กกต.เรียกลอต5
22สว.เข้าชี้แจง‘คดีฮั้ว’
พี่ชายแกนนำภท.ติดโผ
กกต.เรียกเพิ่มลอต 5 สว.อีก 22 ราย แจงกล่าวหาพัวพันฮั้วเลือก สว. พบมีชื่อ“พี่ชายทรงศักดิ์”รมช.มท.แกนนำพรรคภูมิใจไทย อยู่ด้วย เผยยอดรวม 127 คนแล้ว “อนุทิน”ย้ำ ภท.ไม่เกี่ยวฮั้วเลือก สว. บอกทุกอย่างราบรื่น “นภินทร”
รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ขณะที่ สว.มุ้งใหญ่สีน้ำเงิน ไม่เอาด้วยกับญัตติของกลุ่มพันธุ์ใหม่ ลงมติ 125 ต่อ 37 งดออกเสียง 12 เดินหน้าลุยไฟ ตั้ง กมธ.สอบประวัติฯ ของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ 3 คณะรวด“กกต.-ตลก.ศาล รธน.-อสส.” พบ “ผู้ว่าฯ ปู-พ.ต.อ.กอบ-สวัสดิ์-วุฒิชาติ” สลับนั่งคุมทุกชุด วุฒิสภาไฟเขียว “เพียรศักดิ์ สมบัติทอง” เป็น “กก.ป.ป.ช.”ด้วยเสียงข้างมาก 138 ต่อ 2 เสียง
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 มีรายงานว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ได้เรียกสมาชิกวุฒิสภา(สว.) เข้าชี้แจงเพิ่มเติมอีก 22 คน กรณีกล่าวหาว่าอาจพัวพันกับกระบวนการฮั้วเลือก สว. เท่ากับว่า ขณะนี้คณะกรรมการสืบสวนฯได้เชิญ สว.เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 5 ล็อต แบ่งเป็นล็อตแรก 55 คน ล็อตสอง 10 คน ล็อตสาม 24 คน ล็อตสี่ 16 คน และ ล็อตห้า 22 คน รวมเป็นจำนวน 127 คน
สำหรับรายชื่อ สว.ล็อต 5 ที่ถูกเรียกเข้าชี้แจงมีดังนี้ 1.นางจุฑารัตน์ นิลเปรม 2.นางเจียระไน ตั้งกีรติ 3.นางมยุรี โพธิแสน 4.น.ส.จารุณี ฤกษ์ปราณี 5.น.ส.สุกัญญา ประจวบเหมาะ 6.นายกิตติพันธ์ อนันตกูลจิรโชติ 7.นายธนภัทร ตวงวิไล 8.น.ส.ภาวนา ว่องอมรนิธิ 9.นายกัมพล สุภาแพ่ง 10.นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ 11.นายอัครวินท์ ขำขุด 12.นางธารณี ปรีดาสันติ์ 13.นางรจนา เพิ่มพูน 14.น.ส.ปุณณภา จินดาพงษ์ 15.นายณรงค์ จิตราช 16.นายธนชัย แซ่จึง 17.นายพละวัต ตันศิริ 18.นายกัมพล ทองชิว 19.นายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ 20.นายนพดล พิงสกุล 21. นายพรเพิ่ม ทองศรี พี่ชายนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย แกนนำพรรคภูมิใจไทย 22.นายสุพัตรชัย เตียวเจริญโสภา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี กกต. เรียก สว. เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีการฮั้วเลือก สว.โดยหนึ่งในนั้นมีนายพรเพิ่ม ทองศรี สว.กลุ่มที่ 13 จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพี่ชายของนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย หนึ่งในแกนนำพรรคภูมิใจไทย ว่า เรื่องนี้ตนและพรรคภูมิใจไทยไม่เกี่ยว ส่วนนายพรเพิ่มกับนายทรงศักดิ์ เขาเป็นครอบครัวเดียวกัน อยู่ที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งการถูกเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหา ก็ขอให้เตรียมข้อมูลไป คนที่เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย ที่ตนทราบก็มีนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ ซึ่งได้ไปตามกำหนดการและให้ความร่วมมือทุกอย่าง ตนเห็นว่า ทุกฝ่ายก็ให้ความร่วมมืออย่างดี และ กกต.ก็รับข้อมูลไปประกอบการพิจารณา แต่เรื่องของ สว.ย้ำว่าไม่เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากรับทราบข้อกล่าวหาของนายนภินทรนั้นได้มารายงานให้ทราบว่า ได้รับความร่วมมือและให้เกียรติกันเป็นอย่างดี เท่าที่ทราบก็มีแค่นายนภินทร ส่วนคนอื่นยังไม่ได้รับรายงาน
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีพิเศษที่ 24/2568 ซึ่งเกี่ยวข้องกับความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่ง สว. รวมถึงผู้ที่เป็นสมาชิกอั้งยี่และผู้สนับสนุน ว่า ขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้สอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 60 ปาก และอยู่ระหว่างการรวบรวมถ้อยคำให้การ โดยพยานดังกล่าวมาจากหลายกลุ่ม แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ อธิบดีดีเอสไอย้ำว่า พนักงานสอบสวนกำลังเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ดีเอสไอ ยังไม่พิจารณาออกหมายเรียกผู้ต้องหาในคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน เพราะรอผลการดำเนินการของคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนที่มีเจ้าหน้าที่ กกต. และ DSI รวม 7 ราย ให้เสร็จสิ้นก่อนหรือไม่ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ปฏิเสธหนักแน่นว่า “ไม่ได้เป็นเงื่อนไข เพราะเราก็รวบรวมพยานหลักฐานไปอีกส่วนหนึ่งเหมือนกัน”
ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา (สมัยวิสามัญ) เป็นกรณีพิเศษ ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภาทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาวาระเรื่องด่วนซึ่งเลื่อนญัตติ เรื่องขอให้ชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ(กมธ.) เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งให้ความเห็นชอบกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)จนกว่ามีคำตัดสินใจคดีที่ สว.จำนวนมากตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้องในคดีฮั้วเลือก สว. เสนอโดย นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว. กลุ่มพันธุ์ใหม่ขึ้นมาพิจารณาก่อนระเบียบวาระอื่น
โดย น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. อภิปรายสนับสนุนให้ชะลอกระบวนการไปจนกว่าถึงการประชุมสมัยสามัญ ในเดือน ก.ค.นี้ เพราะสังคมติเตียนอยู่ และต้องเรียกร้องให้องค์กรตรวจสอบสว. เร่งตรวจสอบให้แล้วเสร็จ ทั้งนี้ไปไหนมีแต่คนถามว่าลงชื่อหรือยัง ตนบอกว่าไม่ได้ลง เพราะเป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยในวุฒิสภา เพราะเป็นพี่น้อง กินข้าวด้วยกันไปไหนไปด้วยกันตลอด บางคนเป็นเพื่อนตั้งแต่เด็กวันนี้ไม่มองหน้า เพราะทุกคนกังวล เครียด มองว่าอีกกลุ่มเป็นฝ่ายหนึ่ง กลุ่มที่ไม่มีค่ายถูกกล่าวหา คนที่มีค่ายถูกกล่าวหา
ส่วนฝ่ายที่เห็นแย้งกับญัตติดังกล่าว ได้ย้ำถึงการใช้หน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้อีกทั้งคดีที่ถูกตรวจสอบยังไม่มีการชี้ผลเป็นที่สิ้นสุด เช่น พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว.อภิปรายโต้แย้งว่าสว.ที่ถูกเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีฮั้วเลือกสว.มีจริยธรรม เพราะกระบวนการที่ไต่สวนในคดีฮั้วสว.นั้น เป็นกระบวนการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เราจึงเป็นผู้ที่ถูกกระทำจากอำนาจที่ไม่ชอบ ตนถือว่าตนเป็น สว.ที่ได้รับการเลือกด้วยความสุจริตเที่ยงธรรมตามที่กกต.ประกาศรับรอง จึงไม่อาจที่จะชะลอการดำเนินการที่จะแต่งตั้งกมธ.ตามวาระได้ เพราะการตั้งกมธ.สอบประวัติ มีขั้นตอนดำเนินงานตามระเบียบข้อบังคับวุฒิสภาและไม่สามารถทำอะไรนอกเหนือจากระเบียบได้ ตนมองว่ามีกรอบระยะกำหนดไว้ชัดเจนในรัฐธรรมนูญ ไม่เช่นนั้นกรรมการสรรหาคงไม่ยึดกรอบในการทำงาน
หลังจากที่ สว.อภิปรายครบถ้วนแล้ว ในเวลา 13.00 น.ที่ประชุมให้ลงมติเพื่อชี้ขาดโดยมีมติ 125 ต่อ 37 เสียง ไม่เห็นด้วยกับญัตติดังกล่าว งดออกเสียง 12 เสียง จึงเดินหน้าพิจารณาเรื่องตามวาระที่กำหนดไว้ในระเบียบวาระต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่การลงมติดังกล่าวแล้วเสร็จ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.กลุ่มสีขาว น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ รวมถึง สว.เสียงข้างน้อย แจ้งต่อที่ประชุมว่าไม่ร่วมสังฆกรรมกับการประชุม สว. ในกระบวนการเห็นชอบองค์กรอิสระในวันนี้ ก่อนที่จะวอล์คเอาท์ ออกจากห้องประชุม
ต่อมา ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. แถลงว่า ไม่ว่าเสียงข้างน้อยของสว.จะอภิปรายด้วยหลักการด้วยเหตุผลที่สมเหตุสมผลเพียงใด แต่ก็ไม่อาจที่จะโน้มน้าวให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการการลงมติ และที่สำคัญประชาชนจำนวนมากไม่ต้องการให้ สว.ลงมติเพื่อที่จะดำเนินการเลือกองค์กรอิสระในวันนี้ซึ่งมีถึง 7 ตำแหน่ง โดยจะเป็นสถานะขององค์กรอิสระไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้ สว.เสียงข้างมากก็ไม่ได้สนใจ ยังเดินหน้าเลือกองค์กรอิสระ เป็นเรื่องที่ฝืนความรู้สึกประชาชนและทำให้กระบวนการองค์กรอิสระบิดเบี้ยวไปหมด
ด้าน น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. กล่าวว่า ในนาม สว.เสียงข้างน้อย 30 คน เราพยายามทำเต็มที่แล้ว เราพยายามบอกว่าขอเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อนเพื่อให้ผู้ที่ตรวจสอบเราดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือน แต่สุดท้ายแล้วก็ได้เท่านี้ ขั้นตอนต่อไปประชาชนจะต้องพิจารณาเอาเอง
นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังแถลงข่าวเสร็จตนจะไปยื่นต่อ ป.ป.ช.ตรวจสอบจริยธรรมของสว.ที่ลงมติว่ามีจริยธรรมในการลงมติหรือไม่ และผลที่ สว.เหล่านั้นได้กระทำไปชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และเรื่องการขัดกันของผลประโยชน์ตามกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการกระทำในวันนี้และวันหน้า นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้าตนจะยื่นต่อนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในมาตรา 113 ของรัฐธรรมนูญ และสุดท้ายจะยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน
“วันนี้กกต. ดีเอสไอออกมาเรียกในล็อตที่ 5 แล้วและล็อตที่ 6 บอกเลยว่าเป็นเจ้ใหญ่เมืองอำนาจ ล็อตที่ 7 บรรดาลูกเทพทั้งหลาย และล็อต 8 เจ้าพ่อเขากระโดงโดนแน่” ทนายอั๋น กล่าว
ที่รัฐสภา ในวาระพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติและจริยธรรมผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.), ตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติและจริยธรรมผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และ ตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติและจริยธรรมผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นอัยการสูงสุด โดยรายชื่อคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติฯ ของบุคคลได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน 15 คน ดังนี้ 1.นายกมล รอดคล้าย 2.พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ 3.นายจำลอง อนันตสุข 4.นายธนกร ถาวรชินโชติ 5.นายธนชัย แซ่จึง 6.นางธารนี ปรีดาสันติ์ 7.นายนิพนธ์ เอกวานิช 8. ผู้ช่วยศาสตราจารย์นิฟาริด ระเด่นอาหมัด 9.นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล 10.นางรจนา เพิ่มพูน 11.นายฤชุ แก้วลาย 12.ผู้ช่วยศาสตราจารย์วราวุธ ตีระนันทน์ 13.นางวลีรักษ์ พัชระเมธาพัฒน์ 14.นายวิเชียร ชัยสถาพร 15.น.ส.วิธาวีร์ ประทุมสวัสดิ์
ขณะที่ การเสนอรายชื่อกรรมาธิการสามัญสอบประวัติฯ ของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อในตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 15 คน ได้แก่ 1.นายจตุพร เรียงเงิน 2.นางสาวชญานัน ตริยตกาลชัย 3.นายนฤพล สุคนธชาติ 4.นายนิสิต พลกลิ่น 5.นายพิชาญ พรศิริประทาน 6.นายพิบูล หฤหรรษปราการ 7.นายภมร เชาวศิริกุล 8. ผู้ช่วยศาสตราจารย์วราวุธ ตีรนันท์ 9.นายวิรัช ลิ้มสุวัฒน์ 10.นายวีระศักดิ์ วิจิตรแสงสี 11.พลเอกสวัสดิ์ ทัศนา 12. นายสุธน กล้าการขาย 13.พล.ต.ต.สุนทร ขวัญเพชร 14.นายโสภณ มโนมยา 15.นายเอมอร ศรีกงพาน
สำหรับคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติฯ ของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด มีจำนวน 15 คน ได้แก่ 1.พ.ต.อ.กอบ อัจจนากิตติ 2.น.ส.เขมรัตน์ สุรเมธีมานพ 3.นายจำลอง อนันตสุข 4.นายชาญวิทย์ บรรจงการ 5.นายธวัช สุรหว่าง 6.นายบุญชอบ สะสมทรัพย์ 7.นายพิสูจน์ รัตนวงศ์ 8.นายฤชุ แก้วลาย 9.นางวราพัฒน์ ไพพรรณวรรัตน์ 10.ผู้ช่วยศาสตราจารย์วราวุธ ตีรนันท์ 11.นายวิรัตน์ ธรรมบำรุง 12.นายวิรัตน์ รักพันธุ์ 13.นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร 14.นายสัมพันธ์ ไชยวิเศษจินดา 15.นางสาวอัจฉราพรรณ หอมรส
ทั้งนี้ ต้องทำให้เสร็จสิ้นภายใน 60 วัน ตั้งแต่วันที่ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญฯ
จากนั้น เวลา 14.00 น. ที่ประชุมวุฒิสภาดำเนินการเข้าสู่วาระพิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยเป็นการประชุมลับ
ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาเรื่องด่วน ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ ตรวจสอบประวัติฯ จำนวน 3 คณะ ได้แก่ 1.คณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติและจริยธรรมผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการการเลือกตั้ง (นายณรงค์ กลั่นวารินทร์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา) จำนวน 15 คน กำหนดระยะเวลาดำเนินงาน 60 วัน จำนวน 15 คน 2. ตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติและจริยธรรมผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ (ศ. ร.ต.อ.สุธรรม เชื้อประกอบกิจ และนายสราวุธ ทรงศิวิไล) จำนวน 15 คน กำหนดระยะเวลาดำเนินงาน 60 วันจำนวน 15 คน และ 3.ตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติและจริยธรรมผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นอัยการสูงสุด (นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รองอัยการสูงสุด) จำนวน 15 คน กำหนดระยะเวลาดำเนินงาน 60 วัน
จากนั้นที่ประชุมวุฒิสภา ที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้เข้าสู่วาระพิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จำนวน 3 คน ได้แก่ นายประกอบ ลีนะเปสนันท์ รองประธานศาลฎีกา นายเพียรศักดิ์ สมบัติทอง อธิบดีอัยการภาคสอง และ นายประจวบ ตันตินนท์ กรรมการอิสระ บริษัทสิริเวช จันทบุรี จำกัด (มหาชน) หลังจากที่คณะกรรมาธิการ สามัญตรวจสอบประวีติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมได้นำเสนอรายงานตรวจสอบต่อที่ประชุม ทั้งนี้ที่ประชุมได้พิจารณาเป็นการลับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ที่ประชุมได้ประชุมลับนานเกือบ 2 ชั่วโมง ได้กลับมาประชุมแบบเปิดและลงมติด้วยการลงคะแนนลับผ่านการกดบัตรออกเสียง ผลปรากฎว่าที่ประชุมวุฒิสภา มีมติให้ความเห็นชอบนายเพียรศักดิ์ เป็น กรรมการ ป.ป.ช. ด้วยมติ เห็นด้วย 138 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง งดออกเสียง 13 เสียง
ขณะที่นายประกอบ ไม่ได้รับความเห็นชอบ เนื่องจากได้รับคะแนนเห็นชอบเพียง 61 เสียง ไม่เห็นด้วย 60 เสียง งดออกเสียง 33 เสียง ถือว่าได้เสียงเห็นชอบน้อยกว่ากึ่งหนึ่ง คือ 100 คะแนน เช่นเดียวกับนายประจวบ ที่ไม่ได้รับความเห็นชอบ เพราะมติ สว. ให้ความเห็นชอบ 14 เสียง ไม่เห็นชอบ 108 เสียง งดออกเสียง 31 เสียง ถือว่าได้เสียงเห็นชอบน้อยกว่ากึ่งหนึ่ง คือ 100 คะแนน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี