หยัน‘หนุ่มสึ่งตึง’ให้ปชช.ตัดสินเอง
'เท้ง’เมิน‘ทักษิณ’
เพราะเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง
'อนุทิน’บี้พรรคร่วมจับเข่าคุย
โหวตกาสิโนต้องทางเดียวกัน
“คปท.-ศปปส.-กองทัพธรรม” บุกยื่น“ประชาธิปัตย์”ทวงถามจุดยืน “นิรโทษกรรมฯ-กาสิโน-พนันออนไลน์” ปลุกทุกพรรคร่วมต้าน ชี้อย่าทำให้ ปชช.คิดว่า ปชป.เป็นสาขาของระบอบทักษิณ โดย ปชป.รับเรื่องขอรอมติพรรค“อนุทิน” ชี้แกนนำพรรคร่วมฯ ต้องจับเข่าคุย“ก.ม.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์”เป็นทางการ ยันสุดท้ายต้องผนึกโหวตในทิศทางเดียวกัน ใครเห็นต่างต้องทำความเข้าใจ ‘สนธิญา’บุกร้องผู้ตรวจฯส่งศาล รธน.ฟัน‘พีระพันธุ์’ปมถือหุ้นเอกชน ไม่แจ้งป.ป.ช.-จ่อร้องเชือดจริยธรรมร้ายแรงซ้ำ
เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกองทัพธรรม นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำคปท.พร้อมผู้ชุมนุม 200 คน เคลื่อนขบวนมวลชนจากสะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาล เดินทางมายังพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อทวงความชัดเจนจุดยืนของพรรคในเรื่องร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)สถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ....หรือเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์
บุกปชป.ทวงถามจุดยืนกาสิโน-นิรโทษฯ
โดยนายพิชิตกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เคยมีอุดมการณ์จะปฏิรูปประเทศไทย วันนี้มีจุดยืนอย่างไรกับการตั้งบ่อนกาสิโน พรรคที่เคยร่วมต่อสู้กับระบอบทักษิณ แต่วันนี้นโยบายรัฐบาลที่ไม่ใช่นโยบายร่วมของรัฐบาล แต่เป็นนโยบายเร่งด่วนของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เร่งผลักดันนโยบายเร่งด่วนเรื่องนี้ ทั้งที่ผู้นำศาสนา นิสิต นักศึกษา ประชาชน ครูบาอาจารย์ คณะแพทย์ทั้งประเทศ แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการตั้งกาสิโน และพนันออนไลน์ วันนี้จึงต้องมาถามพรรคประชาธิปัตย์ ที่มี สส.ในสภา ว่าพรรคท่านจะยืนหยัดบนผลประโยชน์ของประชาชน หรือยืนยันบนผลประโยชน์ของฝ่ายการเมืองกันแน่
อย่าทำให้ปชช.คิดปชป.เป็นสาขาพท.
นายพิชิตกล่าวต่อว่า ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่พรรคปชป.ยืนยันมาตลอดที่ผ่านมาว่า จะไม่ร่วมโหวตในเรื่องนี้ และการขยายไปถึงพนันออนไลน์ที่มอมเมาประชาชนว่าทั้ง 3 เรื่องนี้ จุดยืนของพรรค ปชป.ในยุคหัวหน้าพรรคชื่อ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน และเลขาธิการพรรคชื่อ นายเดชอิศม์ ขาวทอง จะคัดค้านหรือสนับสนุน หรือพรรคปชป.จะเป็นสาขาหนึ่งของพรรคเพื่อไทย มีเวลาอีก 2 เดือน เมื่อเปิดสภาสมัยประชุมหน้าวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ รัฐบาลก็จะเร่งผลักดันเรื่องเหล่านี้เข้า เราจึงต้องมาทวงถามจุดยืนจากพรรคการเมืองต่างๆ ว่าแต่ละพรรคมีจุดยืนอย่างไร เพื่อบอกกล่าวสังคมและประชาชนเจ้าของอำนาจว่าแต่ละพรรคยึดพี่น้องประชาชนเป็นหลัก หรือจะหนุนนายทุนเป็นหลักกันแน่
ปลุกทุกพรรคร่วมต้านกับปชช.
“กาสิโนจะทำให้พี่น้องอยู่ดี มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีกินมีใช้อย่างนั้นหรือ การจัดตั้งกาสิโนมาจะทำให้ผู้เล่นร่ำรวย หรือกาสิโนทำให้พี่น้องประชาชนลืมตาอ้าปาก มีกินมีใช้แบบนั้นหรือ ถ้าเป็นเช่นนั้นพรรคการเมืองทุกพรรคจัดตั้งกาสิโนประจำท้องที่ของตัวเองเลย ถ้ากาสิโนไม่ได้ช่วยให้พี่น้องอยู่ดีกินดี พรรคการเมืองก็ต้องร่วมมือกับพี่น้องประชาชน คัดค้านอบายมุขกาสิโน การพนันออนไลน์ ทำลายศีลธรรมอันดีของชาติ อย่าอ้างว่าจะสร้างเศรษฐกิจให้ดีขึ้น เพราะเป็นวงจรธุรกิจสีเทา การฟอกเงินทุจริต จะล้างให้เป็นสีขาว
ไม่ได้ และ สัปดาห์หน้าเราจะไปทวงถามจุดยืนเรื่องนี้ จากพรรคภูมิใจไทย”นายพิชิต กล่าว
ซัดสร้างปัญหาใหม่ใหญ่กว่าเดิม
นอกจากนี้ ยังมีแกนนำสลับสับเปลี่ยนขึ้นเวทีปราศรัยบนหลังรถกระบะได้กล่าวโจมตีพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่สนับสนุนการเปิดบ่อนกาสิโน และพนันออนไลน์ให้ถูกกฎหมายว่าเป็นการสร้างปัญหาใหม่ใหญ่กว่าเดิมให้สังคมไทยในอนาคตถ้าร่างกฎหมายนี้
ผ่านสภาฯ
จากนั้นนายพิชิตและบรรดาแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ได้ยื่นหนังสือคัดค้านร่างกฎหมายกาสิโน และทวงถามจุดยืนของพรรคปชป.ต่อ
นายธนิตพล ไชยนันทน์ ผอ.พรรค ปชป.โดย นายธนิตพลกล่าวว่า ตนจะนำเรื่องนี้รายงานต่อหัวหน้าพรรค และ กก.บห.พรรค และ สส.ของพรรค เพื่อพิจารณา และหากมีมติร่วมกันในนามพรรคออกมาอย่างไรจะแจ้งให้กลุ่มผู้ชุมนุมทราบต่อไป
‘อนุทิน’พรรคร่วมฯต้องจับเข่าคุยกัน
ที่กระทรวงมหาดไทย(มท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการให้ สส.ทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ.... หรือร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯว่าหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล จะต้องมีการมาพูดคุยกัน เนื่องจากขณะนี้ทุกพรรคยังไม่ได้หารืออย่างเป็นทางการ ยืนยันว่าในคณะพรรคร่วมรัฐบาล จะสนับสนุนดำเนินตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีซึ่งจากการที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงถอนร่างกฎหมายจากการเตรียมเข้าสู่การพิจารณาในสภาฯก็มีหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วยในทิศทางเดียวกันว่า ให้ถอนเรื่องออกมาก่อน
ต้องโหวตไปในทิศทางเดียวกัน
นายอนุทินระบุว่าเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคที่อาจจะต้องโหวต ก็ต้องโหวตไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่ว่ามีพรรคใดพรรคหนึ่งบอกติดข้อจำกัดอะไรแล้ว ขอไม่โหวต แต่ไม่ได้หมายความว่าจะคัดค้าน หากจะต้องโหวต ก็ต้องโหวตทั้งหมด หากพรรคใดพรรคหนึ่งไม่โหวต ก็ต้องนั่งคุยกันใหม่ จะเห็นได้ว่ามีพรรคประชาชาติออกแถลงการณ์มาว่ายังไม่เห็นด้วย แต่ยังไม่ทราบว่าอย่างไร เพราะหัวหน้าพรรคบอกว่ายังไม่ใช่ แต่พรรคภูมิใจไทยพูดชัดเจนตั้งแต่แรก หากทุกพรรคเห็นพ้องกันหมดก็ต้องนั่งหารือกัน
อย่างไรก็ดี นายอนุทินยังกล่าวถึงการดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลว่าเจ้าภาพครั้งต่อไปคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนพรรคภูมิใจไทยเป็น
เจ้าภาพไปแล้ว
‘อรรถกร’ลั่นอะไรจะเกิดก็เกิดคัมแบ๊ก
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา นายทะเบียนพรรคกล้าธรรม(กธ.)อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกธ.ระบุหากจะมีการปรับครม.จะให้กลับมาเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์แทนบิดา นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯนั้นว่า การปรับครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีซึ่งการปรับครม.ในพรรคกธ.จะต้องเข้าสู่กระบวนการคัดสรรของพรรคด้วย เชื่อว่ารัฐบาลนี้ต้องการคนที่มีประสบการณ์ในการบริหารงานในกระทรวงต่างๆ หรือประสบการณ์ทางการเมืองวันนี้สถานการณ์คลี่คลายไป
“ส่วนตัวเห็นว่าไม่มีปัญหา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯ ไม่ว่าจะเป็นนางนฤมลภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ หรือ 2 รมช.ก็ทำงานเต็มความสามารถส่วนเรื่องที่ว่าจะปรับอย่างไร ต้องแล้วแต่ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด สิ่งใดใดล้วนอนิจจัง”นายอรรถกร ย้ำ
ปัดได้สส.เพิ่มหวังต่อรองเก้าอี้
เมื่อถามว่าหลังนายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ ผู้สมัครพรรคกธ.ชนะการเลือกตั้งซ่อมสส.นครศรีธรรมราช เขต 8จะส่งผลให้โควตารัฐมนตรีของพรรคเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายอรรถกรกล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกธ.ไปอยู่กินกันในพื้นที่ตั้งแต่วันที่20 เม.ย.ไม่มีคำพูดไหนเลยว่าถ้านายก้องเกียรติชนะเราจะได้รัฐมนตรีเพิ่ม เพราะจุดประสงค์หลักๆเราการสู้ศึกเลือกตั้งที่อย่างเต็มที่เพราะอยากเห็นตัวแทนพรรคเข้ามาเป็นตัวแทนของคนนครศรีธรรมราชทั้งหมดเพื่อทำงานแก้ปัญหาให้ชาวนครศรีธรรมราชนี่คือจุดประสงค์หลักของเรา
เมื่อถามว่าร.อ.ธรรมนัสพูดว่าในอนาคตพรรคกธ.จะมีสส.เพิ่มขึ้นมากอย่างแน่นอนซึ่งอาจจะมีโอกาสได้โควตา รมต.เพิ่มขึ้นหรือไม่ นายอรรถกร กล่าวว่า เราไม่ได้เป็นคนไปติดต่อคนอื่นมาอยู่กับเรา หลายคนเขาเห็นสไตล์การทำงานของแกนนำพรรคกล้าธรรมทำงานอย่างไร ตรงนี้น่าจะเป็นจุดดึงดูดให้คนมาร่วมงานกับเรา เพราะเราเชื่อว่าร.อ.ธรรมนัส ถ้าทำงานกับใครก็ทำอย่างตรงไปตรงมา และเป็นเสน่ห์ที่ นักการเมืองที่ได้สัมผัสแล้ว พอสัมผัสไปนานๆ ก็จะรู้สึกว่าอยากทำงานด้วย
ยื่นผู้ตรวจฯส่งศาลฯฟัน‘พีระพันธุ์’
วันเดียวกัน นายสนธิญา สวัสดี เดินหน้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดินผ่านนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน ขอให้เสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ถือครองหุ้นและดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทเอกชนโดยมิได้แจ้งต่อ ป.ป.ช.ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยอ้างว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 187 ประกอบมาตรา 5 มาตรา 98(3) และมาตรา 160(4)(5)(6) รวมถึงพระราชบัญญัติว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี เนื่องจากนายพีระพันธุ์ไม่ได้แจ้งต่อ ป.ป.ช.ภายใน 30 วันนับจากวันที่รับตำแหน่ง และไม่โอนหุ้นออกภายใน90 วันหลังการแจ้ง
“เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กหากปล่อยให้เกิดซ้ำซากจะกระทบความเชื่อมั่นในการเมืองและกระบวนการยุติธรรม”นายสนธิญา ย้ำพร้อมระบุว่าวันศุกร์ที่2 พฤษภาคม เวลา 10.30 น.ตนจะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อขอให้ตรวจสอบประเด็นจริยธรรมอย่างร้ายแรงของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
โพลล์ชี้ดัชนีภาพรวมตกทุกด้าน
ขณะที่ “สวนดุสิตโพล”มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศเรื่อง“ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนเมษายน 2568”กลุ่มตัวอย่างจำนวน 2,208 คน(สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม)ระหว่างวันที่ 25-29 เมษายน 2568 มีตัวชี้วัด 25 ประเด็นที่บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นต่อการเมืองไทยในด้านต่างๆ ซึ่งแต่ละตัวชี้วัดจะมีคะแนนเต็ม 10 คะแนน สรุปว่า 1.“ดัชนีการเมืองไทย”เดือนเมษายน 2568 ภาพรวมคะแนนเต็ม 10 ได้ 4.82 คะแนน 2.ประชาชนให้คะแนน 25 ตัวชี้วัด“ดัชนีการเมืองไทย”โดยคะแนนเต็ม 10 เรียงลำดับจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ 3.นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ประชาชนคิดว่ามีบทบาทโดดเด่นในเดือนเมษายน 2568 4.ผลงานของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ประชาชนชื่นชอบในเดือนเมษายน 2568
โดยคะแนนภาพรวมลดน้อยลงจากเดือนก่อนในทุกๆ ด้านอย่างชัดเจน สะท้อนถึงความกังวลของประชาชนที่เพิ่มขึ้นต่อภาวะทางเศรษฐกิจและการเมืองในขณะนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาสภาพเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งถือว่ายังเป็นจุดอ่อนสำคัญของรัฐบาลที่ยังไม่สามารถดำเนินการตามความคาดหวังของประชาชน
ผลงานนายกฯ‘อิ๊งค์’สอบตก
น.ส.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า สถานการณ์การเมืองไทยเดือนเมษายนในแวดวงการเมืองกลับร้อนระอุความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมฯ เพื่อไทย-ภูมิใจไทยที่ยังไม่แน่นอน จนมีเสียงว่า อาจมีการปรับครม.รวมถึงการที่รัฐบาลพยายามเร่งแก้ปัญหาภัยพิบัติ แต่การตรวจสอบตึกถล่ม กลับเป็นไปด้วยคำถามของทั้งฝ่ายค้านและประชาชนสะท้อนได้จากผลคะแนนของฝ่ายรัฐบาลที่ลงไปอยู่อันดับ 15 จาก 25 ดัชนี ส่วนคะแนนผลงานนายกรัฐมนตรี ก็ลงไปอยู่อันดับ 10 ด้วยคะแนน 4.91 ไม่ผ่านครึ่ง เป็น
ครั้งแรกของนายกฯแพทองธาร
‘เท้ง’เมิน‘แม้ว’ซัด‘หนุ่มสึ่งตึง’
ที่โรงแรมโนโวเทล แพลตตินัม ประตูน้ำ กทม. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปรามาสว่าเป็น“หนุ่มสึ่งตึง”นั้นว่า “ผมเองคงไม่คอมเมนต์อะไรเพิ่มเติม คนที่เป็นผู้ใหญ่ทางการเมือง พูดอย่างไร สื่อสารอย่างไร ก็ให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน อยากให้เน้นไปที่การแลกเปลี่ยน ข้อคิดเห็นของนโยบายในการหาเสียงทำงานมากกว่า ส่วนคำพูดที่โยนมาแบบนี้ ก็คงไม่มีความเห็นเพิ่มเติม”
นายณัฐพงษ์กล่าวถึงที่พรรคประชาชนได้จัดกิจกรรมปราศรัยหาเสียงให้กับนายธีรวุฒิ แก้วฟอง หรือเหมา ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่วันนี้ว่าเราให้ความสำคัญกับทุกพื้นที่เท่ากันโดยเฉพาะอย่างยิ่งสนามเลือกตั้งเทศบาลที่เราเห็นว่าเทศบาลมีอำนาจหน้าที่ โดยตรงกับปัญหา ใกล้ตัวกับประชาชน ซึ่งในจังหวัดเชียงใหม่พรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกลได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเป็นจำนวนมากจึงเป็นความตั้งใจของพวกเราที่จะพัฒนาเมืองเชียงใหม่ให้ดีขึ้น ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะทำให้เรามีอำนาจและงบประมาณในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าพรรคประชาชนเปลี่ยนให้ความหวังเป็นความจริงได้
ลั่น ปชน.พร้อมสู้ทุกสนาม
ส่วนประเมินว่าจะได้กี่เก้าอี้นั้นนายณัฐพงษ์กล่าวว่าคงจะตอบเหมือนทุกครั้งว่าคงประเมินเป็นจำนวนเก้าอี้ไม่ได้ ทุกสนามเราตั้งความหวังไว้ทุกที่อยู่ที่ประชาชน จะไว้วางใจพรรคประชาชนมากน้อยแค่ไหน
เมื่อถามว่าพื้นที่เชียงใหม่นายทักษิณได้ลงพื้นที่เช่นเดียวกันนั้น จะสู้ได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า “พร้อมสู้ทุกสนามไม่ว่าใครจะไปจะเป็นยิ่งมีบุคคลสาธารณะ หรือนักการเมืองลงไปช่วยหาเสียงยิ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากขึ้นเท่านั้น”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี