'นายกฯ'ถกท่องเที่ยว ชู 5 ด้านดึงนทท. หลังสถานที่ต่างๆ ปรับตัว ทำอะไรใหม่ๆ ขอทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมมือ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 พ.ค.2568 ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 2/2568 โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(ผบช.ทท.) พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้มาติดตามเรื่องความคืบหน้าการท่องเที่ยว อย่าลืมว่าการท่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญหลักของประเทศ และเป็นรายได้หลักของประเทศ ที่ต่างๆ ที่ไปเริ่มมีการปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการท่องเที่ยวของเขาหรือเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ เห็นผลได้ชัด เราก็จะมาดูกันต่อว่าจะทำอย่างไรให้เป็นอะไรที่ใหม่และน่าท่องเที่ยว มีกิจกรรมประสบการณ์ใหม่ๆให้กับการท่องเที่ยวของเรา
ทั้งนี้ จากการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแบ่งเป็นประเด็นสำคัญ 5 ด้าน 1.เรื่องของการสร้างภาพลักษณ์ 2.เรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว 3.การอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว 4.ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว และ 5.การจัดกิจกรรม เพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวปัจจุบันและในอนาคต และที่สำคัญการท่องเที่ยวจะสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างบูรณาการเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ขอให้ทุกท่านอย่าลืมว่าหากขาดเหลืออะไรต้องซัพพอร์ตกัน ขอให้บูรณาการร่วมมือกันการท่องเที่ยวของเราจะได้เกิดผลให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี