นายกฯเรียกผบ.ตร.
แจงเหตุฮ.ตำรวจตก
เพจดังแฉนักบินโอด
เครื่องแทบบินไม่ได้
นายกฯ เรียก ผบ.ตร.รายงานเหตุ ฮ.ตก ด้าน “บิ๊กต่าย’”สั่งกองบินตำรวจ เร่งสำรวจอากาศยานทุกลำ ยันให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยนักบิน สอบเข้มหากพบทุจริต ไม่ละเว้น ชี้ขอ ฮ.ใหม่ อยู่ในแผน แต่ต้องดูความจำเป็น-งบประมาณ ขณะที่เพจดัง แฉ นักบินที่ตาย ตัดพ้อกับเพื่อน เครื่องไม่พร้อม แทบบินไม่ได้
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้ารายงานความคืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ตำรวจ รุ่นเบลล์ 212 ประสบเหตุตก ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา จนนักบินและผู้ช่วยฯ เสียชีวิต 3 นาย โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวภายหลังรายงานต่อนายกฯ ว่า นายกฯ มีความเป็นห่วงต่อเหตุการณ์ดังกล่าว จึงให้ตนและทีมงานกองบินตำรวจ เข้ามารายงานข้อมูล และแจ้งว่าหากต้องการอะไรอย่างไรขอให้มีการพิจารณาแล้วเสนอขึ้นมา
เมื่อถามว่ามีการเปิดเผยว่าเฮลิคอปเตอร์ไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมบิน รวมทั้งมีการเปิดเผยข้อมูล ว่ามีข้อความจากนักบินในเรื่องที่เฮลิคอปเตอร์ ไม่พร้อม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ทางผู้บริหารในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เราตระหนักถึงสิ่งจำเป็นอันแรกคือความปลอดภัยของนักบิน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเราสูญเสียอย่างมาก เราคำนึงถึงความปลอดภัยของนักบินเป็นหลัก การแสดงความคิดเห็นที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่สามารถพูดได้ แต่สิ่งต่างๆ ย่อมต้องมีการตรวจสอบ ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่ามีใครพฤติมิชอบ ทำผิด สิ่งนั้นจะต้องถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาด
ต่อข้อถามว่าในฐานะผู้บังคับบัญชา มองอย่างไรกับข้อความที่ว่าเฮลิคอปเตอร์ไม่พร้อมบิน แต่ต้องบิน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เราไม่ปฏิเสธการแสดงความเห็นหรือรับฟัง ตนได้เอาความเห็นดังกล่าวส่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ เพื่อเป็นประเด็นตรวจสอบเราไม่ละเลยในทุกความเห็น เมื่อถามอีกว่า จะมีการขอเฮลิคอปเตอร์ลำใหม่ หรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า การขออากาศยานใหม่อยู่ในแผนการบริหารงาน เรามีความอยากได้อย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูภารกิจ ความจำเป็น และงบประมาณในสิ่งที่เราจะได้ และแนวคิดเรื่องการบริหารงานจากนี้ตนคิดถึง 10 ปีข้างหน้า โดยเอาเรื่องภารกิจและความจำเป็นกับอากาศยานที่มีอยู่ มารวมกัน เพื่อดูว่าเราต้องการเท่าไหร่ อย่างไร
เมื่อถามว่าเพจ CSILA เปิดเผยว่า เฮลิคอปเตอร์มีอยู่ 69 ลำ สามารถใช้จริงได้แค่ 9 ลำ ขณะที่การซ่อมบำรุงไม่เป็นตามมาตรฐาน มีการทุจริต พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ทุกคนมีข้อมูลแต่เราต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้บริหารกองบินด้วย ว่าจริงๆ แล้ว มีเท่าไหร่ ใช่ได้เท่าไหร่ ใช่ไม่ได้เพราะอะไร และที่ใช้อยู่ หรืออยู่ระหว่างรอซ่อม เป็นการซ่อมตามวงรอบ ไม่ใช่ถึงรอบชั่วโมงบินที่กำหนดแล้วไม่ซ่อม ไม่ดู อย่างนี้ถือว่าละเลยหรือไม่ อันนี้น่าดูมากกว่า
ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ถ้ามีการซ่อมเป็นปกติ ก็ต้องไปดูว่าซ่อมตามวงรอบหรือไม่ ส่วนจะเกิดกรณีการทุจริตเหมือนที่ถามหรือไม่ ต้องขึ้นกับการตรวจสอบ และย้ำว่าถ้าตรวจสอบแล้วมีการเบียดบัง ทุจริตอะไรก็ตาม เราดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพราะนี่คือชีวิตมนุษย์ ชีวิตของนักบิน และชีวิตของผู้ร่วมปฏิบัติหน้าที่ เราจำเป็นต้องให้ปลอดภัยที่สุด ซึ่งนายกฯ ได้กำชับการตรวจสอบเรื่องนี้ ว่าให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของชีวิตคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เพจ CSILA ได้ระบุถึงกรณีหนึ่งในนักบินที่ชื่อ ‘สารวัตรจ๊อบ’ ได้คุยแชทกับเพื่อน ในเชิงตัดพ้อก่อนบิน ว่า “เครื่องไม่พร้อมบิน ไม่อยากให้ใครรู้จริงๆ เครื่องเราแทบบินไม่ได้” นอกจากนี้ ยังโพสต์ระบุอีกว่า ฮ.ตำรวจ ตก ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่คือผลพวงการทุจริต ข้อมูลวงในเผยว่า เครื่องเคยค้างพื้นมาตั้งแต่ปลายปี 2566 เพราะระบบไฮดรอลิก มีปัญหา แต่ไม่ได้รับการซ่อมบำรุงอย่างจริงจัง จนสุดท้าย นักบินต้องทิ้งตัวฉุกเฉิน เครื่องเสียหายยับ
วันเดียวกัน นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์กองบินตำรวจ ตกที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า เคยอธิบายไปแล้วเมื่อปี 2565 ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นในกองบินตำรวจ ย้อนไปตั้งแต่ ผบก.ท่านหนึ่ง มีการนำอะไหล่ดีและไม่ดี มารวมกัน พร้อมนำไปขายทิ้ง ทำให้เฮลิคอปเตอร์จำนวนมากของกองบินตำรวจ ไม่สามารถใช้งานได้
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังพบว่านำอะไหล่ไปขายในราคาถูก และมีการนำเงินไปซื้ออะไหล่ที่ไม่จำเป็น อีกทั้งเมื่อดูในรายละเอียด พบว่ามีความน่าสงสัยสูง เช่น การซื้อตาข่ายกันนกในราคา 30 ล้านบาท ทั้งที่ราคาในตลาดทั่วไปหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทเท่านั้น และมีข้อบ่งชี้ว่ามีการทุจริตอย่างกว้างขวาง ที่ผ่านมาเคยส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือ ป.ป.ช.เพื่อดำเนินการเอาผิดแล้ว โดยผู้ที่เกี่ยวข้องในเวลานั้นเป็นอดีต ผบก.ก็เป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเรื่องนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าขณะนี้เกษียณไปแล้วหรือไม่
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า มีหนังสือตอบกลับจาก ป.ป.ช.ว่าเรื่องนี้ไม่มีมูล ซึ่งความหมายคือไม่พบการทุจริตเกิดขึ้นในกองบินตำรวจ ดังนั้นหากเป็นแบบนี้ “ฝีก็เริ่มแตก” เพราะการที่เฮลิคอปเตอร์ตก และก่อนหน้านี้มีอุบัติเหตุในลักษณะคล้ายกัน สะท้อนให้เห็นว่าการบำรุงรักษาอากาศยานและเฮลิคอปเตอร์ ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ตนทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ใช้ในกองบินตำรวจมีอายุการใช้งานมากแต่จะเป็นข้ออ้างไม่ได้ เป็นคนละเรื่องกัน จึงควรเร่งดำเนินการเรื่องนี้เพื่อนักบินจะไม่ต้องเสียชีวิต และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำได้ ส่วน กมธ.จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงหรือไม่ อยู่ระหว่างพิจารณา เพราะ กมธ.ก็มีเรื่องพิจารณาค่อนข้างมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี