'รมว.กลาโหม เยอรมัน'ปฏิเสธ ขายเครื่องยนต์เรือดำน้ำให้ไทย ในการหารือทวิภาคีกับ'ภูมิธรรม'

'รมว.กลาโหม เยอรมัน'ปฏิเสธ ขายเครื่องยนต์เรือดำน้ำให้ไทย ในการหารือทวิภาคีกับ'ภูมิธรรม'

วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 17.42 น.

 "รมว.กลาโหม เยอรมัน" ปฏิเสธขาย เครื่องยนต์เรือดำน้ำให้ไทย ในการหารือทวิภาคีกับ "ภูมิธรรม" ย้ำ อียู  ห้ามส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ให้จีน
 
วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.25 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศเยอรมัน ในการหารือทวิภาคีที่สำคัญระหว่าง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมประเทศไทย กับ นาย Boris Pistorius รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี 

นายภูมิธรรม  ได้กล่าวชื่นชมเยอรมนีที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม United Nations Peacekeeping Ministerial Meeting ครั้งที่ 6 (UNPKM 2025) และแสดงความยินดีต่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของเยอรมนี ภายใต้การนำของ นาย Friedrich Merz พร้อมทั้งยินดีที่ รมว.กห.เยอรมนียังคงดำรงตำแหน่ง ซึ่งสะท้อนถึงเสถียรภาพทางนโยบายด้านกลาโหม    
 
ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและเยอรมนี ที่มีมายาวนานถึง 163 ปี และมีการเสริมสร้างความร่วมมือในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่เยอรมนีเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยในสหภาพยุโรป    



 
ในการประชุม UNPKM 2025 ไทยได้ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติการรักษาสันติภาพภายใต้อาณัติของสหประชาชาติ และมุ่งมั่นพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพไทยให้มีความพร้อมและมาตรฐานสากล  ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกอบรมภายใต้โครงการความร่วมมือไตรภาคี (Triangular Partnership Programme: TPP) ในห้วงปี 70-71 และหวังที่จะพัฒนาความร่วมมือกับเยอรมนีในการฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพกำลังพลในภารกิจรักษาสันติภาพ    
 
ความร่วมมือทางทหารระหว่างไทยและเยอรมนีมีพัฒนาการที่ดีอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งการแลกเปลี่ยนการเยือน การหารือแลกเปลี่ยนเฉพาะด้าน การสนับสนุนที่นั่งศึกษา และการจัดหายุทโธปกรณ์  ทั้งสองฝ่ายยินดีกับความสำเร็จในการประชุมโครงการความร่วมมือระดับทวิภาคีระหว่าง กห. กับ กห.เยอรมนี (Bilateral Annual Cooperation Programme Talks) 2568 และการประชุมหารือด้านความมั่นคงเจ้าหน้าที่ฝ่ายเสนาธิการ กห. - กห.เยอรมนี (Politico - Military Staff Talks) ครั้งที่ 7    
 
ไทยขอบคุณเยอรมนีที่สนับสนุนกำลังพลของไทยเข้ารับการศึกษาวิชาทหารในเยอรมนี ซึ่งมีส่วนสำคัญในการพัฒนาศักยภาพและความเป็นมืออาชีพทางทหารของกำลังพลไทย    
 
นอกจากนี้ ไทยยังประสงค์ที่จะแสวงหาความร่วมมือกับเยอรมนีในการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพ โดยเฉพาะด้านไซเบอร์และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงกองทัพให้มีความทันสมัย    
 


เยอรมนีได้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของอาเซียนด้วยดีเสมอมา และไทยยินดีที่เยอรมนีได้รับความเห็นชอบจาก รมว.กห.อาเซียน ให้เป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ของคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านการให้ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ และด้านความมั่นคงไซเบอร์ในกรอบ ADMM-Plus  ไทยยังมีความประสงค์ที่จะขอรับการสนับสนุนความร่วมมือด้านการแพทย์ทหารระหว่างศูนย์แพทย์ทหารนานาชาติของเยอรมนี กับศูนย์แพทย์ทหารอาเซียนของไทย    

กระทรวงกลาโหมของไทยกำลังพัฒนาขีดความสามารถในการผลิตยุทโธปกรณ์และสิ่งอุปกรณ์ เพื่อพึ่งพาตนเองและเป็นหลักประกันด้านความมั่นคง รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการเอกชน โดยเฉพาะใน 4 ผลิตภัณฑ์เป้าหมาย ได้แก่ ยานพาหนะเพื่อความมั่นคง อุตสาหกรรมต่อเรือ อากาศยานไร้คนขับ และอาวุธและกระสุน  ไทยจึงขอให้เยอรมนีพิจารณาความเป็นไปได้ในการที่ไทยจะเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และเชิญชวนเยอรมนีเข้าร่วมงาน Defense & Security 2025    
 
โดย นายภูมิธรรม ได้ติดตามสิ่งที่เคยสอบถามทางกระทรวงกลาโหมเยอรมนีว่าสามารถขายเครื่องยนต์เรือดำน้ำ ที่ทางประเทศไทยได้จัดหาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่

ทาง รมว.กห. สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ได้ตอบว่าที่ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องมาจากการที่สหภาพยุโรป (EU)  ได้มีข้อห้ามส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับสาธารณรัฐประชาชนจีน

ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความขอบคุณสำหรับการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกันเพื่อยกระดับความสัมพันธ์และความร่วมมือในกรอบทวิภาคีและพหุภาคีให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top