'มท.1’สั่ง‘พ่อเมืองจังหวัดชายแดนใต้’ผนึก‘ฝ่ายมั่นคง’เข้มคุ้มครองปชช.เสริมกำลังเพิ่ม คลายสถานการณ์ไม่สงบพุ่งเป้า ‘ไทยพุทธ’ แนะเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ยันรัฐบาลไม่ทอดทิ้งชาวบ้าน
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ที่กระทรวงมหาดไทย(มท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ข้อสั่งการของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม เร่งแก้ไขถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ช่วงนี้มีการพุ่งเป้าไปที่ประชาชนที่นับถือศาสนาพุทธ ตนได้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแบ่งหน้าที่เพื่อให้ รองผู้ว่าฯ และนายอำเภออยู่ในพื้นที่ ไปอยู่กับประชาชน และใช้เวลาสร้างความมั่นใจให้เกิดความอุ่นใจ ให้มีการเตรียมพร้อมในเรื่องของการช่วยเหลือทุกอย่าง
เมื่อถามว่า สถานการณ์ขณะนี้คนไทยในภาคใต้มีความกังวลใจกับเหตุการณ์ที่รุนแรง กระทรวงมหาดไทยจะทำอย่างไรให้ประชาชนรู้สึกว่ายังอยู่ในความปลอดภัย และรู้สึกว่ารัฐบาลไม่ทิ้งเขาไว้ นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยทอดทิ้ง รัฐบาลต้องยึดกฎหมาย และข้อสั่งการของนายกฯ ที่ครอบคลุมไปถึงฝ่ายความมั่นคง นอกจากนี้ในภาคใต้ยังมีกองทัพภาคที่ 4 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และฝ่ายปกครอง พร้อมให้การสนับสนุนและให้การช่วยเหลือประชาชนบูรณาการร่วมกัน
“บางช่วงที่เป็นสถานการณ์ความรุนแรงในเรื่องการส่งสัญลักษณ์ ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ขณะที่ฝ่ายรัฐจะเพิ่มกำลัง เร่งตั้งด่าน จัดกำลังคุ้มครองดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนให้มากที่สุด กระทรวงมหาดไทยได้เสริมกองกำลังอาสาตลอดช่วงปีกว่าที่ผ่านมา ทั้งอาสาที่ได้รับการฝึกฝนให้ปกป้องดูแลประชาชน และปราบปรามผู้ที่ก่อการร้าย โดยที่มีการฝึกด้านมวลชน ด้านการใช้อาวุธ ต้องเสริมกำลังเข้าไป” นายอนุทิน กล่าว - 002
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี