'อ้วน-หนู’โชว์หวานสยบร้าวพท.-ภท.
จับมือชั่วนิรันดร์
‘อิ๊งค์’ยันไม่คิดปรับครม.
ย้ำทุกอย่างยังเหมือนเดิม
พรรคร่วมฯประสานเสียง
ยังไม่ได้รับสัญญาณปรับ
นายกฯ“อิ๊งค์”ย้ำชัด ยังไม่คิด“ปรับครม.”ยกคำพระ ทิ้งปริศนา “ทุกอย่างล้วนอนิจจัง”แม้ตำแหน่งนายกฯก็เช่นกัน ทำใจให้นิ่งไว้ ตกใจกระแสเขี่ย“ภูมิใจไทย”ย้ำทุกอย่างยังเหมือนเดิมย้ำยังไม่ปรับก.เศรษฐกิจตามโพลล์“ภูมิธรรม”ย้ำสัมพันธ์ พท.-ภท.เหมือนเดิม นายกฯยังไม่มีสัญญาณปรับครม. ชี้เรื่องลอยขึ้นมาไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย “อนุทิน”เซ็งสื่อเสี้ยม‘ปรับครม.-เอาภท.ออก โอดตกเป็นเป้าถูกแกล้ง ลามถึงขั้นดึง‘ยิ่งลักษณ์’สั่งเขี่ยทิ้งยันเป็นอำนาจนายกฯไม่ต้องถามใคร ย้ำหากนายกฯไม่ให้ความมั่นใจ คงไม่ยืนตรงนี้ตกบ่าย‘ภูมิธรรม-อนุทิน’ควงแขน โชว์ซีนหวานสยบรอยร้าว บอก‘พท.-ภท.’จะจับมือกันชั่วนิรันดร์‘เสี่ยหนู’หยอกกลับ บอก‘เดี๋ยวหอมแก้ม’ขณะที่แกนนำพรรคร่วมฯประสานเสียงยังไม่ได้รับสัญญาณปรับครม.จากนายกฯ
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในช่วงนี้ข้อเท็จริงเป็นอย่างไร
‘อิ๊งค์’ทิ้งคำทุกอย่างล้วนอนิจจัง
โดยน.ส.แพทองธารหัวเราะก่อนตอบว่าความจริงตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิมและทราบมาว่ามีเรื่องของผลโพลที่ทุกคนให้ความสนใจ ความจริงแล้วตนพร้อมรับฟังทุกความเห็นไม่ว่าจะเป็นผลโพลหรือความเห็นของประชาชนจะนำไปคิดความจริงแล้วใดๆในโลกล้วนอนิจจังไม่ว่าตำแหน่งทุกอย่างหรือแม้แต่ตำแหน่งของนายกฯก็เช่นกัน ไม่ใช่แค่ตำแหน่งของใครคนใดคนหนึ่ง ตำแหน่งของนายกฯก็เช่นกันเพราะฉะนั้นเราก็ทำใจให้นิ่งไว้
ยังไม่คิดปรับ/ทุกอย่างเหมือนเดิม
เมื่อถามว่าที่บอกให้ทำใจให้นิ่งเป็นการสื่อสารไปยังรัฐมนตรีทุกคนใช่หรือไม่น.ส.แพทองธารตอบว่า ไม่ค่ะทุกๆคนบอกว่าทุกๆอย่างเราต้องใจนิ่งๆไว้ ตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิมไม่ได้คิดจะปรับอะไร แต่พอรับฟังความคิดเห็นก็ต้องมาดูว่าอย่างไรบ้าง เพราะความจริงแล้วตนชอบทำงานเป็นทีม ชอบทำงานในแบบที่ทำงานด้วยกันไม่ต้องสู้กันไม่ต้องไฟต์กันในแต่ละกระทรวง ยืนยัน ไม่ชอบความแตกสามัคคี แต่ก็ทำดีที่สุดแล้วดูว่าเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นอะไร
ตกใจข่าวเขี่ย‘ภูมิใจไทย’ปัดไม่มี
เมื่อถามว่าการทำงานของครม.ชุดนี้ที่ผ่านมาในเรื่องความสามัคคีเป็นอย่างที่หวังไว้ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่าถือว่ามีความสามัคคี เมื่อมอบนโยบายใดๆ ทุกคนก็พยายามทำเต็มที่และเกิดขึ้นจริง แต่ก็เข้าใจหลายๆกระทรวงที่บางทีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดไว้ บางนโยบายหรือบางอย่างอาจขลุกขลักบ้างอันนี้เข้าใจได้
เมื่อถามถึงมีการวิเคราะห์กันว่าจะปรับพรรคภูมิใจไทยออกแล้วนำพรรคพลังประชารัฐเข้ามาแทน น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “อะไรนะ เอาพรรคภูมิใจไทยออก เอาพลังประชารัฐเข้าแทน หืมอันนี้โอโห คำถามนี้แรง ยังไม่มีอย่างนั้นนะคะ ตอนนี้ทุกอย่างเหมือนเดิมอยู่”
ย้ำยังคงเดิมไม่ปรับกระทรวงศก.
เมื่อถามย้ำว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นเหมือนในปัจจุบันจนจบรัฐบาลหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ก็อยากให้เป็นเช่นนั้นจะมีอะไรอีกหรือไม่เล่าให้ฟังหน่อยบ้างสิ ดูดวงให้หน่อย
เมื่อถามว่าผลโพลบอกให้ปรับในส่วนของกระทรวงเศรษฐกิจซึ่งสอดคล้องกับเสียงสะท้อนของคนในพรรค เราจะปรับยุทธศาสตร์หรือปรับตัวรัฐมนตรี น.ส.แพทองธารกล่าวว่าตอนนี้ยังไม่ตกผลึกทุกอย่างเหมือนเดิมขอตอบตามนี้ แต่เรารับฟังทุกความคิดเห็น
‘อ้วน’ยืนยันไร้สัญญาณปรับครม.
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกระแสปรับ ครม.ว่าเป็นดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี หากนายกฯเห็นว่ารัฐมนตรีกระทรวงใดมีความไม่เหมาะสมก็เป็นสิทธิของนายกฯที่จะปรับหากเป็นโควต้าไหนกระทรวงใดและอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใดก็ต้องเคลียร์กับพรรคนั้น ตอนนี้ยังไม่มีใครได้สัญญาณอะไรจากนายกฯว่าจะปรับครม.เป็นเรื่องพูดกันแต่คนวงนอกเป็นส่วนใหญ่ ตนรู้สึกว่าอยู่ดีๆเรื่องนี้ก็ลอยขึ้นมาเป็นประเด็น โดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ดังนั้น เรื่องนี้ต้องถามนายกฯเอง
ย้ำสัมพันธ์‘พท.-ภท.’เหมือนเดิม
ส่วนความขัดแย้งของพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า แต่ละพรรคก็มีเรื่องภายในของตัวเองที่ต้องไปเคลียร์ แต่สำหรับหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่มีประเด็นอะไรขัดแย้งกัน แต่อาจมีเห็นต่างกันบ้าง ถือเป็นเรื่องธรรมดาในระบอบประชาธิปไตย เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ ทั้งหมดต้องอาศัยหลักการและความถูกต้อง
เมื่อถามอีกว่าในฐานะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมองว่าพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย ยังเดินกันต่อไปได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า“ก็อยู่ที่พรรคภูมิใจไทย และอยู่ที่ภายในของพรรคเพื่อไทย แต่ละพรรคต้องไปทำความเข้าใจของตัวเอง ทำความเข้าใจได้ ยอมรับหลักการได้ พรรคร่วมรัฐบาลก็เดินต่อไปได้”
สรวงศ์’โอดขออย่าโหม‘ปรับ ครม.’
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย(พท.)ให้สัมภาษณ์ถึงผลโพลที่ประชาชนอยากให้มีการปรับครม.ในหลายกระทรวงว่า ไม่ทราบเลย อย่างที่นายกรัฐมนตรีพูดและพูดตรงๆข่าวเรื่องการปรับ ครม. ตนรบกวนจริงๆในฐานะที่อยู่ตรงนี้จะโดนปรับหรือไม่โดนปรับ ใครจะโดนหรือไม่โดนมันมีผลต่อการทำงานจริงๆ รบกวนว่าอย่างที่นายกฯได้แจ้งไปกับสื่อมวลชนและประชาชนว่า ณ ตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ทุกคนยังทำงานตามปกติ
ยันนายกฯพร้อมรับฟังโพล-ปชช.
ส่วนผลโพลที่ออกมาแสดงให้ครม.เห็นว่าควรมีการปรับครม.นั้น นายกฯรับฟังทุกเสียง ทั้งเสียงของผลโพลและเสียงของประชาชนนายกฯรับฟังอยู่แล้ว ต้องให้นายกฯพิจารณาเอง ส่วนหากอยากให้อายุครม.ยืดยาวจนครบวาระควรจะต้องมีการปรับ ครม.ให้เร็วขึ้นหรือไม่นายสรวงศ์ กล่าวว่า ต้องให้นายกฯพิจารณาส่วนหากมีการปรับมีการสลับกระทรวงพรรคร่วมรัฐบาลจะมีความไม่พอใจหรือไม่นายสรวงศ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ทุกอย่างเป็นอำนาจตัดสินใจของนายกฯและมั่นใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและเพื่อให้การทำงานราบรื่น แต่อย่างที่นายกฯบอกณ ตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
‘หนู’ยันปรับครม.เป็นอำนาจนายกฯ
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้สัมภาษณ์ที่กระทรวงมหาดไทย ถึงกระแสข่าวพรรคภูมิใจไทยจะถูกปรับออกจากพรรคร่วมรัฐบาลที่มีมาอย่างต่อเนื่องถึงขั้นมีชื่อของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯน้องสาวนายทักษิณ ชินวัตรกำชับในวงประชุมให้เขี่ยพรรคภูมิใจไทยออกว่าการพูดถึงคนที่ไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้ไม่แฟร์สำหรับเขาการปรับครม.เป็นเรื่องของนายกฯไม่จำเป็นต้องไปคุยไปถามหรือฟังใครทั้งสิ้น ตั้งแต่เกิดกระแสข่าวก็ได้พูดคุยกับนายกฯตลอดเป็นเรื่องการทำงาน
หากนายกฯไม่มั่นใจคงไม่ยืนตรงนี้
เมื่อถามอีกว่านายกฯได้ให้ความมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยยังคงเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวย้อนว่า“ถ้าท่านไม่ให้ความมั่นใจ ผมคงไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้”เมื่อถามว่ายังมั่นใจในความสัมพันธ์ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับอาหนูหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เวลาทำงานมีแต่คำว่าท่านนายกฯกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
เมื่อถามต่อว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคภูมิใจไทยจะไปรวมกับพรรคประชาชนจับมือกันเป็นฝ่ายค้าน นายอนุทิน กล่าวว่า ปรับครม.ยังไม่ได้ปรับเลย พรรคภูมิใจไทยจะไปเป็นฝ่ายค้านได้อย่างไร ธรรมดาการเมืองสมัยก่อน มีหัวหน้าพรรคเยอะ เขาก็คิดว่าจะชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัน มีอะไรก็ไปเขย่าตำแหน่งแต่ตอนนี้ตำแหน่งนายกฯมีความมั่นคง และแข็งแรง ไม่มีคนคิดจะแข่งหรือคิดไม่ดีกับท่าน จะเอาท่านลงมาจากตำแหน่ง ในพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีใครคิดเลยทีนี้ก็เลยมาแกล้งผม แค่นั้นเอง ไม่มีอะไร
‘อ้วน-หนู’ควงแขนโชว์ซีนหวาน
เมื่อเวลา 14.30น.ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2568 และเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี ประจำปีงบประมาณ2567มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย(พท.)ได้เดินคล้องแขน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้า ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และอารมณ์ดี
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงเนื้อหาการประชุม นายภูมิธรรมกล่าวว่า นายกฯเรียกประชุมเร่งรัดการทำงานที่ยังค้างอยู่ของแต่ละกระทรวง เพราะยังมีบางกระทรวงที่ยังมียอดเบิกจ่ายงบประมาณไม่เต็มที่ ซึ่งได้ประชุมไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา และมาถึงขณะนี้ได้เร่งขึ้นมาในอัตราดีพอสมควร และนายกฯก็พึงพอใจ เพราะตัวเลขขึ้นมา ซึ่งทุกคนก็จะกลับไปทำงานได้ตามเป้าหมาย เพื่อให้เงินหมุนเวียนในระบบและกระต้นเศรษฐกิจ
‘หนู’หยอกกลับบอก‘เดี๋ยวหอมแก้ม’
เมื่อถามว่านายกฯให้ทุกพรรคที่คุมแต่ละกระทรวงไปทำงานปกติแปลว่าสัญญาณการทำงานร่วมกันจะยืดยาวใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมหัวเราะ ก่อนตอบว่า“มันไม่มีประเด็น ที่จะพูดเรื่องนี้ เพราะทำงานด้วยกันดีมาตลอด”
เมื่อถามต่อว่านอกจากเรื่องงบประมาณแล้วมีการคุยกันเรื่องความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า“เนี่ยผมเดินจูงแขนกันลงมาเลย นี่ไงก็ยังรักกันดีอยู่”จากนั้นนายภูมิธรรม หันไปหานายอนุทิน แล้วบอกให้พูดบ้างนายอนุทินจึงกระเซ้ากลับมาว่า“เดี๋ยวหอมแก้ม”
นายภูมิธรรมจึงกล่าวกับสื่อว่าต้องให้หอมแก้มเหรอก่อนจะหัวเราะพร้อมระบุว่า“ไม่มีอะไรครับ รัฐบาลยังร่วมมือและดำเนินการทำงานได้อย่างเต็มที่ ทุกฝ่ายและตอนนี้ก็เร่งรัดให้บริหารการเงินในระบบให้มันดี เอางบเหลื่อมปีมาจัดการให้เต็มที่”
โชว์หวานลั่น’จับมือกันชั่วนิรันดร’
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างประชุม นายกฯได้พูดถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า มีแต่การคุยกันเรื่องตลก อันนี้ตนพูดไม่ใช่นายกฯพูด ยืนยันเรื่องความขัดแย้งไม่มี ตนถูกสื่อถามจนสงสัยแล้วว่ามันมีหรือเปล่า
จากนั้นนายภูมิธรรมได้เดินควงแขนก่อนจะคลายมาจับมือนายอนุทิน ขึ้นตึกบัญชาการ1 ผู้สื่อข่าวจึงแซวว่าจะจับกันจนถึงปี70 เลยหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า “จับมือกันชั่วนิรันดร์”
‘เอกนัฏ’ยันไม่ได้สัญญาณปรับครม.
ขณะที่ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับครม.ว่ายังไม่ได้รับสัญญาณจากนายกรัฐมนตรีและนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช.เพราะหากมีการปรับ ครม. จะต้องมีการแจ้งหัวหน้าพรรค ซึ่งในส่วนของหัวหน้าพรรคไม่ได้มีการพูดคุย มีเพียงการพูดคุยในส่วนของการทำงานแต่ละกระทรวง
และยืนยันว่า ตอนนี้ทั้งสมอง สติ คิดแค่ว่าวันนี้อยู่ตรงนี้ทำงานให้ดีที่สุด การเมืองไม่มีอะไรแน่นอนสำคัญวันที่เราอยู่เป็นรัฐมนตรีเราทำอะไรบ้าง ตนคิดแบบนี้จริงๆ ทั้งวัน ไม่ได้คิดเรื่องอื่นเลยตอนนี้มุ่งแก้ปัญหาอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญที่กระทบกับมูลค่าเศรษฐกิจของประเทศ
ประกาศลั่นไม่สน ไม่แคร์ ไม่กลัว
เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวมีเอกชนลงขันเอาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีหากมีการถูกปรับจริงจะเกี่ยวข้องหรือไม่นายเอกนัฏ ตอบว่าตนไม่สนใจเรื่องข่าวลือ ไม่แคร์และไม่กลัวก็ทำงานในแบบของตนต่อไป ถ้าคนอย่างตนไม่กล้าทำ ก็ไม่รู้ว่าใครจะกล้าทำ ข่าวลือเอามาผูกโยง ถึงจะจริงบ้างไม่จริงบ้าง ไม่เอามาสนใจ พร้อมยืนยันว่า ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้
‘นฤมล’ยัน‘กล้าธรรม’โควต้าเดิม
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรมกล่าวถึงกระแสข่าวการปรับครม.ว่าท่านนายกฯยังไม่ส่งสัญญาณการปรับครม.ซึ่งกระแสส่วนใหญ่มาจากการวิจารณ์ของสื่อมวลชน ซึ่งจากการฟังข่าวในช่วงวันหยุดบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลต่างๆต่างก็ระบุว่ายังไม่ได้รับสัญญาเช่นกัน หากจะปรับครม.จริงก็ต้องคุยกันในพรรคทั้งหมดเพราะต้องเป็นมติของพรรคอยู่ดีเมื่อถามว่าขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปรับ ครม.แล้วหรือไม่ นางนฤมล ย้ำว่า เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่ต้องมีการหารือกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล แต่ในส่วนของพรรคเราก็ยืนยันในสัดส่วนเดิม พร้อมที่จะทำงานสนองนโยบายของนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่
ย้ำไม่เคยมีแนวคิดแลกกระทรวง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าพรรคกล้าธรรมอยากได้กระทรวงมหาดไทยนางนฤมล กล่าวว่า ไม่มี และเรื่องดังกล่าวก็จะยิ่งทำให้เกิดความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะอย่างกระทรวงมหาดไทย ก็อยู่ภายใต้กรรมกับดูแลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พอมาบอกว่าพรรคเราจะเข้าไป ก็จะทำให้เกิดความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลกันเปล่าๆ พรรคกล้าธรรม ทำไม่เคยมีแนวคิดที่จะเอาสัดส่วนของพรรคอื่น และยืนยันว่าเรายังคงดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขณะนี้เกษตรกรก็ยังประสบปัญหาอยู่
“เรื่องนี้ได้มีการหารือกับ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งก็มีความเห็นตรงกันว่า ยังพอใจในตำแหน่ง และสัดส่วนเดิมอยู่ ยังไม่ได้มีความคิดที่จะขยับไปตรงไหน”นางนฤมล ระบุและย้ำว่าไม่ได้รู้สึกกังวลถึงกระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้รัฐมนตรีที่หนักอยู่ในขณะนี้ เพราะในกระทรวงเกษตรเองก็ทำงานใกล้ชิดกับทั้งข้าราชการมาโดยตลอด และเป้าหมายก็พูดมาชัดเจน ซึ่งเรื่องการเมืองเราจะไม่เอามาเป็นปัจจัยในการทำงาน
‘วราวุธ’ชี้ยังไม่มีสัญญาณปรับครม.
นายวราวุธศิลปะอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผลสำรวจนิด้าโพลประชาชนอยากให้ปรับครม.มองว่าถึงเวลาเหมาะสมแล้วหรือยังว่า เรื่องนี้มีหลายโพลออกมา ความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ท้ายที่สุดนายกฯเป็นผู้ตัดสิน ว่าจะปรับอย่างไรปรับแค่ไหน และจะปรับเมื่อไหร่ ส่วนตัวคงรอฟังข่าว หรือรอฟังการพูดคุยกันก่อนจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการส่งสัญญาณการปรับ ครม.
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าจะมีการแลกกระทรวงในโควตาของพรรคชทพ.นายวราวุธตอบว่าพรรคชทพ. แม้ไม่ใช่พรรคใหญ่ มีแค่ 10 คน คงไม่ได้ไปต่อรองอะไร จากการทำงานที่ผ่านมา ตนเชื่อมั่นว่าได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ไม่ว่าจะอยู่ในภารกิจใด พรรคชทพ.สามารถทำงานให้ประชาชนได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น การไปต่อรองหรือสลับกระทรวง ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี