‘อิ๊งค์’ยันพ่อป่วยจริง-ตัดพ้อพูดไปก็ไม่เชื่อ
ถึงขั้นต้องผ่าตัด!
พ่อวัย75เจ็บป่วยต้องรักษานาน
คดีชั้น14ขอสู้ตามกระบวนการ
‘สมศักดิ์’ชี้เชือดหมอแค่คาดเดา
ย้ำแพทยสภาไม่มีใครล็อบบี้ได้
“อุ๊งอิ๊งค์” แจงปมเทวดาชั้น 14 ยันคุณพ่อแม้วป่วยจริง ถึงขั้นต้องผ่าตัด ทั้งหายใจช้าลง ครวญพูดอย่างไรใครก็ไม่เชื่อ เตือนอย่าคิดเยอะ โยงถึงล้มดีลตั้งรัฐบาล หลังศาลนัดทักษิณแจง 13 มิถุนายนนี้ ด้าน’สมศักดิ์’เผยแพทยสภายังไม่ได้ประชุมและไม่มีใครล็อบบี้ได้ กระแสเชือดหมอรักษาเทวดา คงเป็นการคาดเดา
เมื่อวันที่6 พ.ค.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าการขอข้อมูลจากแพทยสภาในการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจว่า เรื่องนี้ยังไม่มา พร้อมถามผู้สื่อข่าวว่ามีออกมาแล้วหรือ ผู้สื่อข่าวตอบว่า “ยัง หากจะมาก็ต้องส่งมาที่นายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่” น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “ใช่ และยังไม่ได้รับรายงานมาเลย” เมื่อถามว่า เวลานี้ประเด็นการรักษาตัวชั้น 14 ของนายทักษิณ บางฝ่ายพยายามโยงถึงตัวนายกฯ ว่ารู้เรื่องทุกอย่างว่า พ่อได้รับการรักษาตัวและป่วยจริงหรือไม่ และพยายามหยิบยกมาเป็นประเด็นทางการเมือง ตรงนี้จะอธิบายอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ต้องทราบเรื่องนี้และทราบอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่อย่างที่เคยพูดในการอภิปรายว่า ถ้าพูดไปแล้วจะเชื่อหรือไม่ ถ้าตัวเองพูดจะเชื่อหรือไม่
เมื่อถามย้ำว่านายทักษิณป่วยจริงหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวเสียงหนักแน่นว่า ป่วยจริง และมีการผ่าตัดด้วย เมื่อถามกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดให้นายทักษิณนำข้อมูลไปชี้แจงในวันที่ 13 มิ.ย.สังคมมองว่าเป็นการล้มดีลการจัดตั้งรัฐบาล ถ้าผลออกมาจะเป็นสัญลักษณ์อะไรหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ยิ้มและกล่าวว่า คิดเยอะมากเลย วันที่ 13 มิ.ย. ศาลนัดมาอย่างไร เราต้องไปตามกระบวนการ ตามขั้นตอน และเดี๋ยวคงมีหลักฐานที่นายทักษิณ จะเอาไปยืนยัน ซึ่งก็เป็นไปอย่างนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลักฐานที่ระบุคิดว่า จะสามารถเคลียร์ข้อกล่าวหาได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อยู่ในกระบวนการ และที่จริงเรามั่นใจอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าจะอยู่ในจุดที่สงสัยต่อเนื่องก็สงสัยได้ต่อเนื่อง แต่ถามว่าหากตนเองออกมาพูดถึงความชัดเจนก็ไม่มีใครเชื่ออยู่ดี เพราะคนไม่เชื่อก็เลือกที่จะไม่เชื่อ แล้วก็คิดว่าจะมีอะไรเพิ่มเติมก็คิดได้อย่างนั้น
“ทุกวันนี้คุณพ่ออายุ 75 ปี เวลานี้เจ็บป่วยอะไรจะเห็นได้ชัดว่าหายช้ากว่าปกติ แต่ไม่เป็นไร เพราะครอบครัวและส่วนตัวของตนเอง ก็ผ่านเรื่องต่างๆ มามากมาย สิ่งที่ทำได้คือต้องเข้มแข็ง และเป็นสิ่งที่ต้องทำ เราจะมี Mind Month อยู่แล้ว ในเร็วๆ นี้ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่ต้องดูแลสุขภาพใจของเรา ทำใจให้เบิกบานสดใส มีความโกรธหรือเกลียดชังอะไรมากมายก็ไม่ดีกับตัวเรา”
เมื่อถามว่าการประชุมครม.วันนี้ได้เจอและพูดคุยกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงานหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ชี้ขึ้นไปบนตึกบัญชาการ พร้อมกับบอกว่า มาประชุมข้างบน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุขและแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวว่าผลสอบแพทยสภากรณีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ มีแพทย์ 2 คนโดนพักใบอนุญาตว่า มีสื่อบางฉบับเอาผลการประชุมของแพทยสภามานำเสนอ แต่เท่าที่ตนดูแพทยสภายังไม่มีการประชุม ตนจึงไม่รู้ว่าไปรับรู้รับทราบข้อมูลมาอย่างไร แต่คิดว่าคงเป็นการคาดเดาว่าตนจะไปยับยั้งหรือไม่เห็นด้วยตามระเบียบกฎหมาย
ทั้งนี้ ตนในฐานะรมว.สาธารณสุข เป็นสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา มีอำนาจยับยั้งหรือเห็นชอบรายงานการประชุมของแพทยสภาตามปกติ และในเอกสารที่ระบุว่าวันที่ 8พ.ค.จะมีการประชุมแพทยสภา ตนก็ไม่ทราบว่าจะมีการประชุมหรือไม่อย่างไร แต่เมื่อผลออกมาแล้ว ตามกฏหมายก็ต้องส่งมาให้รมว.สาธารณสุข เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ซึ่งตนไม่ทราบว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร และไม่ได้คิดอะไรไว้เลย“ผมไม่สามารถโน้มน้าวหรือทำให้ใครเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบได้ เพราะคณะกรรมการส่วนใหญ่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิประมาณ 71-72 ท่าน และเป็นสัดส่วนของแพทย์ในมหาวิทยาลัย รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์เป็นองค์ประกอบด้วย ผมคงไม่สามารถไปล็อบบี้ใครได้ทั้งสิ้น ฉะนั้น สื่อที่ออกมาพูดในลักษณะตีปลาหน้าไซ ไม่ทราบว่ามีวัตถุประสงค์อะไร และที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยเห็นแย้ง” นายสมศักดิ์ ระบุ
เมื่อถามว่าจะเห็นชอบตามที่แพทยสภาเสนอมาใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า โดยปกติต้องเป็นแบบนั้น ถ้ามีผลออกมาแล้ว ผู้เกี่ยวข้องอาจร้องเรียนหรือมีความสงสัยอะไรมา เราก็ต้องดู เพราะคนเป็นรัฐมนตรีจะถูกมองว่าปล่อยปะละเลย ก็อาจมีประเด็นนั้นตามมา เราจึงต้องดูให้เรียบร้อยตามเหตุตามผล
เมื่อถามว่า กรณีรมว.สาธารณสุขเห็นชอบถือว่า จบเลยหรือไม่ นายสมศัดดิ์ กล่าวว่า หากรับรองมติแล้วก็จบเลย แต่หากไม่เห็นด้วย ก็ต้องกลับเข้าที่ประชุมแพทยสภาเพื่อยืนยัน โดยใช้เสียง 2 ใน 3 คือ 48 ท่าน แต่ถ้าที่ประชุมเห็นแย้ง แต่ตรงกับความเห็นของรมว.สาธารณสุข ต้องใช้เสียง 1 ใน 3 คือ 24 ท่าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี