‘มาริษ’เผยวงถก‘รมต.ต่างประเทศอาเซียน’เชื่อมั่นเห็นทางออกปัญหา‘เมียนมา’ พร้อมขอบคุณไทยสนับสนุนบทบาท‘ประธานอาเซียน’พูดคุยกับฝ่ายต่างๆ เผยกลุ่มประเทศอาหรับพร้อมจับมืออาเซียนพัฒนาพลังงานทางเลือก
26 พฤษภาคม 2568 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเข้าร่วมประชุม ASEAN Summit ครั้งที่ 46 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เปิดเผยผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ว่า ที่ประชุมฯ ได้ชื่นชมและขอบคุณไทยที่ได้สนับสนุนมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แสดงบทบาทสำคัญเรื่องการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมาภายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว และสนับสนุนข้อเสนอจัดตั้งกลไกประสานความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเมียนมา ระหว่างทางการเมียนมา อาเซียน และองค์การระหว่างประเทศ ตามที่ไทยผลักดัน โดยให้ AHA Centre เป็นจุดประสานงานหลัก เพื่อระดมการสนับสนุนการฟื้นฟูประเทศเมียนมาอย่างมีประสิทธิภาพและรักษาเวทีพูดคุยที่สร้างสรรค์ระหว่างเมียนมากับอาเซียน ซึ่งแสดงให้เห็นบทบาทนำของอาเซียน ในการแก้ไขวิกฤตด้านมนุษยธรรมในเมียนมา และทำให้เกิดพัฒนาการสำคัญในทางที่ดี โดยหลายประเทศเชื่อมั่นว่า เริ่มมีทางออกที่จะนำไปสู่การเจรจาพูดคุยอย่างสร้างสรรค์ และแก้ปัญหาของเมียนมาได้ในอนาคต
นายมาริษ ยังย้ำว่า สิ่งที่ประเทศไทยได้ริเริ่มเกี่ยวกับการพูดคุยอย่างสร้างสรรค์กับเมียนมา โดยเฉพาะการผลักดันให้เกิดการพูดคุยระหว่างเมียนมาและประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว รวมถึงความพยายามให้เกิดการพูดคุยระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเมียนมา จนขณะนี้อาเซียนก็เห็นร่วมกันว่า การแก้ไขปัญหาเมียนมาต้องการการเปิดกว้างสำหรับการพูดคุยอย่างสร้างสรรค์กับทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดความร่วมมือ
นายมาริษ ระบุอีกว่า ประเทศไทยยังพยายามขับเคลื่อนให้เปลี่ยนความเห็นที่แตกต่าง ไปสู่กิจกรรมที่เป็นความร่วมมือระหว่างกันของทุกๆ ภาคส่วน โดยริเริ่มการเจรจาพูดคุย 3 ฝ่ายระหว่างไทย เมียนมา และอินเดีย และการพูดคุย 4 ฝ่ายระหว่างไทย เมียนมา จีน และลาว รวมถึงล่าสุดไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการหารือ 6 ฝ่ายระหว่างเมียนมากับประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยเน้นการแก้ปัญหาความมั่นคงชายแดน ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติโดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติด ค้ามนุษย์ และการพัฒนาเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงในภูมิภาค
นอกจากนี้ ยังได้ผลักดันด้านการบริหารจัดการน้ำภายใต้กรอบของภูมิภาคลุ่มน้ำโขงด้วย ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นข้อริเริ่มที่ไทยเสนอเพื่อดึงให้ฝ่ายต่างๆ ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบรุนแรงแก่ประชาชนร่วมกัน ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาเมียนมาอย่างสร้างสรรค์ในท้ายที่สุด
ส่วนในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนกับคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) นั้น นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้มีการหารือกันอย่างกว้างขวางถึงสาขาที่อาเซียน และ GCC มีศักยภาพร่วมกันขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกัน เช่น การค้าและการลงทุน เนื่องจาก GCC เป็นกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพในเรื่องเงินทุน มีกองทุนจำนวนมากในแต่ละประเทศ และมีความพยายามที่จะดึงดูดการลงทุนจากกลุ่มประเทศ GCC เข้ามายังอาเซียน และมีหลายประเทศ กล่าวถึงความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่าง 2 กลุ่มประเทศ เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกัน พร้อมยังมีการเสนอความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหาร และพลังงาน ซึ่งกลุ่มประเทศ GCC พร้อมร่วมมือกับอาเซียนพัฒนาพลังงานทางเลือก เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานในอนาคต
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี