"วิโรจน์"ชี้ 6 มาตรการ"ฮุนเซน" สร้างผลลบต่อชาวกัมพูชาทั้งสิ้น ให้คีย์เวิร์ดรัฐบาล เส้นเลือดใหญ่กาสิโน พุ่งเป้ากระเป๋าเงินตระกูล"ฮุน" เชื่อมโยงกลุ่มทุน-นักการเมืองไทยบางกลุ่ม ย้อนถามชาวกัมพูชาอยากดูหรือไม่ หลังแบนหนังไทย จ่อฉาย"ลูกผู้ชายใต้คืนวันเพ็ญ"แทน ซัดไม่คำนึงถึงหัวอกหัวใจของประชาชนประเทศตัวเอง
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ประกาศ 6 มาตรการตอบโต้ประเทศไทย ว่า ทั้ง 6 มาตรการนั้น ฮุนเซน และฮุนมาเนต ทำเพื่อสร้างผลกระทบทางลบต่อความเป็นอยู่และการใช้ชีวิตของประชาชนชาวกัมพูชาทั้งสิ้น ทั้งการค้าขาย ที่น่าตกใจคือการส่งตัวผู้ป่วยมารักษาในประเทศไทยเพื่อเพิ่มโอกาสรอดชีวิตก็มีการจำกัด ทั้ง 6 มาตรการ ล้วนส่งผลต่อประชาชนแบบไม่แคร์ ไม่มีมาตรการใดที่ยอมเสียผลประโยชน์ของตัวเองที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจกาสิโนที่เป็นกระเป๋าเงินของตระกูลฮุนเลย
"ผมขออนุญาตแนะนำนายกฯ และรมว.กลาโหม ว่ามาตรการใดๆ คงต้องพุ่งเป้าไปที่กลุ่มผลประโยชน์ที่มีเครือข่ายโยงใย เชื่อมโยงกับตระกูลฮุน ซึ่งผมขอให้คีย์เวิร์ด คือ "LYP Group" ซึ่งถือเป็นกลุ่มทุนที่เชื่อมโยงกับตระกูลฮุนโดยตรง เกี่ยวข้องกับธุรกิจกาสิโนขนาดใหญ่ที่ประเทศกัมพูชา และมีความโยงกับกลุ่มทุนไทย รวมถึงนักการเมืองไทยบางกลุ่มด้วย รัฐบาลจะต้องดำเนินการเข้าไปตรวจสอบและหากพบว่ามีการใช้ไทยเป็นฐานการกระทำความผิดก็ดำเนินการกวาดล้างให้สิ้นซาก และมาตรการในการจัดการกลุ่มอาชญากรรมแบบนี้จะเกิดประโยชน์กับประชาชนและเป็นมาตรการที่พุ่งเป้าไปที่กระเป๋าเงินของตระกูลฮุน เพื่อทำให้รัฐบาลกัมพูชาเข้ามาสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้งหนึ่ง" นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวมองว่า 6 มาตรการที่ออกมานั้นกระทบไทยบ้าง ซึ่งนายกฯ ควรอนุมัติงบกลางในรายการฉุกเฉินและจำเป็น เพื่อช่วยเหลือ ชดเชย เยียวยาผู้ประกอบการ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบตามแนวชายแดน โดยเฉพาะภาระดอกเบี้ยของผู้ประกอบการ ควรมีมาตรการซอฟต์โลนเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการได้ปรับตัว เพื่อเป็นการยืนยันว่าเรายืนหยัดที่จะใช้มาตรการทำนองนี้ต่อเนื่องยาวนาน จนกว่าจะบรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกัน วันนี้ข้อพิพาทเกิดขึ้นระหว่างไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ไม่ใช่เป็นข้อพิพาทระหว่างชาวไทยและชาวกัมพูชา
"ผมขอฝากถึงประชาชนชาวกัมพูชาด้วยว่าขนาดคนป่วยมีความจำเป็นต้องมีชีวิตรอดยังมีมาตรการห้าม ถ้าเป็นรัฐบาลไทยคงไม่ทำ เพราะรัฐบาลไทยประเทศไทยห่วงชีวิตของประชาชนทุกคน" นายวิโรจน์ กล่าว
เมื่อถามว่า นายกฯ ได้ออกมาชี้แจงว่าอาจเป็นการเข้าใจผิดของฝั่งกัมพูชา โดยจะมีการส่งรมว.ต่างประเทศไปพูดคุยนั้นเป็นท่าทีที่ประนีประนอมหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า การเจรจาในเชิงพิธีการก็ดำเนินการไป แต่จากที่ตนอ่านนายฮุนเซนก็ไม่ได้พูดอะไรที่เข้าใจยาก เรื่องมาตรการตัดไฟตัดเน็ตก็มีความเป็นไปได้จะไปเจรจาก็ได้ และย้ำว่ารัฐบาลควรพุ่งเป้าไปที่กระเป๋าเงินของตระกูลฮุน
เมื่อถามว่า การออกตัวแรงของกัมพูชาแบบนี้ถือเป็นการยั่วยุไม่ให้เกิดการประชุม JBC ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย.หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า นายกฯไทยต้องรู้เท่าทันผู้นำกัมพูชา เราสามารถประเมินได้ว่าไม่มีผลสัมฤทธิ์ในการเจรจาแต่จะมีท่าทีกลับไปจากทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งท่าทีของรัฐบาลกัมพูชาพยายามปลุกเร้าว่าประเทศไทยใหญ่กว่ากำลังจะรังแกเขา คนที่มาเจรจาก็เป็นวีรบุรุษที่ต้องรับแรงกดดันและกลับไปอย่างมีศักดิ์ศรีในการปกป้อง เป็นสตอรี่ที่เขาพยายามจะสร้าง ซึ่งไม่จริง กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิด MOU 43 ก่อน ซึ่งตอนนี้เราต้องสนับสนุนนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (ฝ่ายไทย) ต้องยอมรับว่าท่านมีความรู้ความสามารถและเข้าใจการเมืองและความเป็นไปของกัมพูชา เราต้องให้กำลังใจ เรื่องดิสเครดิตกันเองชั่วดีทีห่าง เก็บไว้ก่อน ต้องให้กำลังใจทีมประเทศไทยในการเจรจา ในเมื่อเราทราบแล้วว่าเขาวางฉากจบไว้อย่างไร สุนทรพจน์ของนายกฯหรือรมว.กลาโหมต้องเตรียมไว้แล้วหลังการเจรจา เพื่อยืนยันและบอกให้นานาอารยประเทศ ประชาชนชาวกัมพูชา รวมถึงประชาชนไทยทราบว่าเราไม่ได้ผิดข้อตกลง MOU 43 และไม่ได้ยื่นเงื่อนไขอะไรใหม่ที่ทำให้กัมพูชาอึดอัดเลย แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาจากทางรัฐบาลกัมพูชา ที่ไม่ได้แคร์และใส่ใจความเป็นอยู่ประชาชนชาวกัมพูชา และยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นรัฐบาลกัมพูชาไม่มีความชอบธรรม ที่ผ่านมามีเหตุกระทบกระทั่งกันที่เกิดขึ้นจากการละเมิดข้อตกลงที่รุกล้ำเข้ามา 400 กว่าครั้ง ซึ่งมาจากรัฐบาลกัมพูชาแต่เราอดทนอดกลั้น รัฐบาลควรเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร ยืนยันว่าข้อพิพาทระหว่างประเทศสิ่งที่สำคัญคือความชอบธรรม และความชอบธรรมจะได้รับการเข้าอกเข้าใจจากการสื่อสารทางการเมืองที่มีประสิทธิภาพ
ส่วนหนึ่งในมาตรการตอบโต้คือการงดออกอากาศหนังไทย แต่เตรียมฉายเป็นซีรีส์ "ลูกผู้ชายใต้คืนวันเพ็ญ" ซึ่งเป็นเรื่องราวของฮุนเซน และบุนรานี นั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า "ต้องถามว่าชาวกัมพูชาเขาอยากดูไหม มาตรการทุกมาตรการของฮุนเซนไม่ได้คำนึงถึงหัวอกหัวใจของประชาชนชาวกัมพูชาเลย"
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี