เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลหนองลู อ.สังขละ จ.กาญจนบุรี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานประชุมหารือ เพื่อติดตามการดำเนินการแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของทหารกับประชาชนในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์
โดยมี นายเชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล เขต 6 รองประธานกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร , นายพนม โพธิ์แก้ว สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 5 ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ , นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ โฆษกคณะกรรมาธิการ , นายภูวนาถ รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี , นายภูวพล รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองลู , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี , เจ้าหน้าที่หทารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรบริหารส่วนตำบล และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วม
หลังจากประชุมแล้วเสร็จ คณะทั้งหมดได้เดินทางลงพื้นที่หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ที่มีชายแดนติดกับ อ.พญาตองซู ประเทศเมียนมา โดยเบื้องต้นไปกเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ที่บริเวณจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิด รวมถึงเป็นจุดตรวจด้านความมั่นคง ที่เรียกว่า "จุดตรวจหกพันไร่" ซึ่งบริเวณดังกล่าวนั้นมีชายแดนตัดกับ อ.พญาตองซู ประเทศเมียนมา ด้วยเช่นกัน
จากนั้น คณะของนายวิโรจน์ ได้เดินทางต่อไปยังบริเวณชายแดนเจดีย์สามองค์ บ้านพระเจดีย์สามองค์ เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนชาวไทยที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว รวมถึงเดินสำรวจช่องทางต่างๆ เพื่อเก็บเอาไว้เป็นข้อมูล เพื่อนำมาประกอบการแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของทหารกับประชาชน ในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
ทั้งนี้ นายวิโรจน์ เปิดเผยภายหลังว่า พื้นที่ตรงตรงนี้กำลังรอการจัดสรรให้ชัดเจนก่อน เพราะเมื่อวันที่ 28 ก.ค.2524 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติให้พื้นที่บริเวณนี้จัดตั้งเป็นหมู่บ้านป้องกันตนเองตามแนวชายแดน ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2529 ได้มีการอนุมัติให้เช่าพื้นที่ 6,000 ไร่ เป็นระยะเวลา 30 ปี เพื่อให้เป็นหมู่บ้านป้องกันชายแดน จนกระทั่งปี 2559 สัญญาเช่าได้สิ้นสุดลง พื้นที่ 6,000 ไร่ จึงกลายเป็นสุญญากาศมาจนถึงปัจจุบันนี้
ซึ่งทางกองพลทหารราบที่ 9 กองกำลังสุรสห์ ยืนยันมาแล้วว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับพื้นที่บริเวณนี้ แต่ทางกองพลทหารราบที่ 9 กองกำลังสุรสีห์ ต้องการกันพื้นที่บางส่วนเอาไว้ใช้ในด้านความมั่นคง ในส่วยขององค์กรปกครงส่วนท้องถิ่น เอง ก็ต้องการกันพื้นที่บางส่วนเอาไว้ด้วยเช่นกัน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยที่อาศัยทำมาหากินกันอยู่บริเวณนี้ แต่ตอนนี้ขาดเพียงแค่ จ.กาญจนบุรี เข้ามาเป็นตัวกลางเท่านั้นเอง
ด้าน นายพนม โพธิ์แก้ว กล่าวว่า ก่อนที่สัญญาเช่าระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีในสมัยอดีตจะหมดสัญญาเช่ากับกรมป่าไม้ เมื่อปี พ.ศ.2559 สมัยนั้นพื้นที่บริเวณนี้เป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีการค้าขายระหว่างชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน พื้นที่ฝั่งไทยมีการตั้งโรงงานอุตสาหกรรมโดยใช้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านของเรา ซึ่งในแต่ละปีเราสามารถจัดเก็บภาษีได้จำนวนหลายร้อยล้านบาท หรืออาจะจะเป็นพันล้านบาท แต่ในเมื่อหนังสือสัญญาสิ้นสุดลงแล้ว ทางผู้นำท้องที่จึงร้องเรียนไปยัง ท่านวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือ หลังจากได้รับการร้องเรียนท่านประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาประชุมหารือพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน เนื่องจากทางกองทัพบกเองมองว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ชายแดนที่มีทั้งปัญหาการหลบหนีเข้าเมือง รวมถึงปัญหาเรื่องขนยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ทางกองทัพบบกมีความเป็นห่วง จึงขอใช้พื้นที่เอาไว้เพื่อใช้ในด้านความมั่นคง แต่ผู้นำมองว่าพื้นที่ชายแดนควรจะนำไปใช้ทางด้านเศรษฐกิจเพื่อปากท้องของประชาชนในพื้นที่ได้ด้วย ทางประธาน กมธ.การทหาร รวมถึงถัวผมเอง จึงได้มีการพูดคุยกับทางกองทัพบก และกรมป่าไม้ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
และจากการพูดคุย ได้มีข้อตกลงร่วมกันว่า หนังสือที่กรมป่าไม้เตรียมที่จะอนุญาตให้กองทัพบกเข้าใช้พื้นที่ให้ชะลอออกไปก่อน จากนั้นทางกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร จะออกหนังสือไปถึงกระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และกองพลทหารราบที่ 9 กองกำลังสุรสีห์ นั้น มาประชุมตกลงกันใหม่อีกครั้งหนึ่ง ว่าพื้นที่ตรงไหนสมควรที่จะต้องกันอาไว้เป็นพื้นที่ด้านความมั่นคง และพื้นที่ตรงไหนควรที่จะกันเอาไว้ให้กับชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งทางด้านการเกษตร สวนยางพารา และสวนป่าที่ชาวบ้านทำเอาไว้อยู่แล้ว ซึ่งในที่สุดต้องมาหาทางออกร่วมกัน เพื่อให้กองทัพบกและประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด หรือไม่ได้รับผลกระทบเลยทั้งสองฝ่าย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี