'โฆษกสธ.'ไล่'สว.วีระพันธ์'ไปศึกษาพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรมให้ถ่องแท้ หลังอัด'สมศักดิ์'ไม่มีความรู้การแพทย์ ไม่ควรแย้งมติแพทยสภา
เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2568 น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ตามที่นายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย สว. โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กเตือนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุข ให้เคารพกระบวนการของแพทยสภา และรักษาเส้นแบ่งระหว่างอำนาจทางการเมืองกับความเป็นอิสระของวิชาชีพแพทย์ กรณีมติแพทยสภาลงโทษแพทย์ 3 คนปมชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมิได้หวั่นไหวหรือวิตกกังวลใดๆ เพียงแต่แปลกใจว่า นายวีระพันธ์ กลัวอะไรนักหนา หรือมีมิจฉาทิฐิอะไรบางอย่างตกค้างอยู่ในจิตใจเหมือนคนกลุ่มหนึ่งที่เกือบ 20 ปี ยังไม่เลิกโกรธเกลียดอาฆาตแค้นนายทักษิณ ชินวัตรหรือไม่ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘สว.วีระพันธ์’ดักทาง‘นักการเมือง’ ไม่มีความรู้ด้านการแพทย์ ไม่ควรแย้งมติแพทยสภา)
น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า หลังจากนายสมศักดิ์ได้รับทราบมติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ 1 คนโดนตักเตือน อีก 2 คนโดนพักใบอนุญาตวิชาชีพเวชกรรม ก็ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 จำนวน 10 คน มีอำนาจหน้าที่เสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หากคณะกรรมการจะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายก็ให้กระทำได้ ทั้งนี้ คณะกรรมการทั้ง 10 คน นายสมศักดิ์ ได้พิจารณาคัดเลือกมาล้วนแต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ และมีเกียรติประวัติที่เชื่อถือได้ จึงมั่นใจว่าความเห็นที่คณะกรรมการชุดนี้จะเสนอมาได้ผ่านการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน รอบคอบ มีข้อเท็จจริงและสภาพแวดล้อมประกอบว่าการกระทำของ 3 แพทย์ผิดจริยธรรมหรือไม่ กระบวนการสอบข้อเท็จจริง และบทลงโทษมีความเหมาะสมหรือไม่ เพียงใด จากนั้นนายสมศักดิ์จะพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเป็นธรรมที่สุด
โฆษก สธ.ฝ่ายการเมือง กล่าวต่อว่า นายวีระพันธ์ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาน่าจะรู้เรื่องกฎหมายดีว่าพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มาตรา 25 ซึ่งบัญญัติว่า รมว.สาธารณสุขในฐานะสภานายกพิเศษของแพทยสภามีเวลา 15 วันในการพิจารณามติของแพทยสภา ซึ่งมี 2 แนวทาง 1. เห็นชอบกับมติแพทยสภา 2. ยับยั้งหรือวีโต้มติแพทยสภา โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งเหตุผล หากพ้น 15 วัน รมว.สาธารณสุขไม่ดำเนินการใดๆ มติของแพทยสภาจะมีผลบังคับใช้โดยอัตโนมัติ แต่ถ้า รมว.สาธารณสุขใช้สิทธิ์วีโต้ แพทยสภาจะต้องพิจารณาใหม่ หากยืนยันมติเดิม จะต้องได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของกรรมการทั้งหมด จากกระบวนการดังกล่าว นายวีระพันธ์ควรจะรับรู้ว่า นายสมศักดิ์ไม่อาจดำเนินการอะไรตามใจชอบของตัวเองได้ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายซึ่งออกในสมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ บังคับใช้มา 40 กว่าปีแล้ว
น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า เปรียบได้กับศาลยุติธรรมซึ่งมี 3 ศาล คือชั้นต้น อุทธรณ์ และฎีกา ส่วนศาลปกครองก็มีชั้นต้น และชั้นสูง การพิพากษาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพื่อจะได้อำนวยความยุติธรรมให้คู่ความ การสอบสวนในหน่วยรัฐก็เช่นกัน มีทั้งสอบข้อเท็จจริง และสอบวินัย ผลการสอบออกมา ผู้ถูกลงโทษก็มีสิทธิอุทธรณ์ได้ และนำไปฟ้องต่อศาลปกครองได้เช่นกัน การวีโต้หรือไม่วีโต้ของนายสมศักดิ์ ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายที่ให้อำนาจไว้ นายวีระพันธ์ ไม่สมควรมาเดา และกล่าวหาให้ร้ายนายสมศักดิ์ แทรกแซงแพทยสภา ต่างฝ่ายต่างก็ทำไปตามอำนาจหน้าที่ นายวีระพันธ์ เป็นสมาชิกวุฒิสภาก็ทำหน้าที่ตามขอบเขตหน้าที่ของตนเองตามกฎหมายไป และควรต้องรู้ว่าเรื่องนี้มีความซับซ้อน และมีการถกเถียงในสังคม ทั้งข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย
“ทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามขั้นตอน และกระบวนการ มีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้องกำลังทำไปตามอำนาจที่กฎหมายบัญญัติไว้ และควรยอมรับฟังความเห็นต่างหรือเหตุผลอีกฝ่าย ไม่ควรพยายามจะเอาแต่ใจตัวเอง รอเวลาไม่กี่วัน ทุกฝ่ายควรเข้าใจและยอมรับในบทบาทหน้าที่ของตนเอง และผู้อื่น ไม่ควรชี้นำสังคมไปในทางที่ตนเองเชื่อ” น.ส.ตรีชฎา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี