กมธ.ฯสว.เปิดเวทีชำแหละพิรุธ“ร่างก.ม.เอ็นเตอร์เทนเมนท์ฯ” อ.เจิมศักดิ์ ซัดครม.กาสิโน ไม่ยอมทำประชามติ ชี้ส่อขัดรัฐธรรมนูญหลายมาตรา-เปิดทาง“ทุนเทา”เบ่งบาน ด้าน“แก้วสรร”ปูด“ตระกูลชิน”หาคนออกแบบ“บ่อนคลองเตย”ไว้แล้ว อ.จรัญชี้เปิดบ่อนพนันออนไลน์ กระทบเครดิต-ศก.ประเทศไทยทุกด้านโดยเฉพาะหลักนิติธรรมและธรรมาภิบาล
เมื่อวันที่ 15พฤษภาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) วุฒิสภา โดยนายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ประธานกมธ.ฯ เป็นประธานการประชุม พิจารณาแนวคิดร่างกฎหมายและรายละเอียดของการมีเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในประเทศ โดยเชิญ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาชี้แจง แต่นายกฯส่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์รมช.คลัง เข้าชี้แจง แต่นายจุลพันธ์ติดราชการที่เวียดนาม ทำให้ที่ประชุมเปิดเวทีให้ กมธ.ฯ ที่มีบทบาทเป็นฝ่ายวิชาการ อภิปรายเสนอมุมมองการวิเคราะห์
นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ในฐานะที่ปรึกษา กมธ. อภิปรายตอนหนึ่งว่ารัฐบาลมีพิรุธในการเปิดบ่อนถูกกฎหมาย ออกพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ... เพื่อให้รัฐสภามอบอำนาจเกือบเบ็ดเสร็จในพื้นที่เอ็นเทอร์เทนเมนต์ และบ่อน ให้กรรมการนโยบาย ที่มีนายกฯ เป็นประธาน โดยตนขอเรียนกว่าเป็น ครม.กาสิโน
ทั้งนี้การขออำนาจรัฐสภากำหนดจำนวนและที่ตั้ง กาสิโน จะกำหนดค่าตอบแทนอย่างไร เพราะกฎหมายเขียนไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ทั้งที่การเขียนกฎหมายนั้นต้องระบุว่ารัฐต้องได้ผลตอบแทนไม่น้อย 5,000 ล้านบาทคำถามคือ คนที่จะได้สัมปทานนี้เกิดขึ้นโดยครม.กาสิโน ไม่มีการเสนอการแข่งขันและมีการยกเว้นกฎหมายต่างๆ ให้เป็นเหมือนเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยครม.กาสิโน เป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือ ไม่มีการรับฟังความเห็น ประเมินผลกระทบทั้งที่ควรทำประชามติเฉพาะเขต
นายเจิมศักดิ์กล่าวต่อว่า รัฐบาลยืนยันจะเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมายขนาดใหญ่ มีข่าวหนาหูที่ต้องถามคือ ในพื้นที่กทม. จะทำที่คลองเตยพื้นที่ 3,800 ไร่ เตรียมแก้พ.ร.บ.การท่าเรือ เอาพื้นที่ให้ทำได้ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีมูลค่าตารางวา 1.2ล้านบาท หากใช้ 10% ทำกาสิโน เท่ากับจะใช้เงิน 1 แสนล้านบาท แต่คนลงทุนจ่ายค่า 1,100 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น นอกจากนั้น จ.เชียงใหม่ ทำที่อ.สันกำแพง จ.ชลบุรี ทำที่ อู่ตะเภา ทั้งนี้การออกกฎหมายให้สัมปทาน 30 ปี แต่หากมีผลกระทบต้องยกเลิก เป็นภาระของลูกหลานที่ต้องรับผิดชอบเหมือนกรณีอื่น ที่เคยมีปัญหา เช่น โฮปเวลล์ที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม
นายเจิมศักดิ์กล่าวอีกว่า พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคไม่เคยสัญญากับประชาชนเมื่อได้อำนาจรัฐจะเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมายในเมือง แต่เมื่อได้รับอำนาจแล้ว กลับไปทำในสิ่งที่ไม่ได้สัญญากับประชาชน ถือว่าทำผิดหรือไม่ และจากที่ฟังรัฐบาลบอกว่าไม่ยินดีทำประชามติ ทั้งที่การออกกฎหมายที่มีผลกระทบต่อสังคม รัฐบาลควรจัดทำประชามติเพื่อฟังความเห็นประชาชนก่อน ที่น่าสนใจต่อการทำร่างกฎหมายเอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่อาจมีประเด็นขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งในอนุกรรมาธิการผลกระทบกับสังคมต้องพิจารณา
ขณะที่นายแก้วสรร อติโพธิกมธฯ.กล่าวว่า แนวคิดรัฐบาลที่ต้องการให้มีสถานบันเทิงที่มีบ่อนกาสิโน ซึ่งเสนอร่างกฎหมายต่อสภาฯ ตนมองว่าเป็นความต้องการที่เปิดให้ทุนข้ามชาติเข้ามาประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ในการศึกษาของกมธ. จำเป็นต้องพิจารณาผลกระทบทางเศรษฐกิจ ชุมชนและสังคม ทั้งนี้ที่ทราบมาว่าเขาจะตั้ง 5-10 ที่ขับรถไปถึงภายใน 3 ชั่วโมง ดังนั้นที่ตั้ง ขนาด และจำนวนเป็นประเด็นต้องพิจารณาซักถามรายละเอียดจากรัฐมนตรี
“อย่างไรก็ตาม ผมพบพิรุธในโครงการที่จะทำคือ มีคนในตระกูลชินวัตร จัดหาผู้ออกแบบได้แล้วในโครงการที่จะทำที่ท่าเรือคลองเตย แต่ส่วนที่เหลือผมไม่ทราบ” นายแก้วสรรกล่าวและว่า ในการพิจารณาของกมธ. ต้องคำนึงถึงการตรวจสอบ การบังคับใช้กฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดเป็นโครงสร้างพื้นฐานของอาชญากรรม ยาเสพติด การค้าประเวณี ผู้มีอิทธิพลตามจังหวัดต่างๆ เพราะหากเกิดกรณีมีจีนเทามาสุมในพื้นที่เปิดสถานบันเทิงที่มีบ่อนการพนัน อาจเกิดกรณีทุนเทาเต็มสภาฯ จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้วประมาณ 5 อย่างไรก็ดีการเขียนกฎหมายของรัฐบาล หากตนเป็นสว. จะทำให้ถึงศาล เพราะเท่ากับเป็นการยกอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติให้องค์กรอื่น และมีเนื้อหาเท่ากับยกสิทธินอกอาณาเขตให้คนอื่น
“ขอให้พิจารณาในประเด็นสำคัญต่อประเด็นการหารายได้ให้ประเทศในภาวะที่มีปัญหาศูนย์เหรียญเกิดขึ้น ดูดเงินออกจากประเทศไทยไปต่างชาติ นอกจากนั้นจำเป็นต้องพิจารณาผลกระทบทางเศรษฐกิจและธุรกิจเดิมในพื้นที่เช่น กรณีที่จะตั้งที่คลองเตย การท่องเที่ยวย่านสีลมจะรอดหรือไม่ จำเป็นต้องจัดการให้ดีสุด ผมไม่ดัดจริตว่าไม่เอา แต่ต้องบริหารจัดการผลกระทบให้ได้” นายแก้วสรร กล่าว
ขณะที่นายจรัญภักดีธนากุล กมธ.ฯกล่าวว่า คนร่างและเสนอกฎหมายเข้ามาสภาฯนั้น แปลง ครม. ให้เป็นกรรมการนโยบาย ทั้งที่เป็นอำนาจครม. ในฐานะฝ่ายบริหาร แม้ตัวบุคคลเป็นคนเดียวกันแต่สถานะไม่เหมือนกัน เพราะกรรมการนโยบายไม่ต้องรับผิดชอบต่อสภาฯ จากประเด็นของการเสนอกฎหมายนั้นตนมองว่าเป็นเนื้อหาที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ หลายมาตรา เริ่มจาก มาตรา 115 มาตรา 3 มาตรา 65
“การเปิดให้มีบ่อนพนันออนไลน์ จะทำให้เกิดผลกระทบต่อประเทศ ในเชิงเศรษฐศาสตร์จะทำให้เครดิตของประเทศไทยทุกด้าน รวมถึงการลงทุนถูกกระทบ และต้องใช้หลักธรรมาภิบาล ที่ต้องมีหลักนิติธรรม เพราะหากไม่มีจะขัดแย้งกับรัฐธรมนูญ มาตรา 65 ผมไม่คิดว่าเสียงเอกฉันท์ของสว. จะยับยั้งโครงการนี้ถาวร เพราะรัฐบาลจากพรรคที่กุมเสียงข้างมากในสภาฯได้เบ็ดเสร็จ สามารถโต้แย้งได้ ผมเห็นว่าจำเป็นต้องอ้างรัฐธรรมนูญและเชื่อว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะเห็นว่าการทำเรื่องดังกล่าว ขัดแย้งกับสำนึกในศีลธรรมอันดีของคนไทย ธรรมาภิบาลยุทธศาสตร์ชาติที่กำหนดให้ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง” นายจรัญ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี