ฉายภาพ 6 ปรากฏการณ์ ‘ทักษิณ-ฮุน เซน’ความเหมือนที่แตกต่าง
11 มิถุนายน 2568 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” หัวข้อ “ทักษิณ-ฮุนเซน ความเหมือนที่ต่างกัน” ระบุว่า...
ทักษิณ-ฮุนเซน ความเหมือนที่ต่างกัน
ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณเขตชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งเกิดขึ้นในยุคที่ประเทศไทย มีรัฐบาล มีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประเทศกัมพูชามีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พลเอกฮุนมาเน็ต เป็นนายกรัฐมนตรี
คงไม่มีใครคาดคิดว่า ความขัดแย้งระหว่าง2ประเทศจะเกิดขึ้น เพราะผู้นำทางการเมืองทั้ง 2 ประเทศ มีความสัมพันธ์ที่ดี เป็นปึกแผ่นกัน พึ่งพาอาศัยกันมาโดยตลอด
ผมอยากจะตั้งข้อสังเกตจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เกี่ยวกับการเมือง 2 ประเทศนี้ ดังนี้
1.ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ตระกูลนี้
ถือว่าครอบครัวชินวัตรกับครอบครัวฮุนเซน สนิทสนมเหมือนกับครอบครัวเดียวกัน มีสายสัมพันธ์เกี่ยวดองกัน พึ่งพาอาศัยทางการเมืองกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ทางการเมืองกันมาโดยตลอด ตั้งแต่ระบอบทักษิณถูกการรัฐประหาร
2.มีการวางระบบการเมืองสืบทอดอำนาจจากพ่อสู่ลูก หรือที่เรียกกันว่า การสืบสันดานทางการเมืองกัน
สมเด็จฮุนเซนวางมือทางการเมือง ส่งไม้ต่อให้พลเอกฮุนมาเน็ตขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ผันตัวอยู่เบื้องหลังคุมบังเหียนรัฐบาลกัมพูชา ในขณะที่ประเทศไทยนางสาวแพทองธารขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี นายทักษิณอยู่เบื้องหลังรัฐบาล กำกับครอบงำและครอบครองรัฐบาลนางสาวแพทองธาร
3.การดำเนินกิจการทางการเมืองของสมเด็จฮุนเซนกับนายทักษิณ จะแตกต่างกันตรงที่ สมเด็จฮุนเซ็นสามารถแยกแยะระหว่างความสัมพันธ์ส่วนตัว กับผลประโยชน์ของประเทศชาติได้ เห็นจากการแสดงบทบาทของสมเด็จฮุนเซ็นต่อประเทศไทย เคลื่อนไหวโจมตีแบบไม่เกรงใจ ในขณะที่ฝ่ายไทยทั้งนายทักษิณและนางสาวแพทองธาร แยกไม่ออกระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่กล้าตอบโต้ ไม่กล้าพูดจารุนแรง เกรงอกเกรงใจ
ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า กลัวจะกระทบกับความสัมพันธ์หรือผลประโยชน์ร่วมกันหรือไม่
4.ฝ่ายประเทศกัมพูชา สมเด็จฮุนเซนและพลเอกฮุนมาเน็ต ได้เคลื่อนไหวปลุกระดมให้ประชาชนมีความรักชาติ คลั่งชาติ ให้เกิดชาตินิยม หวงแหนประเทศชาติ แต่สำหรับประเทศไทย ประชาชนภาคประชาสังคม มวลชนเคลื่อนไหวกดดันในรัฐบาลรักชาติ แสดงท่าทีปกป้องอธิปไตยของชาติ และให้กำลังใจทหาร กองทัพได้ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ
5.สมเด็จฮุนเซนและพลเอกฮุนมาเน็ต ประสบความสำเร็จในการใช้สื่อโซเชียลเพื่อขยายผลให้กับประชาคมโลก นานาชาติได้รับทราบข้อมูลว่า ประเทศกัมพูชาถูกรังแกจากประเทศไทย ในขณะที่รัฐบาลไทยประเทศไทย ไม่มีการใช้โซเชียลโต้ตอบไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ไม่มีการเรียกเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ มาชี้แจงทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปล่อยให้ฝ่ายกัมพูชาเคลื่อนไหวโจมตีประเทศไทยเพียงฝ่ายเดียว
6.สมเด็จฮุนเซนประสบความสำเร็จการเมืองภายในประเทศ สร้างกระแสให้ประชาชนยอมรับบทบาทของพลเอกฮุนมาเน็ต โจมตีฝ่ายค้านหรือผู้เห็นต่างรัฐบาล จนประชาชนคล้อยและสนับสนุนรัฐบาล ในขณะที่ประเทศไทย มีประชาชน กลุ่มมวลชนเคลื่อนไหว พร้อมขับไล่รัฐบาล ไม่เอาด้วยกับรัฐบาล กล่าวหารัฐบาลไม่สามารถปกป้องอธิปไตยของประเทศได้ และไม่ยอมรับการเป็นผู้นำประเทศของนางสาวแพทองธาร
ทั้งหมดนี้ คือ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทางการเมือง ระหว่าง 2 ประเทศ คือไทยกับกัมพูชา ที่มีความเหมือนและแตกต่างกัน
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี