค.ได้คนใหม่ ‘วันนอร์’ยัน‘รองปธ.สภาคนที่ 2’ ไม่ใช่โควตาของพรรคใด คาดไม่เกิน ก.ค.ได้คนใหม่
  • รู้ทัน‘ทักษิณ’ ‘เจิมศักดิ์’ซัด‘ตระกูลชิน’ยังสร้างปัญหา แล้วอนาคตจะเป็นอย่างไร รู้ทัน‘ทักษิณ’ ‘เจิมศักดิ์’ซัด‘ตระกูลชิน’ยังสร้างปัญหา แล้วอนาคตจะเป็นอย่างไร
  • ‘พรรคส้ม’อ้างหลายเหตุผล ชี้ยังไม่เหมาะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ‘พรรคส้ม’อ้างหลายเหตุผล ชี้ยังไม่เหมาะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ
  • \'นายกฯอิ๊งค์\'ชี้\'คนไทย\'เป็นซอฟต์พาวเวอร์ ต่างชาติหลงเสน่ห์ 'นายกฯอิ๊งค์'ชี้'คนไทย'เป็นซอฟต์พาวเวอร์ ต่างชาติหลงเสน่ห์
  • 15 องค์กรประชาธิปไตยฯ แถลงการณ์จี้‘แพทองธาร’ลาออก รับผิดชอบทางการเมือง 15 องค์กรประชาธิปไตยฯ แถลงการณ์จี้‘แพทองธาร’ลาออก รับผิดชอบทางการเมือง
  • ‘อ.ไชยันต์’ขอบคุณ‘ทักษิณ-พรรคร่วม’ ฟื้นคืน‘การเมืองเน่าๆเก่าๆ’ให้คนรุ่นใหม่ได้เห็น ‘อ.ไชยันต์’ขอบคุณ‘ทักษิณ-พรรคร่วม’ ฟื้นคืน‘การเมืองเน่าๆเก่าๆ’ให้คนรุ่นใหม่ได้เห็น
  •  

Breaking News

รักของขวัญใจมหาชน!'รอนนี่'เยียวยาครั้งใหญ่เพื่อกลับมาเป็นแชมป์

'อั๋น'นอยด์โดนบังคับถ่ายพรีเวดดิง'ชมพู'สะใภ้ปีเถาะ สุดแสบวางแผนเด็ด

(คลิป) แฉ! ความลับวงใน'พรรคส้ม' นาทีทองเรียกร้อง'ยุบสภา'เพราะอะไร?

'SPORTS LIFE'เปิดใจทีมแกร่ง'รร.ท่าข้ามพิทยาคม'หลังคว้าแชมป์'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved