วันอาทิตย์ ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘วุฒิสภา’ออกโรง! ชง‘รัฐ’ผนึกกำลัง‘สส.-สว.’ตอบโต้รุกล้ำ‘อธิปไตย’

‘วุฒิสภา’ออกโรง! ชง‘รัฐ’ผนึกกำลัง‘สส.-สว.’ตอบโต้รุกล้ำ‘อธิปไตย’

วันอาทิตย์ ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 14.22 น.
Tag : รุกล้ำอธิปไตย สว สส ชายแดนไทยกัมพูชา รัฐบาล วุฒิสภา การเมืองวันนี้ แนวหน้าออนไลน์
  •  

"วุฒิสภา"ออกโรงเอง! ร่อนแถลงการณ์ชง"รัฐบาล"เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ถกแก้ปัญหาสถานการณ์ตรึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ผนึกกำลัง"สส.-สว."ตอบโต้รุกล้ำ"อธิปไตย"

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วุฒิสภา ได้ออกแถลงการณ์วุฒิสภา ขอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาทเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา


ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดน ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 จนถึงปัจจุบัน สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และเป็นไปในทิศทางที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดความรุนแรง แต่ข้อมูลที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนตามการให้สัมภาษณ์ของฝ่ายบริหาร กลับยังไม่มีความชัดเจนถึงสาเหตุของปัญหาและแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมกับสถานการณ์ อันก่อให้เกิดความวิตกกังวลในหมู่พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ทั้งผลกระทบต่ออำนาจอธิปไตยของประเทศ และการรักษาผลประโยชน์ของชาติ โดยเฉพาะกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีกองกำลังติดอาวุธของกัมพูชาได้รุกล้ำเข้ามาบริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เป็นระยะทางถึง 200 เมตร พร้อมทั้งขุดคูในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยยึดถือว่าเป็นอาณาเขตของประเทศไทย

เมื่อพิจารณาถึงหน้าที่ของรัฐ ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หมวด 5 มาตรา 52 วรรคหนึ่ง ว่า “รัฐต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน” แล้ว วุฒิสภา ในฐานะที่เป็นองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติ และมีสมาชิกวุฒิสภาเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยเช่นเดียวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบ และขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และธำรงไว้ซึ่งอธิปไตยเหนือผืนแผ่นดินไทย

วุฒิสภา ตระหนักถึงแนวทางในการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทโดยสันติวิธี แต่ทั้งนี้ต้องยืนอยู่บนหลักการแห่งความเคารพซึ่งกันและกัน รวมทั้งปฏิบัติต่อกันด้วยความจริงใจและเท่าเทียมกันในฐานะมิตรประเทศ

เพื่อการนี้ วุฒิสภา จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล ให้ปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญอย่างเข้มแข็ง เพื่อรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิของประเทศ โดยรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย และขอให้รัฐบาลได้ยืนหยัดในการสงวนสิทธิไม่ยอมรับเขตอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice : ICJ) ในกรณีที่มีข้อพิพาทตามสัญญาระหว่างประเทศ ตามนัยแห่งมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 ซึ่งกำหนดเป็นหลักการให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดว่า ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องจัดทำหนังสือสัญญา ซึ่งมีข้อบทให้อำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) มีเขตอำนาจเหนือข้อพิพาทตามหนังสือสัญญานั้น ให้จัดทำข้อสงวนไม่รับอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศไว้ทุกเรื่อง เพื่อมิให้กระทบต่ออำนาจอธิปไตยของชาติ

พร้อมกันนี้ วุฒิสภา ขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร ให้ดำเนินการกราบบังคมทูลเพื่อมีพระบรมราชโองการเรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 122 ประกอบมาตรา 175 เพื่อที่คณะรัฐมนตรีจะได้ดำเนินการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ตามมาตรา 165 ที่บัญญัติว่า “ในกรณีที่มีปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินที่คณะรัฐมนตรีเห็นสมควรจะฟังความคิดเห็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา นายกรัฐมนตรีจะแจ้งไปยังประธานรัฐสภาขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา...” ทั้งนี้ เพื่อให้ฝ่ายบริหารได้แถลงข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทยกับกัมพูชาต่อประชาชนทั้งประเทศ รวมทั้งสาเหตุของปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว ตลอดจนเพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย ได้ร่วมกันเสนอแนวคิดและแนวทางในการคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้รัฐบาลได้นำไปเป็นข้อพิจารณาประกอบการตัดสินใจ ซึ่งต้องกระทำอย่างเร่งด่วน เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนี้ไม่สามารถรอให้ถึงวันเปิดสมัยประชุมสามัญประจำปี ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ได้ เพราะความล่าช้าจะนำไปสู่การขยายตัวของสถานการณ์ความขัดแย้ง และเปิดช่องให้เกิดกระแสความเห็นแตกแยกในสังคมผ่านสื่อต่างๆ อันจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยและกระทบต่อความมั่นคงของประเทศอย่างร้ายแรง การเปิดประชุมร่วมกันของรัฐสภาในห้วงเวลานี้จะเป็นเวทีหลอมรวมพลังของคนในชาติผ่านผู้แทนปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ และทุกสาขาอาชีพ อีกทั้งจะเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการผนึกกำลังเพื่อร่วมกันแก้ไขวิกฤตที่เกิดขึ้นในทุกมิติ อันจะเป็นแรงผลักดันและสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา ตามแนวทางสันติวิธีพร้อมกับการรักษาเกียรติภูมิของประเทศในเวลาเดียวกัน

อย่างไรก็ดี แม้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 123 วรรคหนึ่ง จะบัญญัติว่า “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาทั้งสองสภารวมกัน หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา มีสิทธิเข้าชื่อร้องขอต่อประธานรัฐสภาให้นําความกราบบังคมทูลเพื่อมีพระบรมราชโองการประกาศเรียกประชุมรัฐสภาเป็นการประชุมสมัยวิสามัญได้” ก็ตาม แต่การที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะเป็นฝ่ายริเริ่มดำเนินการในเรื่องดังกล่าวจะมีความเหมาะสมและมีความสง่างามในเชิงสถาบันในฐานะที่เป็นองค์กรผู้บริหารราชการแผ่นดินในเรื่องนี้โดยตรง รวมทั้งเป็นการแสดงความกล้าหาญ อันเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกต่อสาธารณชนว่า รัฐบาลมิได้เพิกเฉยหรือปัดความรับผิดชอบแต่พร้อมเผชิญหน้าและดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาผ่านกลไกรัฐสภาบนพื้นฐานของความรับผิดชอบ ความโปร่งใส และการมีส่วนร่วม ของประชาชนและผู้แทนปวงชนชาวไทย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ในโอกาสเดียวกันนี้ วุฒิสภา ขอส่งกำลังใจไปยังข้าราชการทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่พิพาท ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ เสียสละและเข้มแข็ง เพื่อรักษาเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของประเทศ ในการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนและรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน พร้อมทั้งขอส่งกำลังใจไปให้พี่น้องประชาชนชาวไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณแนวชายแดนไทยกับกัมพูชา ให้มีขวัญและกำลังใจที่เข้มแข็ง และเชื่อมั่นว่า ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อรักษาอำนาจอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติให้คงอยู่สืบไป

ด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่น

“ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด”

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ปานเทพ’แฉเบื้องหลัง‘กัมพูชา’ถอย ‘ปิดด่าน’ตีหัวใจ-‘ฮุนเซน’กระอักเลือด ‘ปานเทพ’แฉเบื้องหลัง‘กัมพูชา’ถอย ‘ปิดด่าน’ตีหัวใจ-‘ฮุนเซน’กระอักเลือด
  • สวดยับ‘บิ๊กอ้วน’ ดูหน้าดูหลังให้ดีก่อนขอบคุณ‘กัมพูชา’ สวดยับ‘บิ๊กอ้วน’ ดูหน้าดูหลังให้ดีก่อนขอบคุณ‘กัมพูชา’
  • \'อิ๊งค์\'ขอปชช.คลายกังวล มั่นใจรบ. เผยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาดีขึ้น 'อิ๊งค์'ขอปชช.คลายกังวล มั่นใจรบ. เผยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาดีขึ้น
  • รมต.ไม่มีสิทธิ์เลือก! ‘วรวัจน์’ชี้อำนาจ‘นายกฯ’ปรับ ครม. รมต.ไม่มีสิทธิ์เลือก! ‘วรวัจน์’ชี้อำนาจ‘นายกฯ’ปรับ ครม.
  • \'ภูมิธรรม\'ขอบคุณ\'รัฐบาลกัมพูชา\'ลดตึงเครียดช่องบก ยึดสันติวิธี 'ภูมิธรรม'ขอบคุณ'รัฐบาลกัมพูชา'ลดตึงเครียดช่องบก ยึดสันติวิธี
  • ลดความตึงเครียด! \'โฆษก ทบ.\'ยัน\'กัมพูชา\'ถอนกำลังจริง ลดความตึงเครียด! 'โฆษก ทบ.'ยัน'กัมพูชา'ถอนกำลังจริง
  •  

Breaking News

(คลิป) วิเคราะห์ นักการเมืองชั่ว! 'เขมร' ปลอม! ขุดคูเลต 'ยึดช่องบก หรือ ยึดมหาดไทย'

‘ปานเทพ’แฉเบื้องหลัง‘กัมพูชา’ถอย ‘ปิดด่าน’ตีหัวใจ-‘ฮุนเซน’กระอักเลือด

(คลิป) ปฏิรูปการเมืองใหม่ 'วรนัยน์ วาณิชกะ'

ใครกันนะ? ทนายดังใบ้เพิ่ม ผู้ประกาศข่าวสาย Outdoor ชื่อเล่น อ.

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved