เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sakoltee Phattiyakul ระบุว่า ว่าด้วยรถไฟฟ้าสายสีเขียว กับการหาเสียง !!!
เห็นข่าวผู้บริหารกรุงเทพมหานครชุดนี้ มีความคิดจะคืนรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้รัฐบาลโดยอ้างเหตุผลว่ารับการขาดทุนสะสมไม่ไหวก็เพลียใจครับ
เหมือนมีของดีอยู่ในมือแล้วเอาไปยกให้คนอื่นซะอย่างนั้น ทั้งๆ ที่มีหลายวิธีให้บริหารแก้ไขภาวะการขาดทุนสะสม ไม่ว่าจะเป็นการเจรจากับเจ้าเดิมหรือเปิดประมูลใหม่ให้รวบทุกเส้นทางเข้าด้วยกันโดยให้เอกชนแข่งกันอย่างเป็นธรรมและถือโอกาสคุยเรื่องลดราคาตั๋วไปให้ราคาอยู่ในระดับที่เหมาะสมไปในทีเดียวกลับไม่ทำ
เรื่องลดราคาตั๋วรถไฟฟ้าก็ยังเป็นมหากาพย์ ตอนหาเสียงบอกจะลดเหลือ 20-25 บาท คนฟังเข้าใจว่าจะลดตลอดสาย ถึงเวลากลับบอกว่าราคานี้จะได้แค่คนที่โดยสารเป็นช่วงไม่กี่สถานี (น่าจะ 6-8 สถานี) ล่าสุด กทม.ก็น่าจะหวัง พรบ.ตั๋วร่วมของรัฐบาลให้ราคาลดลงตอนนั้น เท่ากับว่า 3 ปีกว่าๆ เรื่องราคาตั๋วแทบจะไม่ขยับไปไหน
ผลประโยชน์อย่างอื่นนอกจากค่าตั๋วโดยสารแล้วสายสีเขียวยังมีช่องทางหาเงินซ่อนอยู่ในตัวอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นค่าโฆษณา ค่าเช่าพื้นที่ ค่าขอใช้พื้นที่ทำกิจกรรม หรือว่าจะเป็นค่าขออนุญาตเชื่อมทางเดินเข้าพื้นที่เอกชน เชียงใหม่ในส่วนนี้ทำดีๆ ปีหนึ่งได้เงินเยอะครับ
รถไฟฟ้าสายสีเขียวถือเป็นรถไฟฟ้าเส้นหลักที่น่าจะทำเงินให้กับผู้ถือสัมปทานได้ดีที่สุดกว่าทุกสายอยู่แล้ว โดยมีผู้โดยสารเฉลี่ยในวันธรรมดาเคยแตะ 1,000,000 เที่ยวคนต่อวัน ผู้โดยสารใช้บริการเยอะเพราะเป็นเส้นทางผ่าหลักใจกลางเมือง
ถ้าการที่จะแก้ปัญหาโดยดูแค่ว่าอะไรขาดทุน แล้วจะไม่ทำต่อ แต่ยกให้คนอื่น… มันไม่ใช่การบริหารหรือการแก้ปัญหาครับ มันคือการ “โยนภาระ” ออกจากตัว
ยิ่งแนวคิดที่ว่าอยากจะเอารถเมล์ ขสมก.มาบริหารแทน ฟังแล้วยิ่งจิตตกเข้าไปอีก เพราะหนี้สะสมของ ขสมก.น่าจะอยู่ประมาณ 150,000 ล้านบาทเข้าไปแล้ว ไม่นับขาดทุนสะสมต่อปีประมาณ 3000-5000 ล้านบาท แทบจะไม่ต่างจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวแต่โอกาสได้เงินคืนน้อยกว่าเยอะมากๆ
ถ้าอยากทำขนส่งสายรองเพื่อช่วยป้อนผู้โดยสาร กทม.ทำได้เองอยู่แล้วครับโดยเลือกเป็นจุดที่คนอยู่อาศัยหนาแน่น ไม่ต้องไปรับภาระการบริหารรถเมล์ทั้งกรุงเทพฯ เอามาอยู่กับตัว เดี๋ยวถึงเวลาทนขาดทุนสะสมไม่ไหวก็จะโยนกลับไปให้รัฐบาลอีก
อยากให้ ขสมก.เพิ่มเส้นทางไหนก็ประสานกัน ถ้าเค้าทำไม่ไหว กทม.ก็เดินเองสนับสนุนกันไป ก็อยากตั้งคำถามว่าสามปีที่ผ่านมาได้เริ่มทำขนส่งสายรองเพิ่มขึ้นมาซักเส้นทางหนึ่งหรือยังครับ??? อันนี้น่าจะเป็นหัวใจในการจูงใจให้คนใช้ขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น
หรือถ้าอยากจะได้หน่วยงานไหนมาอยู่ภายใต้ กทม.จริงๆ แนะนำตำรวจจราจรเลยครับ ผมว่าการบริหารการจราจรจะได้น้ำได้เนื้อกว่าที่เป็นอยู่
สุดท้ายผมว่าคนกรุงเทพฯ เข้าใจนะครับว่าปัญหามันมีเยอะหลายเรื่องจริงๆ แค่ขอให้เห็นความพยายามอย่างที่สุดในการบริหารแก้ปัญหา และพูดความจริงกับประชาชน อะไรที่ทำได้ก็บอกได้ ทำไม่ได้ก็บอกไม่ได้ ตรงไปตรงมาดีที่สุดครับ
#รถไฟฟ้าสายสีเขียว
#ไม่ไหวบอกไหว
สกลธี ภัททิยกุล
11 พ.ค.2568
https://www.facebook.com/share/16Vba96bZZ/?mibextid=wwXIfr
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี