‘กมธ.ไอซีทีสว.’สั่งตลาดหลักทรัพย์คุมเข้มโปรแกรมซื้อ-ขายหุ้น ป้องกันเอาเปรียบนักลงทุน

‘กมธ.ไอซีทีสว.’สั่งตลาดหลักทรัพย์คุมเข้มโปรแกรมซื้อ-ขายหุ้น ป้องกันเอาเปรียบนักลงทุน

วันอังคาร ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2568, 22.09 น.

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม (ICT) วุฒิสภา โดยมี นายนิเวศ พันธ์เจริญวรกุล ประธานคณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมาธิการ

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้หารือประเด็น การซื้อขายหุ้นความถี่สูง (High-Frequency Trading: HFT) ซึ่งเป็นระบบซื้อขายอัตโนมัติที่ใช้คอมพิวเตอร์ส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นจำนวนมากในเสี้ยววินาที ที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุน ในตลาดทุนและเศรษฐกิจของประเทศ ตามที่นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ วุฒิสมาชิก ในฐานะคณะกรรมาธิการฯ เป็นผู้เสนอ โดยเชิญผู้แทนจากกระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สภาธุรกิจ ตลาดทุนไทย และสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เข้าร่วมประชุม


โดยที่ประชุมได้ให้ข้อคิดเห็นว่า การนำเทคโนโลยีมาใช้ในตลาดทุนต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึง ความเสถียรภาพ และความเป็นธรรม ของตลาดหลักทรัพย์ไทย รวมถึง มาตรการกำกับดูแล ที่เหมาะสม เพื่อป้องกันผลกระทบจากโปรแกรมซื้อขายหุ้นความถี่สูง (HFT)

นายนิเวศ กล่าวว่า HFT มีทั้งข้อดีและข้อเสีย มันช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาด แต่หากขาดมาตรการควบคุม อาจทำให้ตลาดผันผวนหนัก กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายย่อย ซึ่งเทคโนโลยีต้องเป็นเครื่องมือสร้างโอกาส ไม่ใช่ช่องทางเพิ่มความเหลื่อมล้ำของกลุ่มทุน

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับฟังรายงานผลดำเนินงานของคณะอนุกรรมาธิการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ในครั้งที่ผ่านมาซึ่งมีการพิจารณา ข้อมูลผลการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอาชญากรรม ออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center: AOC 1441) ซึ่งได้จัดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างรายงานพิจารณาศึกษา เรื่อง การดำเนินการป้องกันและปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียและบริการโทรคมนาคม และพิจารณาศึกษาแนวทางการกำกับดูแลการประกอบกิจการโทรทัศน์ดิจิทัลของประเทศไทย

ขณะที่คณะอนุกรรมาธิการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้รายงานสรุปผลการประชุมที่ ผ่านมาว่า มีการพิจารณาแนวทางการแก้ไขและป้องกัน ปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ร่วมกับคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง โดยเชิญพลตำรวจโท วันไชย เอกพรพิชญ์ ประธาน ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ ในคณะกรรมาธิการการกฎหมายและการยุติธรรม วุฒิสภา เข้าร่วมประชุม โดยคณะอนุฯชุดนี้ได้รายงานการเดินทางไปราชการที่จังหวัดขอนแก่นและมหาสารคาม เพื่อศึกษาแนวทางการป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์ และการติดตาม ความคืบหน้าการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City)

คณะอนุกรรมาธิการดิจิทัลฯ รายงานเพิ่มเติมว่า ได้ทำข้อเสนอแนะแนวทางการใช้ประโยชน์จาก Digital and Data Center ในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ของประเทศไทย โดยโดยให้รวมไปถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การบริหารราชการแผ่นดิน โดยในการประชุมครั้งที่ผ่านมาได้เชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย

ด้าน คณะอนุกรรมาธิการศึกษากฎหมายด้านการสื่อสาร การโทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (คณะที่ 3) ได้รายงานว่ามีการประชุมครั้งที่ผ่านมาได้มีการพิจารณาศึกษา เรื่อง การจัดระเบียบสายสื่อสาร การนำสายสื่อสารลงใต้ดิน และการเชื่อมต่อสายสื่อสารกับประเทศเพื่อนบ้าน และพิจารณาความคืบหน้าการเดินทางไปราชการเพื่อติดตามการดำเนินการบริหารจัดการสายสื่อสารที่ไม่ได้ใช้งาน ในวันที่ 2 เม.ย.68 นี้ ที่ศูนย์บริการกำจัดกากอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง

ในช่วงท้ายของการประชุม นายชิบ จิตนิยม วุฒิสมาชิก ได้เสนอให้ตั้ง "คณะทำงานด้านการประชาสัมพันธ์" เพื่อมารับผิดชอบงานด้านการเผยแพร่ผลงานของคณะกรรมาธิการให้ประชาชนได้รับทราบ โดยประธานกรรมาธิการได้อนุมัติให้ดำเนินการ และมอบหมายให้นายชิบ ไปเตรียมการแต่งตั้งคณะทำงาน และนำมาเสนอในที่ประชุมในการประชุมครั้งถัดไป

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top