"ตัวแม่พันธุ์ใหม่"ปูด"วุฒิสภา"ลักไก่ ยัดวาระตั้ง"7 เก้าอี้องค์กรอิสระ"สอดไส้ประชุมวิสามัญฯถกงบฯปี 69 ซัดเป็นหายนะของประเทศ เหมือนตั้ง"ผู้พิพากษา"เข้าไปอุ้มดูแลคดีตัวเอง เตรียมทำหนังสือค้าน 30 พ.ค.นี้
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่มพันธุ์ใหม่ แถลงถึงความคืบหน้าในการเข้าชื่อ สว.เพื่อขอให้สมาชิกหยุดปฏิบัติหน้าที่การแต่งตั้งบุคคลในองค์กรอิสระ ว่า จากที่ทีมกฎหมายได้พิจารณาข้อกฎหมายแล้ว พบว่าการจะขอให้ สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่ไม่มีกฎหมายรองรับโดยตรง จึงต้องยึดรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ประกอบกับมาตรา 113 และ 114 เพื่อถอดถอน สว.ที่ถูกกล่าวหาทั้งหมด และร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หากปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ถูกร้องมีพฤติกรรมตามที่ร้อง ขอให้ศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ซึ่งอยู่ในดุลพินิจของศาลว่าจะให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทั้งหมดหรือเป็นบางส่วนเฉพาะเรื่องการเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ โดยเทียบเคียงกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่เคยวินิจฉัยให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะส่วนกำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
น.ส.นันทนา กล่าวต่อว่า กรณีนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุดเนื่องจากวุฒิสภา มีการบรรจุวาระการประชุมสมัยวิสามัญวันที่ 30 พ.ค.โดยมีวาระให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 3 ตำแหน่ง อัยการสูงสุด 1 ตำแหน่ง และมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบคุณสมบัติของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 ตำแหน่ง และ กกต.อีก 1 ตำแหน่ง ถือเป็นการกระทำที่ผิดปกติหรือไม่ เนื่องจากวุฒิสภาได้บรรจุระเบียบดังกล่าวเข้ามาในสมัยประชุมวิสามัญซึ่งเปิดเพียง 3 วัน ทั้งที่เปิดมาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปีงบประมาณ 2569 ดังนั้น ถือเป็นการลักไก่เร่งด่วนอย่างผิดปกติ การกระทำเช่นนี้ทำเพื่ออะไร
"ขณะนี้ประชาชนทั่วไปทราบว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นหายนะของประเทศ หากมีการปล่อยให้มีการแต่งตั้งองค์กรอิสระอย่างเร่งด่วนเช่นนี้ เป็นเรื่องการขัดขัดแย้งผลประโยชน์อย่างรุนแรง เพราะ สว.เสียงข้างมาก กำลังตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา ว่าเข้าสู่ตำแหน่งโดยมิชอบ และได้ทำการตรวจสอบ โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และดีเอสไอ ซึ่งหากปล่อยให้มีการแต่งตั้ง กกต.เข้าไปก็จะเป็นสิ่งที่เรียกว่า ต่างตอบแทน เช่นเดียวกับศาลรัฐธรรมนูญที่จะเป็นผู้วินิจฉัย การกระทำนี้ จะไม่เท่ากับตั้งผู้พิพากษามาพิจารณาตัวเองหรือ" น.ส.นันทนา กล่าว
น.ส.นันทนา กล่าวด้วยว่า หากในอนาคตมีการให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระ ในขณะที่การตรวจสอบ สว.เสียงข้างมาก ยังไม่ชัดเจน ถ้ามีการดำเนินคดีไปถึงที่สุด หรือศาลมีคำพิพากษาให้ สว.ที่เป็นเสียงข้างมากนั้น มีความผิด จะทำให้ผลแห่งการลงมติของผู้ของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ กลายเป็นมรดกบาป ที่ สว.ได้ทิ้งไว้ให้กับประเทศชาติหรือไม่ ซึ่งก็จะผลต่อสถานะขององค์กรอิสระเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากองค์กรอิสระเป็นองค์กรภายใต้กำกับพรรคการเมือง หรือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จะบิดเบี้ยวไปอย่างไร จะเป็นองค์กรที่เป็นกลางเที่ยงธรรมหรือไม่ ทั้งนี้ นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว.ก็จะยื่นญัตติชะลอการเลือกกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ในการประชุมวุฒิสภา วันที่ 30 พ.ค.นี้ โดยการทำเป็นหนังสือ ซึ่งต้องรอการบรรจุระเบียบวาระ
"แม้ทุกมติของเรา จะไม่เคยผ่านเลย แต่ก็เป็นช่องทางที่เราจะต้องทำ ตลอดจนภาคประชาชน ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องติดตามต่อไป ว่ากระบวนการไหนจะสำเร็จหรือบรรลุเป้าหมายได้ก่อน" น.ส.นันทนา ระบุ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี