วันศุกร์ ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ลึกแต่ไม่ลับ! 'กก.แพทยสภา'แจง'จริยธรรมแพทย์' ตัดสินตามข้อเท็จจริง-ไม่สนธงในใจ

ลึกแต่ไม่ลับ! 'กก.แพทยสภา'แจง'จริยธรรมแพทย์' ตัดสินตามข้อเท็จจริง-ไม่สนธงในใจ

วันพฤหัสบดี ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 17.26 น.
Tag : หมอเมธี ทักษิณ ทักษิณชั้น14 โรงพยาบาลราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ การเมืองวันนี้ จริยธรรมแพทย์ แนวหน้าออนไลน์ กรรมการแพทยสภา แพทยสภา
  •  

"หมอเมธี"แจงกฎหมาย"จริยธรรมแพทย์"เชิงลึกแต่ไม่ลับ ตัดสินตามข้อเท็จจริงทางการแพทย์-ไม่สนธงในใจ พร้อมระบุขั้นตอน"อนุทุกคณะ"เหมือนที่ปรึกษา ที่ให้ความเห็นสุดท้าย ก่อนบอร์ดใหญ่เป็นผู้ตัดสิน

จากกรณีที่ นายสมศักดิ์ เทพุสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ได้ทำหนังสือวีโต้มติแพทยสภาที่ลงโทษแพทย์ 3 คน ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จาก รพ.ราชทัณฑ์ ไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ โดยนายสมศักดิ์ได้ส่งหนังสือวีโต้ถึงมือแพทยสภา ไปแล้วเมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนี้ทางแพทยสภาต้องนำเรื่องดังกล่าวส่งเข้าที่ประชุมกรรมการแพทยสภา (บอร์ดแพทยสภา) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.68 นั้น


วันนี้ (29 พ.ค.68) รศ.(พิเศษ) นพ.เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ กรรมการแพทยสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ก ระบุว่า “ลึกแต่ไม่ลับ (2) พร้อมลงรายละเอียดว่า การประกอบวิชา ชีพเวชกรรม จะมีความรับผิดตามกฎหมายมาเกี่ยวข้อง 3 ประเด็น คือ ความรับผิดทางอาญา ความรับผิดทางแพ่ง และความรับผิดทางจริยธรรม ความรับผิดทางอาญาและแพ่ง อำนาจอยู่ที่อัยการ และผู้พิพากษา

แพทยสภามีหน้าที่ความรับผิดชอบในประเด็นเรื่อง "มาตรฐานวิชาชีพ" และ"ความรับผิดทางจริยธรรม" โดยตรง คดีนี้ทำให้เห็นชัดว่า "ทำไมคดีทางการแพทย์ จึงควรต้องทำคำตัดสินโดยแพทยสภา" หลายเรื่องทางการแพทย์เป็นประเด็นที่เกินกว่าจะใช้ดุลพินิจของวิญญูชนทั่วไปมาทำคำตัดสิน

คดีนี้ทำให้คนทั่วไปเข้าใจขั้นตอนการทำงานของกระบวนวิธีพิจารณาคดีของแพทยสภาได้มากที่สุด  ต้องขอบคุณสื่อที่ช่วยกันนำเสนอแทนแพทยสภา ทำให้ประชา ชนทั่วประเทศเข้าใจว่า "ทำไมถึงต้องให้เวลากับกระบวนวิธีพิจารณาคดีของแพทยสภา(ที่เป็นระบบไต่สวน) อย่างเหมาะสม" เพราะข้อบังคับว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีจริยธรรม บังคับให้องค์คณะต้องเปิดโอกาสให้สองฝ่ายนำเสนอหลักฐานอย่างเต็มที่ และองค์คณะมีอำนาจสืบค้นข้อเท็จจริงด้วยตนเอง ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีทนาย (ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีความรู้ความสามารถเรื่องทางการแพทย์มากเท่าองค์คณะ) เข้ามาวุ่นวายในกระบวนการนี้

พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม น่าจะเป็นกฎหมายฉบับแรกๆ (หรืออาจจะแรกสุด) ที่ใช้"ระบบไต่สวน"ในการค้นหาความจริงและทำคำตัดสิน องค์คณะผู้ไต่สวน คือ อนุจริย ธรรมและอนุสอบสวนทำงานร่วมกับองค์คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสุด ๆของราชวิทยาลัยทางการแพทย์หลายแห่ง เปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายนำเสนอพยานหลักฐานเต็มที่ แต่ในขณะเดียวกัน องค์คณะเองก็มีความรู้เรื่องราวในประเด็นทาง การแพทย์อย่างดีมาก และน่าจะสูงกว่าคู่ความทั้งสองฝ่าย จึงมีความสามารถในตัวเองที่จะทำความจริงให้ปรากฎโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพยานหลักฐานของคู่ความเพียงอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องให้ทนาย ความหรือคนนอกมานำเสนอ วิธีนี้จะช่วยอุดช่องว่างในด้านข้อมูลข่าวสารที่อาจเป็นการพ้นวิสัยที่คู่ความฝั่งใด ฝั่งหนึ่งจะหามานำเสนอด้วยตนเอง หรือคู่ความฝั่งใดฝั่งหนึ่งเจตนาปกปิดไม่นำเสนอ

ปัจจุบันมีกฎหมายหลายอย่างที่ใช้ "ระบบไต่สวน" แทน "ระบบกล่าวหา" เช่น กฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากร กฎหมาย เกี่ยวกับคดีเด็กและเยาวชน กฎหมายแรงงาน แต่ระบบไต่สวนของแพทยสภา (ความเห็นส่วนตัว) น่าจะเป็นระบบไต่สวนที่แน่นหนาและมีกระบวนวิธีพิจารณาคดีที่รัดกุมมากที่สุด เพราะเรื่องทางการแพทย์เกี่ยวพันกับความปลอดภัยในชีวิตของคนทั้งประเทศ

คดีนี้ทำให้เห็นว่ากรรมการแพทย สภา ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง หรือแต่งตั้ง ล้วนตระหนักในหน้าที่ของตนเองดี ที่ผ่านมาอย่าว่าแต่คนนอกเลย แม้แต่แพทย์ด้วยกันก็ยังตั้งคำถามแรงๆใส่กรรมการแพทยสภาและคณะทำงาน แต่ผู้เกี่ยวข้องยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานตามหน้าที่เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงไปตามขั้นตอนปกติ

มติของคณะกรรมการแพทยสภาที่เป็นผู้ออกคำสั่ง หรือคำตัดสินคดีจริยธรรม หรือมาตรฐานวิชาชีพมีที่มาจากเอกสารที่วางอยู่ตรงหน้า "เท่านั้น" ดังนั้นกรรมการแพทย สภาทุกคนจะไม่สามารถปักธงไว้ล่วงหน้า จนกว่าจะได้ศึกษาสำนวนและคำสรุปของอนุกรรมการทุกชุดจนถ่องแท้ ก่อนทำการโหวตลงมติ หรือแม้จะมีธง แต่เมื่อมีเอกสารหลักฐานเวชระเบียนผลภาพรังสีต่างๆวางอยู่ตรงหน้า จึงเป็นการยากที่จะตัดสินใจตามธง เพราะประเด็นทางการแพทย์เป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ ที่ทุกการตัดสินใจในการรักษา ต้องมีเหตุผลรองรับ เพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยให้กับประชาชนทั่วประเทศ

ทุกเสียงโหวตล้วนตัดสินใจบน "ข้อเท็จจริงทางการแพทย์" จากเวชระเบียนและจากการไต่สวนที่อนุ กรรมการจริยธรรม อนุกรรมการสอบสวน และอนุกลั่นกรอง "ทำการบ้านมาให้ล่วงหน้า" ก่อนชงให้คณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ทำคำตัดสิน (ย้ำว่าคณะกรรมการแพทยสภาเท่านั้นที่มีอำนาจตัดสิน อนุทุกชุดแค่เป็นคณะทำงาน เป็นที่ปรึกษาเท่านั้น) เดือนๆหนึ่งมีคดีที่แพทยสภาต้องทำคำตัดสินแบบนี้ไม่ต่ำกว่า 30 คดี มากสุด เท่าที่จำได้คือเกือบ60 คดี ทำให้แพทยสภาต้องตั้ง "อนุกรรม การกลั่นกรอง"เข้ามาช่วยงาน

ด้วยเหตุที่อนุจริยธรรมและอนุสอบ สวนล้วนแต่ต้องเป็นแพทย์ ทางแพทยสภาจึงมีมติตั้งอนุกลั่นกรองตามที่บัญญัติไว้ในข้อบังคับแพทย สภามานับสิบปีแล้ว เพื่อเปิดโอกาสให้คนนอกที่มิใช่แพทย์เข้ามาช่วยถ่วงดุลและนำเสนอความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ในคดีแต่ละคดี คล้ายๆกับคณะที่ปรึกษาเพื่อตรวจสอบและถ่วงดุล (check and balance) ภายในองค์กรเอง "อนุกลั่นกรอง" คดีนี้ทำให้คนนอกได้ทราบว่า มิใช่มีแต่แพทย์เท่านั้นที่ทำคำตัดสินจริยธรรมทางการแพทย์ ยังมีคนนอกที่มิใช่แพทย์ (อนุกรรมการกลั่นกรอง) เข้ามาช่วยให้ความเห็นที่สำคัญในทางกฎหมาย ... to be continued ...ลึกแต่ไม่ลับ (3)

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘วีระพันธ์’ชี้‘ถอยหนึ่งก้าว’ไม่ใช่ความอ่อนแอ สว. ขอเคลียร์ให้ชัดก่อนเลือกองค์กรอิสระ ‘วีระพันธ์’ชี้‘ถอยหนึ่งก้าว’ไม่ใช่ความอ่อนแอ สว. ขอเคลียร์ให้ชัดก่อนเลือกองค์กรอิสระ
  • ‘หมอเปรม’หนุนชะลอตั้งกมธ.ฯตรวจสอบประวัติและความประพฤติองค์กรอิสระ ‘หมอเปรม’หนุนชะลอตั้งกมธ.ฯตรวจสอบประวัติและความประพฤติองค์กรอิสระ
  • \'อนุทิน\'ยัน มท.พร้อม หากเกิดเหตุฉุกเฉินพื้นที่ชายแดนช่องบก 'อนุทิน'ยัน มท.พร้อม หากเกิดเหตุฉุกเฉินพื้นที่ชายแดนช่องบก
  • \'อนุทิน\'ปัดเอี่ยว สว.ตั้ง กมธ.แจมปมมติแพทยสภา เชื่อ\'สมศักดิ์\'เอาอยู่ 'อนุทิน'ปัดเอี่ยว สว.ตั้ง กมธ.แจมปมมติแพทยสภา เชื่อ'สมศักดิ์'เอาอยู่
  • \'ไอติม\'ชำแหละงบการศึกษา ย้ำต้องรีเซต 6 ด้าน มองปฏิรูปเป็นวาระเร่งด่วน 'ไอติม'ชำแหละงบการศึกษา ย้ำต้องรีเซต 6 ด้าน มองปฏิรูปเป็นวาระเร่งด่วน
  • \'อนุทิน\'ย้ำ! ภท.ไม่เกี่ยว\'ฮั้ว สว.\' หลังมีชื่อ\'ญาติ รมต.ทรงศักดิ์\'โผล่ในลิสต์ 'อนุทิน'ย้ำ! ภท.ไม่เกี่ยว'ฮั้ว สว.' หลังมีชื่อ'ญาติ รมต.ทรงศักดิ์'โผล่ในลิสต์
  •  

Breaking News

‘วีระพันธ์’ชี้‘ถอยหนึ่งก้าว’ไม่ใช่ความอ่อนแอ สว. ขอเคลียร์ให้ชัดก่อนเลือกองค์กรอิสระ

‘สมศักดิ์’ไม่พูดปม'วีโต้' ขอแจงที่สภาฯ บอกทำเล่นๆ ไม่ได้ หวั่นโดนฟ้อง

โปรไทยเอาเรื่อง!กวาด3แชมป์นานาชาติที่ฮ่องกง

กทม.หนุนบุคลากรแพทย์–สาธารณสุขสู่ผู้นำยุคใหม่ เพิ่มความรู้ใช้เทคโนโลยีเสริมทักษะบริหาร

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved