วันอาทิตย์ ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
อ้างผลพวงมาจากการปฏิวัติ พท.เดินหน้าอุ้ม‘ปู’ คาใจโดนชดใช้หมื่นล้าน

อ้างผลพวงมาจากการปฏิวัติ พท.เดินหน้าอุ้ม‘ปู’ คาใจโดนชดใช้หมื่นล้าน

วันอาทิตย์ ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : เพื่อไทย อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คดีจำนำข้าว ยิ่งลักษณ์ หมอวรงค์ แนวหน้าออนไลน์
  •  

อ้างผลพวงมาจากการปฏิวัติ
พท.เดินหน้าอุ้ม‘ปู’
คาใจโดนชดใช้หมื่นล้าน
ห่วงไม่มีใครกล้าช่วยปชช.
‘หมอวรงค์’ขุดจำนำข้าว
ทำชาติขาดทุน5.3แสนล.

แกนนำเพื่อไทย ยังดาหน้าป้อง “ยิ่งลักษณ์” ที่ถูกศาลปกครองสูงสุด สั่งชดใช้ 1 หมื่นล้าน ในคดีจำนำข้าว “อนุสรณ์-วรวัจน์” ประสานเสียง ย้ำเป็นผลพวงมาจากการปฏิวัติ ชี้ต่อไป
คงไม่มีใครกล้าทำนโยบายดีๆ ช่วยประชาชน ด้าน “หมอวรงค์” ตามขุดจำนำข้าวมหาภัย ทำชาติขาดทุน 5.3 แสนล้าน “กรณ์ จาติกวณิช” ยกประกันรายได้ยุคอภิสิทธิ์ ดีกว่าการจำนำยุคปู อดีตสว.สมชาย เตือนรัฐบาลอย่าศรีธนญชัย

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2568นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แสดงความเห็นว่าโครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถหักหนี้กับผลประโยชน์ได้ว่า เป็นการมองแบบตัดตอนเพียงเฉพาะด้านบัญชี โดยไม่พยายามมองมิติทางเศรษฐกิจและสังคมจากนโยบายจำนำข้าว ที่สามารถช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรได้มากกว่า 3.7ล้านครัวเรือน เงินกว่า 6.8 แสนล้านบาท หมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากชนบทโดยตรง สร้างการจ้างงาน กระจายรายได้ และยกระดับรายได้ของเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม โครงการรับจำนำข้าว ไม่ใช่โครงการแจกเงินแบบไร้ระบบ แต่เป็นนโยบายเชิงโครงสร้าง ที่มุ่งสร้างเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร มีเป้าหมายชัด มีระบบตรวจสอบและได้รับการยอมรับจากเกษตรกรทั่วประเทศ มีผลลัพธ์ที่ดีชัดเจน ประเทศไทยสามารถกลับมาครองตำแหน่งผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลกได้ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งสะท้อนผลลัพธ์ที่ชัดเจนและพิสูจน์ได้


ซัดพวกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า

นายอนุสรณ์ ยังกล่าวอีกว่า การโจมตีนโยบายด้วยวาทกรรมทางการเมืองเพื่อลดทอนความน่าเชื่อถือของฝ่ายตรงข้ามซ้ำแล้วซ้ำเล่า อาจกลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการผลักดันนโยบายเปลี่ยนประเทศ อาจส่งผลให้ในอนาคตพรรคการเมือง อาจจะไม่กล้านำเสนอนโยบายแบบพลิกประเทศ ที่คิดใหม่ ทำใหม่ มุ่งตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาของประเทศ อาจได้รัฐบาลที่ไม่กล้าคิด ไม่กล้าทำอะไรเชิงโครงสร้างหรือเชิงระบบ เพราะจะถูกนำมาเป็นเครื่องมือทำลายล้าง หรือทำนิติสงคราม ทำให้การบริหารราชการแผ่นดินติดหล่มในภายหลัง อาจเป็นบรรยากาศที่บั่นทอนระบอบประชาธิปไตยที่ควรเปิดพื้นที่ให้แข่งขันกันด้วยแนวนโยบาย ไม่ใช่ด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อทำให้รัฐบาลทำอะไรไม่ได้

โอดรบ.ไม่ควรเป็นจำเลยการเมือง

“อย่าทำลายบรรยากาศของการแข่งขันกันออกความคิดเชิงนโยบายด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองระยะสั้น หากยังเชื่อว่าประชาชนควรมีทางเลือก ควรยอมรับว่านโยบายที่ทำได้จริงและช่วยเหลือคนส่วนใหญ่ของประเทศนั้น สำเร็จได้โดยรัฐบาลที่กล้าผลักดันนโยบายรัฐบาลนั้น ไม่ควรถูกทำให้กลายเป็นจำเลยทางการเมืองไม่จบสิ้น” นายอนุสรณ์ กล่าว

‘วรวัจน์’ชี้หลักบริหารรบ.ไม่เคยขาดทุน

ด้านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทยกล่าวชี้ถึงกรณีศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในคดีโครงการรับจำนำข้าววงเงิน10,028 ล้านบาทว่า โดยหลักของการบริหารประเทศนั้น มุ่งเป้าไปที่การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นหลัก เม็ดเงินงบประมาณของประเทศจะถูกใช้ไปในการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจทั้งหมดจะใช้คำว่าขาดทุนไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าจากรายงานทางการเงินของทางสตง.เองก็ไม่เคยมีรายงานการปิดบัญชีว่า มีการขาดทุนเกิดขึ้นในโครงการรับจำนำข้าวหรือในระบบงบประมาณของประเทศไทยมาเลย การทำนโยบายของรัฐตามที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชนอย่างโครงการรับจำนำข้าว ก็เหมือนกับทุกนโยบายอื่นๆไม่ว่าจะเป็นนโยบายประกันราคาข้าว ประกันยุ้งฉางหรือโครงการช่วยเหลือผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆทั่วไป ไม่มีข้อแตกต่าง

โทษคำสั่งม.44เอาผิด‘ยิ่งลักษณ์’

“และที่ยิ่งไปกว่านั้น คือการดำเนินการเอาผิดกับน.ส.ยิ่งลักษณ์นี้ มีการใช้คำสั่งตามมาตรา 44 เข้ามาดำเนินการ ทำให้เกิดบรรทัดฐานที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายในสายตาของนานาประเทศอื่นๆเป็นอย่างมาก เพราะแม้เช่นประธานาธิบดีทรัมป์ ถึงจะออกนโยบายใดๆมาแล้วมีความเห็นของประชาชนกลุ่มหนึ่ง บอกว่าผิดพลาดไม่เห็นด้วย ก็ไม่สามารถไปเอาผิดเขาได้ เพราะทำในฐานะผู้บริหารประเทศที่ตัดสินใจบนผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งแน่นอนว่า ทุกนโยบายก็ต้องมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว และการตัดสินการตัดสินใจทางการเมือง จะอยู่ที่ผลการเลือกตั้งของประชาชน แต่การเอาบรรทัดฐานซึ่งไม่ใช่บรรทัดฐานสากลมาบังคับใช้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเสียหายได้”นายวรวัจน์ ระบุ

อ้างเหตุปฎิวัติจี้ควรทบทวน

นายวรวัจน์ กล่าวอีกว่าประการสำคัญอีกประการหนึ่งคือโครงการจำนำข้าวไม่ใช่ว่า จะมีโอกาสว่าเสียหายอย่างเดียว แต่มีโอกาสที่จะมีกำไรด้วย เพราะตัวเลขปิดบัญชีระหว่างปี เป็นแค่ตัวเลขในขณะหนึ่งๆเท่านั้น การชี้แจงในกระบวนการว่ามีผลติดลบ เป็นแค่ช่วงเวลาช่วงใดช่วงหนึ่งเท่านั้น และมีเหตุเกิดขึ้นในระหว่างรอยต่อการปฏิวัติรัฐประหารซึ่งขณะนั้นมีการปิดโกดังข้าวจนทำให้ข้าวเสื่อมราคา แม้ช่วงนั้นจะมีผู้ต้องการซื้อข้าวในราคาที่สูงแต่ก็ไม่สามารถซื้อได้ แต่กลับถูกขายออกไปในราคาที่ต่ำ เหมือนกับข้าวหมดสภาพแล้ว นี่คือปัญหาเชิงการเมืองที่จะพยายามเอาผิดมากกว่าปัญหาในทางปฏิบัติจริง ซึ่งตนเห็นว่าควรจะต้องมีการทบทวนในเรื่องนี้ และดำเนินการตามหลักนิติรัฐ และนิติธรรมที่แท้จริง ไม่ใช่การเอาเหตุผลทางการเมืองในช่วงการปฏิวัติรัฐประหารมามีส่วนในการตัดสินใจ

ชี้คนไม่กล้าทำนโยบายเพื่อปชช.

นายวรวัจน์ กล่าวด้วยว่า ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปในอนาคตจะไม่มีใครกล้าตัดสินใจทำนโยบายดีๆอะไรเพื่อพี่น้องประชาชนเลย เพราะทุกคนจะมัวเกรงว่าหากคิดทำนโยบายอะไรไปแล้ว ถึงแม้จะดีอย่างไร ก็อาจจะถูกนำกลับมาเล่นงานเชิงการเมืองได้อีกในภายหลัง

“ความจริงแล้ว ต้องบอกว่าถ้าถามพี่น้องชาวนาและประชาชน ก็จะได้คำตอบว่า โครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการที่ดีที่สุดโครงการหนึ่ง ที่พี่น้องชาวนาให้ความชื่นชม และแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ให้พี่น้องประชาชนมีเงินในกระเป๋าเพิ่มมากขึ้นได้อย่างแท้จริง ดีขึ้นจนกระทั่งรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สามารถลดการขาดดุลงบประมาณ เพราะได้รับภาษีเพิ่มมากขึ้น”

พึ่ง ChatGPT ป้อง’ยิ่งลักษณ์’

นายวรวัจน์ยังมองว่าในภาพรวมของทุกประเทศทั่วโลกทุกประเทศต่างก็ดำเนินการในรูปแบบนี้ทั้งหมด คือ โดยการใช้จ่ายเงินของภาครัฐ จะไม่มีคำว่า ขาดทุน ประเทศไทยเราต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นจะก่อให้เกิดปัญหาต่อการบริหารประเทศในระยะยาว

“ผมได้ลองยกตัวอย่างข้อเท็จจริง โดยให้ลองตั้งคำถามลักษณะนี้กับChatGPTซึ่ง เป็นปัญญาประดิษฐ์ ที่ไม่ได้มีอคติทางการเมืองและไม่ได้เป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง บทวิเคราะห์ยังออกมาในลักษณะเดียวกันนี้เลย ดังนั้นถ้าว่ากันด้วยหลักจริงๆคำตอบยังไงก็ออกมาตรงกันทั้งโลกครับ“นายวรวัจน์ กล่าว

‘วรงค์’ชี้คนทำทุจริตต้องจ่ายเอง

ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดีโพสต์เฟซบุ๊กว่าขอให้ความรู้ทนายและรัฐมนตรีอุ๊งอิ๊ง ระบุว่า ขอให้ความรู้กับทนายความ และรัฐมนตรี ของรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง ที่ออกมาพูดว่าจะเอาเงินที่ระบายข้าว18ล้านตัน มาชดใช้แทน ที่ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้ยิ่งลักษณ์ต้องชดใช้ค่าสินไหม(ค่าเสียหาย) 10,028 ล้านบาท

“คนที่มีสติปัญญาปกติ ก็น่าจะรู้ว่า ศาลเห็นว่า การระบายข้าวแบบจีทูจี เป็นการร่วมกันทุจริต ขายข้าวสารราคาถูก ในขณะที่ข้าวสารตลาดราคาสูง เพื่อเลี่ยงการประมูล มีทั้งสิ้น 4สัญญา นำไปสู่ค่าเสียหาย 20,057 ล้านบาท แต่ให้ยิ่งลักษณ์รับผิดชอบ 50% คือ 10,028 ล้านบาท ศาลท่านให้ชดใช้เรื่องที่มีการทุจริต”

ส่วนข้าวสารที่เหลือ ที่มีความเสียหาย ยิ่งลักษณ์ไม่ต้องรับผิดชอบ ข้าวที่เหลือเมื่อขายได้ ต้องไปจ่ายเงินกู้ ที่กู้มาลงทุนทำโครงการรับจำนำข้าว (ราคาข้าวเปลือกในตลาด 10,000บาทต่อตัน แต่รับจำนำ 15,000 บาทต่อตัน)

จำนำข้าวขาดทุนยับ5.36แสนล้าน

นพ.วรงค์ระบุอีกว่าเพื่อให้เห็นภาพ ข้าวสารที่เหลือ หลังจากรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ เข้ามารับต่อ ได้มีการแต่งตั้งกรรมการตรวจนับสต๊อกรวมถึงคุณภาพข้าวในโกดังรัฐบาล โดยมี มล.ปนัดดา ดิสกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เป็นประธานในการตรวจนับ ยอดคงเหลือข้าวในสต็อก17.5ล้านตัน คณะกรรมการที่ตรวจนับรายงานว่า มีข้าวที่ผ่านเกณฑ์หรือคุณภาพยังดีอยู่เพียง 2.9 ล้านตัน ส่วนที่เหลือเป็นข้าวที่คุณภาพต่ำและไม่ตรงชนิด

นอกจากนี้ ยังมีสต็อกข้าวที่ไม่สามารถตรวจนับได้ หรือที่เรียกว่า ข้าวกองล้ม เช่น กระสอบแตกเสียหาย มีจำนวนประมาณ 4.25 แสนตัน ซึ่งในทางบัญชีถือว่า ยังเป็นข้าวที่มีคุณภาพดี ส่วนข้าวที่คุณภาพแย่หรือข้าวเน่านั้น ประเมินว่า มีอยู่จำนวนประมาณ 8 แสนตัน อนุกรรมการปิดบัญชีจำนำข้าว รอบปีบัญชี2557ได้มีการปิดบัญชีและประเมินว่า โครงการรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีผลขาดทุนทางบัญชี5.36แสนล้านบาท โครงการจำนำข้าว ใช้เงินซื้อข้าวเปลือก 878,000 ล้านบาท

สั่งสอน’ทนาย-รมต.รัฐบาล อิ๊งค์

นพ.วรงค์ย้ำว่าสิ่งที่ทนายและ รัฐมนตรี ที่ออกมาพูดว่า จะเอาข้าวที่เหลือไปขาย และมาใช้หนี้แทนยิ่งลักษณ์ พวกคุณต้องรู้ว่าโครงการจำนำข้าว ใช้เงินซื้อข้าวเปลือก 878,000ล้านบาท เงินพวกนี้เป็นเงินกู้และต้องใช้ภาษีประชาชนมาจ่าย ข้าวสารที่ขายได้ ต้องนำมาชดใช้เงินที่ลงทุนไปซื้อข้าวเปลือกนี้ ส่วนที่โกงจีทูจี ก็ต้องร่วมกันชดใช้กันเอง

“ผมไม่ทราบว่าทนายและรัฐมนตรีที่ออกมาพูดเพราะไม่รู้ หรือตั้งใจมั่ว ส่วนที่นายอนุสรณ์ออกมาตำหนิผมนั้น ผมคิดว่าคนนี้สุดมั่ว ไม่มีข้อมูล ชอบดำน้ำพูด ถ้าคิดว่าจำนำข้าว ได้ประโยชน์ต่อประเทศจริง ให้รัฐบาลอุ๊ง อิ๊งเริ่มทำได้เลย ไม่ใช่ปล่อยให้ราคาข้าวเปลือกตกต่ำขนาดนี้”นพ.วรงค์ ย้ำ

‘สมชาย’ฉะรบ.’ศรีธนญชัย’

นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา(อดีต สว.)โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่าฉลาดล้ำ หรือศรีธนนชัยทางกฎหมาย #กลเกมหักล้างคดีจำนำข้าว เห็นกลเกมคนวางแผนจะนำราคาซื้อข้าวเน่านอมินี กกละ 18บาท เป็นหลักฐานใหม่เพื่อฟื้นคดีจำนำข้าว รู้สึกได้ชัดว่า เพราะสังคมไทย มีศรีธนญชัยทางกฎหมายมากเกินไป ลองคิดดูครับเวลานี้ราคาข้าวเปลือกเจ้า:6,100-8,000บาท/ตัน เรียกได้ว่า ราคาข้าวตกต่ำหนักขนาดนี้ ชาวนายากแค้นสุดๆ รัฐบาลคิดไม่ออก ไม่มีปัญญาช่วยเหลือ!แต่กลับคิดสร้างภาพสร้างหลักฐานเท็จ หลอกลวงชาวนา หลอกลวงสังคมเรื่อยไป

นายสมชายระบุว่า จึงขอเสนอรัฐบาลให้ทีมงานสร้างภาพ ช่วยตามบริษัทนอมินีเดิมที่สร้างราคาเทียมวันก่อนช่วยออกแรงรัฐบาลอีกครั้งด้วยการเหมารับซื้อจากชาวนาทั้งประเทศในราคาสูงๆแบบวันประมูลกันเลยครับ ถ้าทำได้จริงจะทำให้ช่วยชาวนาไทยได้ราคาดีแบบเดิมนี้ จะถือได้เป็นการช่วยชาติของแท้ทรู เพราะขนาดข้าวเก่า10ปียังประมูลสู้ราคาตั้งกกละ18บาท แล้วข้าวใหม่หอมกรุ่นปีนี้หุงนุ่มสุดอร่อย บริษัทน่าจะสนใจรับซื้อแพงขึ้นสัก10 เท่านะครับ สาธุ ชาวนาไทยจะได้เป็นมหาเศรษฐีกันเสียที“ชาวนาไทยมีกินมีใช้มีเกียรติมีศักดิ์ศรีกันค่า”หมายเหตุ ข้าวเปลือกสีเป็นข้าวสารอัตรา2:1

ยกประกันรายได้ดีกว่าจำนำ

นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ยิ่งลักษณ์ จำนำข้าว vs. อภิสิทธิ์ ประกันรายได้” มีเนื้อหาดังนี้

จากคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ผมเห็นมีการตั้งคำถามเปรียบเทียบนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์กับนโยบายประกันรายได้ของคุณอภิสิทธิ์ ผมเลยขอลงข้อสรุปความต่างสองนโยบายนี้เพื่อคนรุ่นใหม่ที่อาจไม่ทราบ หรือคนรุ่นเก่าที่อาจจะลืม ส่วนใครที่ไม่อยากรับรู้ ขอให้ข้ามโพสต์นี้ไปเลยครับ

นโยบายประกันรายได้เกษตรกร** ของ **อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ** (รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์, 2551–2554) เป็นนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรที่แตกต่างจาก **นโยบายจำนำข้าว** ของยิ่งลักษณ์ โดยเน้นการอุดหนุนเงินตรงให้ชาวนาแทนการแทรกแซงราคาตลาด

รายละเอียดนโยบายประกันรายได้ของอภิสิทธิ์

1.แนวคิดหลัก ไม่รับซื้อผลผลิตโดยตรง แต่จ่ายเงินชดเชยส่วนต่างเมื่อราคาตลาดต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด, ครอบคลุมพืชหลายชนิด เช่น ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน, เกษตรกรต้องขึ้นทะเบียนและผ่านระบบตรวจสอบ

2. ข้อดีของนโยบาย ลดภาระการเก็บสต็อก รัฐไม่ต้องกักตุนสินค้าเหมือนโครงการจำนำข้าว,ลดการทุจริต ระบบโอนเงินตรงถึงเกษตรกรผ่านบัญชีธนาคาร ทำให้ตรวจสอบได้ง่าย ,ไม่บิดเบือนกลไกตลาดราคาขายยังเป็นไปตามอุปสงค์-อุปทาน

3. ข้อจำกัดเกษตรกรบางส่วนไม่ได้รับ ประโยชน์เฉพาะผู้ที่ขึ้นทะเบียนและมีเอกสารถูกต้อง ,งบประมาณสูงแต่ไม่สร้างมูลค่าเพิ่ม เป็นการช่วยเหลือระยะสั้น ไม่ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพผลผลิต

เปรียบเทียบกับนโยบายจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์

1. รูปแบบช่วยเหลือ: (อภิสิทธิ์) จ่ายเงินชดเชยส่วนต่างราคา(ยิ่งลักษณ์) รัฐรับซื้อข้าวในราคาแพง 2. ผลกระทบการคลัง: (อภิสิทธิ์) ใช้งบประมาณแต่ควบคุมได้ (ยิ่งลักษณ์) ขาดทุนมหาศาลจากสต็อกและทุจริต 3. ผลต่อตลาด: (อภิสิทธิ์) ไม่บิดเบือนกลไกราคา (ยิ่งลักษณ์) กดราคาตลาดโลก ทำไทยเสียส่วนแบ่ง 4. การทุจริต: (อภิสิทธิ์) มีน้อยกว่าเนื่องจากโอนเงินตรง (ยิ่งลักษณ์) มีการโกงจำนวนมาก

บทสรุป นโยบายประกันรายได้ของอภิสิทธิ์ถูกออกแบบมาเพื่อแก้จุดอ่อนของระบบประกันราคาแบบเดิม โดยลดความเสี่ยงการทุจริตและไม่สร้างภาระการเก็บสต็อกสินค้าให้รัฐ อย่างไรก็ตาม มันยังเป็นเพียง**มาตรการบรรเทาปัญหา**มากกว่าการปฏิรูปเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน

หลังรัฐประหาร 2557 รัฐบาลคสช. นำแนวคิดนี้มาปรับใช้ต่อในรูปแบบ “ประกันรายได้เกษตรกร” แทนโครงการจำนำข้าว ซึ่งได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า

อ่านเสร็จแล้วน่าจะมีบางคนไม่พอใจ ขอบอกว่า ทั้งหมดนี้ผมไม่ได้เขียนเองแม้แต่คำเดียว ผมเพียงกดตั้งประเด็นกับ Deep Seek ว่า “ยิ่งลักษณ์ จำนำข้าว อภิสิทธิ์ ประกันรายได้” หากไม่ถูกใจในประเด็นไหนขอให้ไปเถียงกับ AI เอง

‘เทพไท’มองปมศาลสั่ง‘ปู’ชดใช้

ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราชโพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง“เค้าลางความขัดแย้งรอบใหม่” ระบุว่า หลังจากศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องชดใช้ค่าเสียหายในโครงการจำนำข้าว จำนวนเงิน10,028ล้านบาท ทำให้เห็นการวิพากษ์วิจารณ์หรือการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเป็นเค้าลางให้เห็นถึงฝ่ายสนับสนุนระบอบทักษิณกับฝ่ายต่อต้านระบอบทักษิณเริ่มประทุขึ้นมาอีกแล้ว

ฝ่ายที่แสดงออกเห็นอกเห็นใจน.ส.ยิ่งลักษณ์มีเพจของพรรคเพื่อไทยโพสต์ว่า“ถูกปล้นความยุติธรรม ครั้งแล้วครั้งเล่า“สส.พรรคเพื่อไทยหรือคนใกล้ชิดน.ส.ยิ่งลักษณ์โพสต์ผ่านสื่อโซเชียลเช่นน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หรือแกนนำส.ส.ของพรรคเพื่อไทยหลายคน แสดงจุดยืนว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้รับความเป็นธรรม รวมไปถึงบรรดานายแบก นางแบกหลายคนก็ออกมาแก้ต่างให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าเป็นกระทำเป็นการกระทำที่ไม่ยุติธรรม และจะนำไปสู่บรรทัดฐานทางการเมืองในอนาคต รัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรีคนต่อไป คงไม่มีใครกล้าสร้างนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเพราะสุ่มเสี่ยงที่จะมีความผิด เช่นเดียวกับการแสดงออกของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ผ่าน Facebook ส่วนตัวด้วย

ซีกป้อง‘ปู’ไม่เห็นด้วยสั่งชดใช้

นายเทพไทกล่าวว่าคนการเมืองที่เป็นพรรคฝ่ายค้านอยู่ในขณะนี้ ก็แสดงความเห็นใจน.ส.ยิ่งลักษณ์มากกว่าพรรคร่วมรัฐบาลด้วยซ้ำไป นั่นก็คือน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชนบอกว่ากรณีที่ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาเช่นนี้ ต้องถามว่าเส้นแบ่งความประมาทเลินเล่อของการจำนำข้าว แค่ไหนที่เรียกว่าประมาทและจะมีผลกระทบต่อนักการเมืองซึ่งไม่กล้าทำโครงการใหม่ๆรวมถึงการโพสต์Facebook ของอาจารย์ปิยะบุตร แสงกนกกุล ที่ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ได้วิจารณ์เป็นข้อๆบอกว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ควรชดใช้ถึงหมื่นล้าน เปรียบเทียบว่านายกรัฐมนตีที่มาจากการเลือกตั้ง ต้องชดใช้ค่าเสียหาย มีความผิด แต่นายกรัฐมนตรีที่มาจากรัฐประหาร รอดทุกคดีไม่ต้องรับผิดชอบทางการเมือง

“แม้แต่นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีตั้งคำถามว่า ถ้ากรณีโครงการรับจำนำข้าวเป็นความผิดของคนเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ยกตัวอย่างโครงการซื้อเรือดำน้ำที่มีปัญหา เรือซื้อของประเทศจีน เครื่องยนต์ซื้อของเยอรมัน กำลังเป็นปัญหาสร้างความเสียหาย อย่างนี้นายกรัฐมนตรีในยุคนั้น จะรับผิดชอบ หรือมีความผิดด้วยหรือไม่”

เค้าลางความขัดแย้งรอบใหม่ปะทุ

นายเทพไทกล่าวอีกว่านอกจากนี้ยังมีนักวิชาการเสนอความเห็นให้กระทรวงพาณิชย์ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของพรรคเพื่อไทย ทำไมไม่รื้อฟื้นหาหลักฐานการนำข้าวดีไปขายในราคาข้าวเสียของรัฐบาลคสช.ทำให้โครงการรับจำนำข้าวว่าเสียหายขาดทุนซึ่งสามารถเอาผิดรัฐบาลได้ ส่วนความเห็นของนักเคลื่อนไหวที่เห็นต่างกับฝ่ายนายทักษิณซึ่งเป็นขาประจำเป็นคนหน้าเดิมต่างก็ยืนยันว่า คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ตัดสินคดีได้ถูกต้องเป็นธรรม พร้อมด้วยอธิบายเหตุผลตอบโต้กองเชียร์น.ส.ยิ่งลักษณ์ในทุกประเด็น

“ซึ่งทั้งหมดนี้เห็นว่าเป็นปรากฏเค้าลางความขัดแย้งของผู้ที่สนับสนุนระบอบทักษิณกับฝ่ายที่ต่อต้านระบอบทักษิณจะปรากฏชัดเจนขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงวันที่13มิถุนายน 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทาการเมือง นัดไต่สวนคดีชั้น 14 ของนายทักษิณ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ความคิดเห็นของฝ่ายคุณทักษิณ กับฝ่ายที่ไม่เอาคุณทักษิณก็จะชัดขึ้นเรื่อยๆ นี่คือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากดีลการเมืองระหว่างฝ่ายอนุรักษ์นิยมกับนายทักษิณ กำลังเลือนลาง จืดจางไปหรือกำลังจะเป็นดีลล่มอยู่ในขณะนี้”นายเทพไทย้ำทิ้งท้าย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘เพื่อไทย’พร้อมถกงบ69 เปิดสมัยวิสามัญ เริ่มที่‘พ.ร.ก.แก้คอลเซ็นเตอร์ ต่อด้วย‘ตั๋วร่วม 20 บาท’ ‘เพื่อไทย’พร้อมถกงบ69 เปิดสมัยวิสามัญ เริ่มที่‘พ.ร.ก.แก้คอลเซ็นเตอร์ ต่อด้วย‘ตั๋วร่วม 20 บาท’
  • ‘เพื่อไทย’สงสาร‘ยิ่งลักษณ์’ เห็นช่องขายข้าว 18.9 ล้านตัน เป็นหลักฐานใหม่สู้ต่อ ‘เพื่อไทย’สงสาร‘ยิ่งลักษณ์’ เห็นช่องขายข้าว 18.9 ล้านตัน เป็นหลักฐานใหม่สู้ต่อ
  • เปิดสัญญาจีทูจี! ‘หมอวรงค์’เบิกเนตร‘ยิ่งลักษณ์กับปชช.’ ใครกันแน่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เปิดสัญญาจีทูจี! ‘หมอวรงค์’เบิกเนตร‘ยิ่งลักษณ์กับปชช.’ ใครกันแน่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
  • ‘เทพไท’จี้‘เพื่อไทย’หยุดอ้าง‘รัฐประหาร’เล่นงาน ชี้จบไปแล้วตั้งแต่‘ตระบัดสัตย์’ข้ามขั้ว ‘เทพไท’จี้‘เพื่อไทย’หยุดอ้าง‘รัฐประหาร’เล่นงาน ชี้จบไปแล้วตั้งแต่‘ตระบัดสัตย์’ข้ามขั้ว
  • โวศึก‘แดง-น้ำเงิน’ ไม่กระทบผลโหวตงบ’69 พท.ดักคอปชน.อย่าป่วน โวศึก‘แดง-น้ำเงิน’ ไม่กระทบผลโหวตงบ’69 พท.ดักคอปชน.อย่าป่วน
  • ทัวร์นอกระรื่น ‘อุ๊งอิ๊งค์’ลุยต่อ เยือนมาเลเซีย ถกผู้นำอาเซียน ทัวร์นอกระรื่น ‘อุ๊งอิ๊งค์’ลุยต่อ เยือนมาเลเซีย ถกผู้นำอาเซียน
  •  

Breaking News

ช่วยชาวบ้านลดเหลื่อมล้ำ! ‘มท.’ลุยออกโฉนดที่ดิน8.6หมื่นแปลง69จังหวัด

น้ำตาร่วง! ผู้พันจัดเซอร์ไพรส์รับยายเยี่ยมทหารใหม่ แก้ปัญหาค่าเดินทาง

เร่งฟื้นฟู 4 ชุมชน‘แม่สาย’ อุดรอยรั่วป้องกันน้ำท่วมซ้ำ ‘ผู้ว่าฯ’สั่งตั้งศูนย์เตือนภัย 24 ชม.

ว้าวุ่น!‘จีนพัทยา’แห่ถอนเงินจากธนาคารหลังถูกอายัดบัตร เหตุถอนเกินวันละ 5 หมื่นบาท

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved