หักหน้า‘สมศักดิ์’
‘แพทยสภา’ยันไม่ส่งเอกสารเพิ่ม
ชี้มติฟัน3หมอชั้น14ครบถ้วนแล้ว
“แพทยสภา” ปัดส่งเอกสารเพิ่มให้“รมว.สาธารณสุข”ย้ำให้ไปครบแล้ว เพียงพอที่จะตัดสินใจวีโต้มติลงโทษ “3 หมอ” เอี่ยวชั้น 14 “หมออมร”ยันเข้าร่วมประชุม 12 มิถุนายน ไร้คนล็อบบี้ บอกไม่ทราบผู้ร้องขอความเป็นธรรมผ่าน “รมว.สธ.”ผิดขั้นตอนหรือไม่ จากปกติมีสิทธิร้องศาลปกครองได้ ด้าน“ทีมสมศักดิ์” เตรียมประชุมอีกครั้ง 26 พฤษภาคมนี้
จากกรณีที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ได้ทำหนังสือมาขอให้แพทยสภา ส่งเอกสารเกี่ยวกับการพิจารณาจริยธรรมแพทย์ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการส่งตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จาก รพ.ราชทัณฑ์ ไปรักษาที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งต่อมาแพทยสภาได้มีมติให้ลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการลงโทษตักเตือน 1 คน และพักใช้ใบอนุญาต 2 คน และส่งเรื่องให้สภานายกพิเศษพิจารณาว่าจะวีโต้หรือไม่ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.2568
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี กรรมการแพทยสภา ให้สัมภาษณ์กรณีนี้ ว่า เรื่องนี้สภานายกพิเศษสามารถเรียกเอกสารเพิ่มได้ แต่ทางแพทยสภาไม่ได้ส่งเอกสารอะไรไปให้เพิ่มเติม เพราะตั้งแต่วันที่ไปยื่นมติแพทยสภาให้สภานายกพิเศษ ก็ได้ยื่นเอกสารประกอบไปหมดแล้วตามที่ควรจะได้ ในส่วนที่สามารถให้ได้ คิดว่าแค่นั้นก็มากเพียงพอที่เขาจะพิจารณาได้แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากแพทยสภาไม่ส่งเอกสารเพิ่มเติมไปให้จะทำให้สภานายกพิเศษมีการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งกลับมานั้น ศ.นพ.อมร กล่าวว่า เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว ซึ่งการที่เราจะตัดสินลงโทษอะไรใครมันก็ต้องมีความโปร่งใส ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ใช่ยุกยิกๆ มันมีเอกสาร ข้อมูลต่างๆ ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ในการพิจารณามันก็เป็นความลับในกลุ่มกรรมการ แต่ในส่วนของการพิจารณานั้นมีข้อมูลหลักฐานชัดเจน
เมื่อถามว่า มีหนึ่งในผู้ร้องขอความเป็นธรรมกับสภานายกพิเศษ ระบุว่า แพทยสภาไม่ควรตัดสินทั้งที่เอกสารไม่ครบ เพราะมีบางอย่างที่เขาไม่ได้ส่งให้แพทยสภา เพราะแพทยสภาไม่ได้ขอ และเชื่อว่าหากเห็นอาจจะมีการตัดสินเป็นอย่างอื่น ศ.นพ.อมร กล่าวว่า อันนี้ไม่ได้ เพราะเราขอให้เขาส่งหมดอยู่แล้ว ขนาดครั้งแรก และครั้งที่ 2 ที่ส่งมาเพิ่มเติมเรายังยอมขยายเวลาให้ ทั้งๆ ที่เราจะสรุปแล้วตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา จนทำให้แพทยสภาถูกวิพากษ์วิจารณ์ด้วยซ้ำ ดังนั้น เราเปิดช่องให้เขายื่นข้อมูลเอกสารอยู่แล้ว เราไม่เคยปฏิเสธ
“เราให้ความเป็นธรรมหมด เขาส่งอะไรมาเราก็รับ เมื่อไม่ส่งอะไรมาเพิ่มเติม เราก็ตัดสินไปตามนั้น นี่เป็นไปตามขั้นตอน เราให้โอกาสเต็มที่ภายใต้ภาวะวิสัยที่ดีที่สุด เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” ศ.นพ.อมร กล่าว
เมื่อถามต่อว่า เนื่องจากตอนนี้มีกระแสการล็อบบี้กรรมการไม่ให้เข้าประชุม วันที่ 12 มิ.ย.นี้ จะเข้าประชุมด้วยหรือไม่ ศ.นพ.อมร กล่าวยืนยันว่า ไม่มีใครมาล็อบบี้ตน และยืนยันว่าวันที่ 12 มิ.ย.นี้ ตนเข้าประชุมแน่นอนตามปกติ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยขาดประชุม ทั้งนี้ เมื่อสภานายกพิเศษส่งความเห็นกลับมาแล้ว ทางกรรมการแพทยสภาก็มีการพิจารณาตามปกติ ซึ่งโดยทั่วไปไม่ได้ใช้เวลานาน โดยจะดูจากข้อมูลที่เขาส่งกลับมาว่ามีความเห็นอย่างไร แตกต่างกันอย่างไร หากกรรมการแพทยสภาเห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พิจารณากันหมดเรียบร้อยแล้วก็จบ แต่หากเป็นข้อมูลใหม่เอี่ยมจริงๆ ที่จะสามารถเอามาพิจารณาอะไรได้ ซึ่งจริงๆ มันก็น่าจะหมดแล้ว เพราะสภานายกพิเศษนั้นเราก็ดูในกรอบข้อมูล กระบวนการที่เราได้มา ทั้งข้อมูล ทั้งการสอบสวน ที่เราทำเต็มที่
“ส่วนผู้ถูกร้องนั้นเราก็มีช่องทางไปศาลปกครองที่สามารถทำเพิ่มเติม เป็นความยุติธรรมที่เขาให้อยู่ในระบบอยู่แล้ว ส่วนในชั้นสภานายกพิเศษก็เอาเพียงแต่นี้ ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่จบเสียที เขาก็ส่งข้อมูลมาเรื่อยๆ ทุกเดือนๆ มันก็ไม่จบ ดังนั้น ก็ให้จบ แต่เขาก็สามารถไปขอความยุติธรรมที่ศาลปกครองได้ตามสิทธิ์” ศ.นพ.อมร กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า แปลว่า การที่ผู้ร้องขอความยุติธรรมที่มายื่นผ่านสภานายกพิเศษนั้นถือเป็นการผิดขั้นตอน ผิดช่องทางหรือไม่ ศ.นพ.อมร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่สภานายกพิเศษ รัฐมนตรีสมศักดิ์ ก็ต้องดูตามกติกา ตามขั้นตอน
ด้าน นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 กรณีแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 คน กล่าวว่า หลังจากที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 กรณีแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 คนที่รักษานายทักษิณ ที่รักษาตัว ชั้น 14 ในรพ.ตำรวจ ได้ประชุมนัดแรกเมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา และเห็นว่า ยังมีเอกสารบางส่วนที่ขาดในขั้นตอนการพิจารณาของแพทยสภาที่กรรมการยังสงสัยและได้ขอให้แพทยสภาส่งเพิ่มเติมนั้น จนถึงขณะนี้แพทยสภา ยังไม่ได้ส่งมาให้ โดยแจ้งว่าไม่มีเอกสารใดที่จะให้เพิ่มเติม
ดังนั้นคณะกรรมการฯ ได้นัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 26 พ.ค.นี้ เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดที่ได้มาพิจารณาอีกครั้ง ก่อนจะสรุปเสนอความเห็นถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา วันที่ 27 พ.ค.นี้ หากแพทยสภาไม่ได้ส่งข้อมูลใดๆ มาเพิ่มเติมหลังจากที่ได้ขอไป ก็ไม่เป็นไร เราก็ทำเท่าที่มี แต่สิ่งที่ไม่ส่งมาให้เรามองว่ามันเป็นประโยชน์ แต่แพทยสภาแจ้งว่าส่งให้ครบแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร ก็ต้องเป็นความเห็นแพทยสภาที่มีเหตุผลใดที่ไม่ให้มา หรือไม่มีตั้งแต่ต้น
“อย่างไรก็ตามได้นัดประชุมอีกครั้งวันที่ 26 พ.ค.จะต้องให้แล้วเสร็จเสนอท่านสมศักดิ์ ภายในวันที่ 27 พ.ค.นี้ต้องจบแล้ว เพราะมีเวลาแค่ 2-3 วันที่ท่านสมศักดิ์ต้องทำความเห็น ทั้งนี้คณะกรรมการทั้ง 10 คนนี้ไม่ได้สรุปความเห็นหรือมีการโหวตมติว่าเป็นอย่างไร ส่วนจะออกในรูปแบบไหนก็แล้วแต่ประธานคณะกรรมการ ซึ่งกรรมการทั้ง 10 คนจะเสนอความเห็นเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละคน ส่วนท่านสมศักดิ์จะคิดเห็นอย่างไรก็แล้วแต่ท่านจะเป็นผู้สรุปเอง เป็นไปตามกฎหมายที่มอบอำนาจให้สภานายกพิเศษตัดสินว่าจะเห็นด้วยหรือยับยั้งกับมติแพทยสภา” นายธนกฤต กล่าว
เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่กับการพิจารณาเรื่องนี้ นายธนกฤต กล่าวว่า ไม่รู้สึกอะไรเลย เหมือนคนมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม ประชาชนมาร้องเรียนตนก็ต้องให้ความเป็นธรรม คุณหมอมาร้องเรียน และหมออยู่ในกรรมการแพทยสภาด้วยซ้ำที่โดนลงโทษ และคุณหมอก็อยู่ในวิชาชีพเดียวกัน ตนก็ต้องให้ความเป็นธรรมเพราะตนเป็นนักกฎหมาย ก็ต้องเอากฎหมายเป็นตัวตั้งและต้องตอบสังคมให้ได้ทุกอย่าง แม้ท่านสมศักดิ์สรุปออกมาอย่างไรตมก็ต้องตอบสังคมได้เช่นกัน คนเราจะทำอะไรเกินที่กฎหมายกำหนดไม่ได้ ได้คุยกับท่านสมศักดิ์ทุกวัน มีอะไรก็เรียนท่านอยู่แล้ว ท่านก็ไม่ได้หนักใจอะไร ส่วนที่มองเป็นเรื่องการเมืองก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะคนมีความเห็นต่างได้ แต่ต้องเอาหลักกฎหมายเป็นตัวตั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี