'รัฐบาล' จ่อยกเลิกโครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท หลัง 'มูดี้ส์' ปรับลดแนวโน้มประเทศไทยเป็น 'เชิงลบ’ เตรียมผันงบ 1.5 แสนล้านบาท รับมือผลกระทบสงครามการค้า ผุดโปรเจกต์ลงทุน 'ระบบน้ำ' 1 แสนล้าน-ทำโครงการรองรับ 'คนตกงาน' 5 หมื่นล้าน
วันที่ 6 พฤษภาคม 2568- สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ค. แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผย ว่า ขณะนี้รัฐบาลมีแนวคิดที่จะยกเลิกการแจกเงินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายอายุ 16-20 ปี หรือโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 รวมถึงยกเลิกแจกเงิน 10,000 บาทในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตส่วนที่เหลือด้วย หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มูดี้ส์ปรับแนวโน้ม หรือ Outlook อันดับเครดิตของประเทศไทย จากระดับ ‘เสถียรภาพ’ เป็น’เชิงลบ’ โดยแนวคิดดังกล่าวได้มีการหารือกันมาระดับหนึ่งแล้ว และหากแนวคิดนี้ลงตัว คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์คงจะได้ข้อสรุป
“รัฐบาลมีแนวคิดที่จะออก พ.ร.ก.กู้ยืมเงินวงเงิน 500,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้รองรับผลกระทบจากสงครามการค้า ถ้าสามารถปรับการแจกเงิน 10,000 เฟส 3 มาสมทบในส่วนนี้ ก็จะทำให้การกู้เงินลดลงได้ และถ้าแนวคิดต่างๆเหล่านี้ลงตัว คาดว่าภายในหนึ่งสัปดาห์คงได้ข้อสรุป” แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าว กล่าวด้วยว่า อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลมีแนวคิดยกเลิกโครงการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 3 และการแจกเงินโครงการฯในส่วนที่เหลือนั้น เนื่องจากการแจกเงินฯในช่วงที่ผ่านมา แทบไม่มีผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจเลย
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากรัฐบาลยกเลิกโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว รัฐบาลจะนำงบประมาณที่เตรียมไว้สำหรับใช้ในโครงการฯ ซึ่งมีงบอยู่ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท มาใช้ดำเนินการโครงการต่างๆ เพื่อรองรับผลกระทบจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรก จำนวน 1 แสนล้านบาท จะนำไปใช้ในโครงการลงทุนระบบน้ำ และส่วนที่สอง จำนวน 5 หมื่นล้านบาท จะนำไปจัดทำโครงการรองรับคนตกงานจากมาตรการภาษีของทรัมป์
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลมีการแจกเงิน 10,000 บาท ให้ประชาชนกลุ่มต่างๆไปแล้ว 2 เฟส วงเงินรวม 1.85 แสนล้านบาท ประกอบด้วย เฟสแรก แจกเงิน 10,000 บาท ภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ โดยแจกเงินสดให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ จำนวน 14.5 ล้านคน คนละ 10,000 บาท วงเงิน 1.45 แสนล้านบาท และเฟส 2 แจกเงิน 10,000 บาท ภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ โดยแจกเงินสด 1 หมื่นบาท ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 4 ล้านคน วงเงิน 40,000 ล้านบาท
สำหรับแหล่งเงินที่นำใช้ในโครงการแจกเงินฯใน 2 เฟสแรกนั้น มาจาก 3 ส่วน ได้แก่ 1.พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท 2.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบฯ 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 23,552 ล้านบาท และ 3.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ จำนวนไม่เกิน 40,000 ล้านบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า ภายใต้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปีงบ 2568 รัฐบาลได้ตั้งงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ จำนวน 1.87 แสนล้านบาท แต่เมื่อหักกับงบกลางฯ ที่นำไปใช้จ่ายในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 จำนวน 4 หมื่นล้านบาทแล้ว ทำให้รัฐบาลยังเหลือวงเงินงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจฯ อีก 1.47 แสนล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี