พาณิชย์สวน‘เท้ง’วัยรุ่นหลงยุค ย้ำไลฟ์สดช่วยดันยอดขายผลไม้ไทยได้จริง

พาณิชย์สวน‘เท้ง’วัยรุ่นหลงยุค ย้ำไลฟ์สดช่วยดันยอดขายผลไม้ไทยได้จริง

วันจันทร์ ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 11.35 น.

‘พาณิชย์’ สวน ‘เท้ง’ วัยรุ่นหลงยุค มองข้ามศักยภาพเทคโนโลยีโลกยุคใหม่ ย้ำกลยุทธ์ไลฟ์สดช่วยผลักดันส่งออกผลไม้ไทยได้จริง

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 นายวรวงศ์ รามางกูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ชี้แจงกรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส. บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน แสดงความเห็นว่า รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการขยายตลาดมากกว่าการไลฟ์สดขายสินค้าเกษตร


นายวรวงศ์ กล่าวว่า รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์มีแผนการบริหารจัดการผลไม้ไทยปี 2568 อย่างเป็นระบบ โดยวางไว้ 7 มาตรการ 25 แผนงาน ครอบคลุมเป้าหมาย 950,000 ตัน ซึ่งมีกิจกรรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศอยู่แล้ว ทั้งการเปิดตลาดใหม่ และการใช้ช่องทางออนไลน์อย่างการไลฟ์สดควบคู่กัน ไม่ใช่การเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ยืนยันการใช้ช่องทางออนไลน์ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในสถานการณ์ขณะนี้

การที่ คุณณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แนะนำให้ใช้งบประมาณภาษีของประชาชนไปมุ่งเน้นการขยายตลาดในประเทศอินเดีย แทนการไลฟ์สดขายสินค้าทางออนไลน์ อาจสะท้อนถึงความเข้าใจที่ยังไม่ครบถ้วนต่อบริบทการดำเนินนโยบายเชิงกลยุทธ์ภายใต้งบประมาณที่มีข้อจำกัดของภาครัฐ ทั้งยังเป็นข้อเสนอที่มองข้ามข้อเท็จจริงในเชิงพฤติกรรมผู้บริโภคและโอกาสทางการตลาดที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ในปี 2567 ประเทศไทยส่งออกทุเรียนไปยังประเทศจีนคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 97.4% ของมูลค่าการส่งออกทุเรียนทั้งหมดของไทย คิดเป็นมูลค่า 1.348 แสนล้านบาท ส่วนอินเดียมีการนำเข้าทุเรียนจากไทยเพียง 0.00005% คิดเป็นมูลค่า 67,662 บาท ซึ่งชาวอินเดียไม่นิยมรับประทานทุเรียนเนื่องจากกลิ่นของทุเรียนมักเป็นสิ่งที่ชาวอินเดียหลายคนรู้สึกไม่ชอบ โดยเฉพาะคนที่ไม่คุ้นเคย คนอินเดียจำนวนมากจึงเลี่ยงผลไม้นี้ การขยายตลาดในประเทศอินเดียจึงไม่สามารถทำได้ในเวลาอันสั้น

ไทยส่งออกทุเรียนไปจีน 97.4% ซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุด การหาตลาดเพิ่มกระทรวงพาณิชย์ได้เร่งทำควบคู่กันอยู่แล้ว ทั้งในตลาดประเทศต่างๆ และ ในประเทศจีนที่ยังมีศักยภาพอีกมาก เพราะประชากรมาก ประกอบกับชาวจีนนิยมและชื่นชอบท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เป็นอย่างมาก การที่ท่านนายกรัฐมนตรีมาช่วยไลฟ์ขายทุเรียน ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นการรับรู้ของผู้บริโภคจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การตลาดแบบนี้ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่เจาะตลาดได้ตรงจุด

นอกจากนี้ จากข้อมูลปี 2567 ประเทศไทยมีขนาดเศรษฐกิจดิจิทัลสูงถึง 4.44 ล้านล้านบาท เติบโตขึ้น 5.7% จากปีก่อนหน้า เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของประเทศไทยมีมูลค่ารวมประมาณ 18.58 ล้านล้านบาท เศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วนถึง 23.9% มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาค

ในปี 2567 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์เคยจัดงานมหกรรมไลฟ์คอมเมิร์ส International Live Commerce Expo 2024 ที่นำกลุ่ม KOLs ชื่อดังจากประเทศจีน เข้ามาไลฟ์ขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งเป็นสินค้าไทยทั้งสิ้น จำนวน 5 วัน (ระหว่างวันที่ 25 ถึง 29 กันยายน 2567) โดยมีคำสั่งซื้อและยอดส่งออกไปจีนกว่า 4,300,000 ออเดอร์ มูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท เป็นอีกสิ่งยืนยันว่ากลยุทธ์การไลฟ์สินค้าไทยที่รัฐบาลเลือกใช้ในการขยายตลาดต่างประเทศเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมแล้ว

แม้คุณณัฐพงษ์จะเป็นคนรุ่นใหม่ที่น่าจะเข้าใจความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล แต่ดูเหมือนว่ายังไม่ได้ศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนแสดงความเห็น ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย

ในภาพรวม อยากให้พรรคฝ่ายค้านพิจารณาใช้พลังในการเสนอแนวทางเชิงสร้างสรรค์ เพื่อช่วยกันผลักดันประเทศในสภาวะเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มากกว่าการวิพากษ์วิจารณ์เพียงเพราะหวังผลทางการเมือง

ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัด คือ กรณีการเจรจาการค้าระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทยกับผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีการแจ้งล่วงหน้าอย่างเป็นทางการแล้ว แต่กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องโดยไม่ฟังข้อเท็จจริง จนกระทั่งมีหลักฐานปรากฏอย่างชัดเจนผ่านภาพถ่ายและคลิปวิดีโอการพบปะกับ Mr. Jamieson Greer ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา หรือ USTR ซึ่งควรสะท้อนให้เห็นถึงความรอบคอบที่ควรมีในบทบาทฝ่ายค้าน

ฝ่ายค้านยุคใหม่ ควรมีบทบาทในการร่วมแก้ไขปัญหาประเทศ ควบคู่กับการตรวจสอบรัฐบาลอย่างสร้างสรรค์ มิใช่เพียงตั้งคำถามหรือแสดงความเห็นในลักษณะที่ขาดข้อมูลและความเข้าใจที่เพียงพอ

นายวรวงศ์ กล่าวย้ำว่า เราไม่ได้ปฏิเสธการขยายตลาดใหม่ๆ อย่างประเทศอินเดียหรือประเทศอื่นๆ แต่ต้องยอมรับว่าใช้เวลาและต้นทุนสูง ขณะที่การใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล โดยเฉพาะการไลฟ์สด เป็นแนวทางที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด ซึ่งสอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top