ทีม"รมว.สาธารณสุข"นัดสรุปความเห็นส่งสภานายกพิเศษ 27 พ.ค.นี้ แง้มบางเรื่องเห็นต่างแพทยสภา-ควรใส่ข้อกฎหมายเพิ่ม ขณะที่บางเรื่องควรเฆี่ยนซ้ำ แต่บางเรื่องแค่ดีดมะกอกยังไม่ได้
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) การประชุมคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษ เพื่อพิจารณามติของแพทยสภา ที่มีการลงโทษแพทย์ 3 คน ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวและรักษา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยเริ่มประชุมตั้งแต่เวลา 14.00 น.โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 8 คน เนื่องจากผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุม 2 คน คือ นายชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการ และนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ กรรมการ หลังจากประชุมซึ่งใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการฯ ก็มีการออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ขณะที่ นายชัยนันท์ งามขจรกุลกิจ ประธานคณะกรรมการ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ร่วม โดยระบุว่าติดธุระ
นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า หลังมีการพิจารณาวันนี้สรุปว่า กรรมการแต่ละคนจะทำความเห็นต่อแพทย์ที่ถูกร้องเรียนทั้ง 4 คน (รวมแพทย์ 1 คนที่ถูกยกคำร้อง) แยกเป็นรายคน ซึ่งกรรมการจะกลับไปแก้เอกสารให้ความเห็นหลังจากพูดคุยกันวันนี้จนเกิดความเข้าใจแล้ว และนัดคุยกันนัดสุดท้ายในวันที่ 27 พ.ค.นี้ เวลา 14.00 น.เพื่อส่งให้กับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ พิจารณาและตัดสินใจว่าจะวีโต้มติของแพทยสภา หรือไม่ อย่างไร ซึ่งตรงนี้ไม่มีใครไปชี้นำได้ และนายสมศักดิ์ ก็มีเวลาราวๆ 2 - 3 วัน ในการดูเรื่องนี้ก็จะครบ 15 วันที่ต้องส่งกลับแพทยสภา จึงไม่มีเรื่องของการยื้อเวลาอะไรทั้งนั้น
เมื่อถามว่า ทิศทางหลังการพิจารณาของกรรมการเป็นไปในทิศทางไหน นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า แต่ละคนก็มีความเห็นแตกต่างกัน บางอย่างคล้ายกับความเห็นของแพทยสภา บางอย่างเห็นคล้ายกันแต่ควรปรับเปลี่ยนบางเรื่องก็มี หรือบางเรื่องก็จะชี้ให้แพทยสภาเห็นว่า ควรมีการเอากฎหมายบางอย่างเข้าไปเพิ่ม แต่การตัดสินว่าจะไปทางไหน คือนายสมศักดิ์ และทุกวันนี้นายสมศักดิ์ก็ไม่ได้มาสอบถามอะไร
นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า ส่วนที่แพทยสภาบอกว่า ส่งเอกสารมาครบทั้งหมดแล้ว แต่เราตรวจสอบแล้ว เห็นว่าที่ขอไปนั้น เป็นเอกสารสำคัญ แต่ไม่เป็นไร ไม่ส่งมาเราก็ยังพิจารณาได้ อย่างไรก็ตาม ท่านควรคิดว่า เมื่อมีการตั้งกรรมการมา 1 ชุด ขอเอกสารไปท่านก็น่าจะส่งมา แน่นอนว่าเอกสารนั้นมีผลเกี่ยวกับการลงโทษ ส่วนเรื่องวิกฤติหรือไม่วิกฤตไม่ได้อยู่ในเนื้อหา เอกสารของแพทยสภาไม่มีคำว่าวิกฤต
เมื่อถามว่า เอกสารที่แพทยสภาไม่ได้ให้เป็นเหตุผลสำคัญที่จะทำให้พิจารณาหรือไม่ นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า มันเปรียบเสมือนว่ามี 10 ขั้นตอน เมื่อข้าวโพดหายไปเม็ดหนึ่ง ทั้งที่ควรมีให้ครบ จึงขอไป อย่างไรก็ตาม จากที่ดูแพทยสภา ทำครบ 7 ขั้นตอนในการพิจารณาเรื่องจริยธรรม เพียงแต่เราเห็นว่ามีเอกสารบางส่วนหายไป เมื่อบอกว่าให้มาครบแล้ว เมื่อท่านยืนยันว่าให้มาครบแล้วก็ไม่เป็นไร เราไปโต้แย้งไม่ได้ แต่วันนี้เรายังคุยกันประเด็นนี้ และดูข้อกฎหมาย ซึ่งมีประเด็นนี้อยู่ว่า ท่านตั้งกรรมการชุดของท่าน ท่านก็ควรมีรายงานของท่านเช่นกัน แล้วนี่เป็นเอกสารสำคัญในการลงมติด้วย รวมถึงรายชื่ออนุกรรมการกลั่นกรองด้วย
เมื่อถามว่า กรรมการชุดนี้พิจารณาจากเอกสารชุดเดียวกันกับแพทยสภา แต่กรรมการชุดนี้มีความเห็นต่างกัน ซึ่งความเห็นที่ต่างกันนั้น มองว่าไม่ควรลงโทษแพทย์ หรือลงโทษไม่สมควรผิด หรือลงโทษหนักไป นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า เรื่องนี้อย่างที่บอก เราเป็นคนให้ความเห็น บางเรื่องก็อาจจะต้องโดนเฆี่ยนแรงๆ ก็ได้ เฆี่ยนหนักอีกหน่อยก็ได้ แต่บางเรื่องแค่ดีดมะกอกยังไม่ได้เลย แต่สุดท้ายอยู่ที่นายสมศักดิ์ เพราะกฎหมายไม่ได้อนุญาตให้กรรมการไปทำความเห็นว่าอย่างไร หรือไปโหวตไม่ได้ แค่แต่ละคนคิดอย่างไรแล้วส่งให้นายสมศักดิ์ ไปตัดสิน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี