รัฐบาลเอาแน่
เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์
หวังโกยรายได้มหาศาล
เข้ารัฐปีละ39,427ล้านบ.
ท่องเที่ยวรับ1-2แสนล้าน
ลุ้นกฎหมายผ่านสภาฉลุย
รัฐบาลประกาศชัด สร้างแน่ “เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์” ตั้งเป้าโกยรายได้เข้ารัฐสูงสุด ปีละ 39,427 ล้านบาท คาดได้จากค่าธรรมเนียมเข้ากาสิโนขั้นต่ำ 3,700 ล้านบาทต่อปี ลุ้น กฎหมายผ่านสภาฯ
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ที่ ห้อง 402 ชั้น 4 ตึก 150 ปี กระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แถลงข่าวในงาน “Thailand Entertainment Complex : มหานครแห่งประสบการณ์ระดับโลก เพื่อคนไทยทุกคน” โดยยืนยันว่า ประเทศไทยต้องการเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจใหม่ ที่จะรองรับกับความเปลี่ยนแปลงด้านภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจระดับโลกที่มีการแข่งขันสูง โดยหนึ่งในนโยบายที่สำคัญ คือ ภาคการท่องเที่ยว ที่หลายประเทศในโลกเริ่มแข่งขันกันในสิ่งที่เรียกว่า Man-Made Destination หรือ การสร้างสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ เพื่อเป็นกลไกในการดึงดูดนักท่องเที่ยว วันนี้ไทยต้องการจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ในการสร้างแรงดึงดูดใหม่ ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในไทย
สำหรับเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งรัฐบาลใช้เป็นโมเดลในการเพิ่มรายได้ สร้างอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตในระดับที่เหมาะสม แต่เสียงของประชาชน ที่รัฐให้ความสำคัญ วันนี้ได้เดินหน้าการยกร่างกฎหมายไปที่สภาฯ ยังมีเสียงสะท้อนและข้อห่วงใยในหลายมิติ วันนี้ จะมาทำความเข้าใจและสื่อสาร ว่า โครงการดังกล่าวจะนำพาประเทศไทยไปข้างหน้าอย่างไร และปิดจุดอ่อน ข้อห่วงใย สังคมได้อย่างไร
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้หารือ สภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมถึง พบปะผู้ประกอบการที่สนใจในหลายภาคส่วน และจะหารือกับผู้คนอีกจำนวนมาก สิ่งที่หารือแล้ว เป็นการสื่อสารทางตรง เพื่ออธิบายสิ่งที่ยังสงสัย ทำความเข้าใจร่วมกัน ว่าไม่ใช่ โครงการครั้งเดียว แต่เป็นโครงการที่จะสร้างโอกาสสำคัญ ในการเพิ่มการท่องเที่ยวในอนาคต และขอยืนยันว่า โครงการดังกล่าวจะต้องโปร่งใส มีกฎหมายรองรับ มีข้อมูลสนับสนุน การกำกับดูแลอย่างเข้มงวด
สำหรับกรอบเวลา ยืนยันไม่ได้มีความเร่งรัด แต่ทำให้รอบคอบ สิ่งสำคัญคือทำให้กฎหมายมีความพร้อมที่สุด ที่ยังเป็นข้อห่วงใย และปัจจุบัน กฎหมายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในอำนาจของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่เป็นอำนาจของสภาผู้แทนราษฎร และเมื่อกฎหมายแล้วเสร็จ จะมีการตั้งคณะกรรมการระดับชาติตามที่กฎหมายกำหนด มีการตั้งหน่วยงาน เพื่อทำการศึกษาความเป็นไปได้ในหลายมิติ ทั้งเรื่องสถานที่ องค์ประกอบที่จะต้องเกิดขึ้น ทั้งเรื่องสนามกีฬา สวนสนุกระดับโลก เป็นต้น ที่จะต้องศึกษาให้ชัดก่อนที่จะออกเป็น TOR เชื่อว่าจะใช้เวลาหลายปี แต่อายุสภาฯ มีจำกัด หากไม่เสร็จสิ้น จะต้องเริ่มต้นใหม่ และทำให้ไทยเสียโอกาส หากเป็นไปจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในด้านกฎหมายในรัฐบาลชุดนี้
“วันนี้ต้องยอมรับความจริงว่า คนไทยเดินทางไปเล่นพนันในต่างประเทศ เราต้องการดึงคนเข้ามาอยู่ในสายตาของรัฐบาลได้ และวันนี้คุยกับผู้ประกอบการในหลายส่วน กลุ่มที่เป็นสวนสนุก สนามกีฬาจะมาพูดคุย กลุ่มที่เป็นการโชว์แสงสีเสียงระดับโลกก็จะเข้ามาคุยด้วย วันนี้หากไทยเดินหน้าในเรื่องนี้ จะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างมีนัยสำคัญ” นายจุลพันธ์ กล่าว
ทางด้าน นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แถลงอธิบายว่า ทำไมรัฐบาลต้องทำ เอ็นเตอร์เทรนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เนื่องจากตัวเลขนักท่องเที่ยวตลอด 15 ปีของไทย โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2010 ว่าที่ผ่านมาประเทศไทยติดอันดับโลกประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมาโดยตลอด ถึงแม้ช่วงโควิดนักท่องเที่ยวจะหายไปบ้าง แต่ช่วงปี 2023-2024 ก็ทำสถิติกลับมาติด 10 อันดับโลกใหม่ได้ แต่ถึงจำนวนนักท่องเที่ยวจะมีมาก แต่รายได้ต่อหัวที่เข้ามาใช้จ่ายในประเทศกลับไม่เพิ่ม เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งกับดักการท่องเที่ยวของประเทศไทย จึงถึงเวลาที่ต้องสร้างโอกาสครั้งใหม่ พัฒนาการท่องเที่ยวที่ทำให้รายได้ต่อหัวนักท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น
นายศึกษิษฏ์ กล่าวว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เป็นเพียงหนึ่งในกลยุทธ์ที่หลากหลายในหมวดการยกระดับการท่องเที่ยวเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่แค่โซนบันเทิง แต่เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ประเทศตลอดปี ทำให้ประเทศไทยไม่มี Low Season อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยไม่ใช่ที่แรก เพราะที่ผ่านมา เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ถูกพูดถึงและเป็นโครงการที่หลายประเทศกำลังมุ่งไป โดยคาดการณ์โอกาสในตลาด เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ สูงถึง 54 ล้านล้านบาท/ปี รองเลขาธิการฯ ยกตัวอย่างข้อมูลรายได้ต่อปีจากสถานบันเทิงครบวงจรปี 2022 ของประเทศเวียดนาม คือ 1.8 แสนล้านบาท/ปี, เกาหลีใต้ 3.2 แสนล้านบาท/ปี, สิงคโปร์ 4.3 แสนล้านบาท/ปี เป็นต้น ข้อมูลตัวเลขจากประเทศเพื่อนบ้านแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน
ส่วนประเทศไทย คาดว่าจะสร้างรายได้ให้รัฐ 12,037 - 39,427 ล้านบาทต่อปี เช่น รายได้จากค่าธรรมเนียมการเข้ากาสิโนขั้นต่ำ 3,700 ล้านบาทต่อปี รายได้ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ภาษีการเล่นพนันขึ้นต่ำ 3,264 ล้านบาทต่อปี ทั้งหมดนี้ เป็นการลงทุนที่ไม่ต้องใช้เงินภาษีจากพี่น้องประชาชน เพราะเป็นการลงทุนโดยเอกชน แต่สิ่งที่จะได้คือ เพิ่มการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ประมาณการว่า 22,300 บาท/คน/ทริป เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวขึ้น 5-20% ต่อปี เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวช่อง Low Season ขึ้น 13% ทำให้การท่องเที่ยวสม่ำเสมอทั้งปี
“จะเกิดรายได้ตั้งแต่ช่วงก่อสร้าง วัสดุก่อสร้างเกิดขึ้นในไทยแน่นอนสินค้า โต๊ะ ตู้ เตียง ต่างๆ ผ้าห่ม หมอน ต่างๆ ของเมืองไทยแน่นอน และการจ้างงานทุกอย่างเป็นคนไทย 100% ส่วนหลังเปิดให้บริการแล้วก็จะสามารถ ช่วย GDP ไปได้ ถึง 0.2-0.8% ตามการคาดการณ์ ซึ่งผมคิดว่าสามารถสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจได้สูงกว่านี้ด้วยซ้ํา นอกจากนี้ จะสร้างรายได้ให้การท่องเที่ยว 1-2 แสนล้านบาท” นายศึกษิษฏ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี