วันพุธ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ราชกิจจาฯ เผยข้อบังคับใหม่'ปล่อยตัวชั่วคราว' ไม่ต้องวางหลักประกันในบางกรณี

ราชกิจจาฯ เผยข้อบังคับใหม่'ปล่อยตัวชั่วคราว' ไม่ต้องวางหลักประกันในบางกรณี

วันจันทร์ ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 14.36 น.
Tag : วางหลักประกัน ปล่อยตัวชั่วคราว ข้อบังคับใหม่
  •  

วันที่ 26 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการปล่อยชั่วคราวและวิธีเรียกประกันในคดีอาญา (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ระบุว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการปล่อยชั่วคราวและวิธีเรียกประกันในคดีอาญา พ.ศ.2565

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 40 วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ประธานศาลฎีกาจึงออกข้อบังคับไว้ ดังต่อไปนี้


ข้อ 1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการปล่อยชั่วคราวและวิธีเรียกประกันในคดีอาญา (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568”

ข้อ 2 ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในข้อ 6 แห่งข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการปล่อยชั่วคราวและวิธีเรียกประกันในคดีอาญา พ.ศ.2565 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“ข้อ 6 ศาลอาจให้พนักงานคุมประพฤติเก็บข้อมูลหรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุและพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือพฤติการณ์อื่นที่บุคคลลักษณะ นิสัย สภาพร่างกายและจิตใจ การศึกษา การประกอบอาชีพงาน ประวัติการกระทำความผิดอาญา สภาพและฐานะของครอบครัว ความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นในสังคม หรือข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องของผู้ต้องหาหรือจำเลยแล้วจัดทำรายงานหรือความเห็น หรือประเมินความเสี่ยงเพื่อประกอบการพิจารณาสั่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราวด้วยก็ได้

ในคดีที่มีผู้ต้องหาหรือจำเลยหลายคน การดำเนินการตามวรรคหนึ่ง และการสั่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ให้พิจารณาเป็นรายบุคคล”

ข้อ 4 ให้ยกเลิกความในข้อ 7 แห่งข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการปล่อยชั่วคราวและวิธีเรียกประกันในคดีอาญา พ.ศ.2565 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“ข้อ 7 ในการสั่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราวและการกำหนดผู้ต้องหาหรือจำเลยให้พิจารณาและดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108 และมาตรา 108/1”

ข้อ 5 ให้ยกเลิกความในข้อ 9 แห่งข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการปล่อยชั่วคราวและวิธีเรียกประกันในคดีอาญา พ.ศ. 2565 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“ข้อ 9 เงื่อนไขที่อาจกำหนดให้ผู้ถูกปล่อยชั่วคราวปฏิบัติตามข้อ 8 (1) เช่น

(1) ให้มาศาลตามกำหนดนัด
(2) ห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
(3) ห้ามเดินทางออกนอกประเทศหรือออกนอกพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง
(4) ห้ามพบหรือเข้าใกล้ผู้เสียหาย ผู้เกี่ยวข้องกับผู้เสียหายหรือบุคคลที่ศาลกำหนด
(5) ห้ามออกจากที่อยู่อาศัย
(6) การเปลี่ยนที่อยู่หรือที่อยู่ตามคำสั่งแจ้งให้ศาลทราบ
(7) ห้ามเข้าไปในสถานที่บางแห่ง
(8) ห้ามคบหาสมาคมกับบุคคลบางประเภท
(9) ให้รายงานตัวต่อผู้นำกับดูแลเจ้าพนักงานหรือบุคคลที่ศาลกำหนด
(10) ให้เข้ารับคำปรึกษาหรือบำบัดรักษาความบกพร่องทางร่างกายหรือจิตใจ
(11) ให้เข้ารับการตรวจร่างกายเพื่อหาสารเสพติด
(12) ห้ามทำกิจกรรมหรือประกอบอาชีพบางอย่าง
(13) ห้ามพกพาอาวุธปืน
(14) ห้ามกระทำการอย่างใด เพื่อป้องกันความเสียหายอันมีลักษณะอย่างเดียวกันที่ถูกฟ้องร้อง”

ข้อ 6 ให้เพิ่มความต่อไปนี้ การปล่อยตัวกรณีมีเหตุพิเศษและการเปลี่ยนแปลงการกำกับดูแลหรือการเรียกประกัน ข้อ 9/1 ข้อ 9/2 และข้อ 9/3 แห่งข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการปล่อยชั่วคราวและวิธีเรียกประกันในคดีอาญา พ.ศ.2565

“การปล่อยตัวกรณีมีเหตุพิเศษและการเปลี่ยนแปลงการกำกับดูแลหรือการเรียกประกัน

ข้อ 9/1 ถ้าความปรากฏแก่ศาลว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยนั้นมีอายุไม่ถึงสิบแปดปีหรือเป็นหญิงมีครรภ์หรือเพิ่งคลอดบุตรมาไม่ถึงสามเดือน หรือเจ็บป่วยซึ่งต้องจะถึงอันตรายแก่ชีวิต หรือปรากฏเหตุอื่นซึ่งทำให้ความเสี่ยงในการหลบหนี ภัยอันตราย หรือความเสียหายที่จะเกิดจากการปล่อยชั่วคราวอันหมดไปศาลจะออกหมายปล่อยผู้ต้องหาหรือจำเลยซึ่งถูกขังอยู่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 71 วรรคสาม ประกอบมาตรา 75 ก็ได้

ข้อ 9/2 ถ้าความปรากฏภายหลังว่า การกำกับดูแลและมาตรการกำกับดูแลที่กำหนดไว้ไม่เพียงพอหรือไม่เหมาะสม ศาลอาจมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือวิธีการกำกับดูแลที่เข้มงวดเพิ่มขึ้น หรือลดลง เปลี่ยนสัญญาประกัน หรือหลักประกัน เพิ่มหรือลดหลักประกัน ให้เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีได้ตามที่เห็นสมควร หรืออาจสั่งเปลี่ยนแปลนการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลยอาศัยหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108/1 ก็ได้

กรณีที่ศาลฎีกาสั่งปล่อยชั่วคราวโดยกำหนดเงื่อนไขและวิธีการกำกับดูแลผู้ต้องหาหรือจำเลย ศาลสูงอาจมอบหมายให้ศาลชั้นต้นพิจารณาเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือวิธีการกำกับดูแลที่เข้มงวดเพิ่มขึ้น หรือลดลง เปลี่ยนสัญญาประกันหรือหลักประกัน เพิ่มหรือลดหลักประกันให้เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีได้ตามที่เห็นสมควร หรืออาจสั่งเปลี่ยนแปลงการปล่อยชั่วคราวตามวรรคหนึ่ง โดยไม่ต้องส่งให้ศาลสูงพิจารณาสั่งได้

ข้อ 7/3 กรณีที่มีการอนุมัติสัญญาประกันหรือถอนหลักประกัน หรือผู้ต้องหาหรือจำเลยขอยกเลิกการปล่อยชั่วคราว โดยไม่ปรากฏพฤติการณ์ผู้ต้องหาหรือจำเลยนั้นจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ศาลมีอำนาจปล่อยชั่วคราวต่อไปได้

โดยนำพฤติการณ์ของผู้ต้องหาหรือจำเลยในระหว่างที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวมาประกอบการพิจารณากำหนดเงื่อนไขหรือมาตรการกำกับดูแลที่เหมาะสมแทนการทำสัญญาประกันหรือวางหลักประกันก็ได้”

ข้อ 7 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสองของข้อ 14 แห่งข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการปล่อยชั่วคราวและวิธีเรียกประกันในคดีอาญา พ.ศ. 2565

“กรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ปล่อยชั่วคราวภายใต้มาตรการกำกับดูแล แต่มีเหตุขัดข้องไม่อาจใช้มาตรการกำกับดูแลดังกล่าวได้เป็นการชั่วคราว ศาลพึงปล่อยชั่วคราวโดยใช้มาตรการกำกับดูแลอื่นไปพลางก่อนกว่าจะสามารถดำเนินการตามคำสั่งศาลได้”

ข้อ 8 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของข้อ 15 แห่งข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการปล่อยชั่วคราวและวิธีเรียกประกันในคดีอาญา พ.ศ. 2565 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“ในกรณีผู้ต้องหาหรือจำเลยเป็นผู้ซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศขอปล่อยชั่วคราว ให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวต่อเมื่อผู้ต้องหาหรือจำเลยยินยอมส่งมอบหนังสือเดินทางไว้ต่อศาลด้วย และให้ศาลมีคำสั่งห้ามผู้ต้องหาหรือจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ศาลเห็นสมควรเป็นอย่างอื่น”

ข้อ 9 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 19/1 แห่งข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการปล่อยชั่วคราวและวิธีเรียกประกันในคดีอาญา พ.ศ.2565

“ข้อ 19/1 ในกรณีที่จำเลยซึ่งศาลพิพากษาต้องแก้คืนหรือจำเลยระหว่างอุทธรณ์หรือฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 253 วรรคหนึ่ง หากมีความจำเป็นต้องมีประกันในการปล่อยชั่วคราว อาจกำหนดวงเงินประกันต่ำกว่าบัญชีมาตรฐานวงเงินประกันสำหรับการปล่อยชั่วคราวจำเลยตามที่ศาลเห็นสมควรและจะไม่มีหลักประกันก็ได้”

ประกาศ ณ วันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2568 ชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกา

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

“บิ๊กโอ ก้องเกียรติ”สส.คนที่ 26 พรรคกล้าธรรม รายงานตัว-ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่แล้ว

เปิดสาเหตุ‘ทหารไทย-เขมร’ปะทะสนั่น‘ช่องบก’

'วุฒิชาติ'ยันวิปวุฒิ​ไม่ได้ลักไก่ ตั้งกมธ.ตรวจประวัติกกต.-ศาลรธน.โยนดูกฎหมายทำได้หรือไม่ถอดวาระเลือกองค์กรอิสระ

‘หมอวรงค์’ฟันธง‘สมศักดิ์’วีโต้ กังขา‘สทร.’มุ่งทำลายความน่าเชื่อถือ‘แพทยสภา’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved