"เลขาฯภท."เผยเซ็นรับหมายเรียก"คดีฮั้ว สว."แล้ว ยันไปแจงแน่! ข้องใจข้อกล่าวหาเหมือนก๊อปปี้ตามกันมา โต้โยงเส้นเงิน 400 ล้าน ลั่นเปิดบัญชีทรัพย์สินยังไม่ถึงเลย ขอสื่อนำเสนอเรื่องมีประโยชน์กับประชาชน อย่าบิดเบือน
เมื่อวันที่ 16 มิถภุนายน 2568 ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เดินทางเข้าพรรคภูมิใจไทย เพื่อเข้าประชุม สส.โดยผู้สื่อข่าวที่ปักหลักอยู่ที่พรรค พยายามสอบถามถึงประเด็นที่คณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดที่ 26 ซึ่งเป็นกรรมการร่วมระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เรียกเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาในคดีฮั้วเลือก สว.โดย นายไชยชนก บอกกับผู้สื่อข่าวว่า จะไม่ถามเรื่องชายแดน เรื่องน้ำท่วมที่ประชาชนกำลังเดือดร้อน ไม่สนเลยหรือ
ผู้สื่อขาวจึงสอบถามถามถึงปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชา ก่อนที่ นายไชยชนก จะกล่าวว่า ทุกคนกำลังทำเต็มที่ และประชาชนก็สนับสนุนเต็มที่ ในเรื่องฝ่ายบริหารที่ไปเจรจามา ไปในทิศทางที่ดี ตอนนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดี และสำคัญกว่าเรื่องที่ผู้สื่อข่าวกำลังจะถาม
เมื่อถามถึงการเข้าไปชี้แจงกับ กกต. นายไชยชนก กล่าวว่า ทุกคนก็รู้ว่าตนไม่ชอบให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ไม่ใช่ว่าตนกลัวผู้สื่อข่าว หรือสัมภาษณ์ไม่ได้ แต่เป็นเพราะผู้สื่อข่าวชอบบิดเบือน เพราะฉะนั้นขอให้ทำข้อตกลงกัน หากตนตอบคำถามผู้สื่อข่าว หลังจากนี้ขอให้ช่วยสื่อสารข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับประชาชน
เมื่อถามย้ำว่า จะไปชี้แจงด้วยตัวเองหรือไม่ นายไชยชนก กล่าวว่า ตนได้รับหมายเรียกจาก กกต.แล้ว ซึ่งตนเป็นผู้ลงชื่อรับให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย , นายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ด้วย ส่วนการชี้แจงนั้น ตนจะไปด้วยตัวเอง และขอให้ปล่อยเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
เมื่อถามถึงข้อกล่าวหาที่มีการระบุในหนังสือ นายไชยชนก กล่าวว่า ขอให้ฝ่ายกฎหมาย เป็นผู้ที่ชี้แจง แต่เท่าที่ตนดูทุกคนที่ถูกกล่าวหา เหมือนกับเป็นการก๊อปปี้กันมา ไม่ค่อยเจาะจงเป็นไปตาม คำกล่าวหาปกติของคดีสักเท่าไหร่ เจตนาค่อนข้างชัดเจน ส่วนที่มีการกล่าวหาว่า มีเส้นเงินไปเชื่อมโยงถึง 400 ล้าน ตนชี้แจงบัญชีทรัพย์สินยังไม่ถึงเลย ขณะเดียวกันช่วงที่มีการเลือกตั้ง สว.ตนก็ไม่ได้อยู่ในไทยด้วยซ้ำ ขณะนั้นเดินทางไปต่างประเทศกับคณะกรรมาธิการเพื่อดูงานเรื่องระบบเทคโนโลยี เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นมีความไม่จริงเยอะ แต่ตนนั้นอยากให้เป็นไปตามกระบวนการ
เมื่อถามถึงกรณีที่นายเนวิน เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูก กกต.ออกหมายเรียกเข้าไปชี้แจงเช่นกัน นายไชยชนก กล่าวว่า ไม่มีอะไรต้องคุยเลย ตนไม่มีส่วนร่วมแน่ๆ ที่ส่งผลให้การเลือกตั้ง สว.ออกมาเป็นแบบนั้น ตนขอถามว่า เราอยู่ในสังคมแบบไหน ทุกวันนี้พวกตนทำเต็มที่สุดความสามารถ และมั่นใจในกรรมการบริหารพรรค หัวหน้าพรรคได้ประกาศไปแล้วว่า อย่าให้มีใครมายุ่งกับการเลือกตั้ง สว.ซึ่งตนเองก็มีส่วนสำคัญในการทำประกาศฉบับดังกล่าวออกมา
นายไชยชนก กล่าวยืนยันด้วยว่า ตนเป็นคนที่ไม่เคยทำอะไรนอกเหนือกฎหมาย ตนเคยใช้สิทธิพิเศษเพียงครั้งเดียวคือตอนไปเป็นทหาร ขอไปอยู่ชายแดน 6 เดือน และตอนที่ตนบวชเกือบจะไม่สึกเลย และวันนี้ตนก็ทำทุกอย่างที่ตนทำได้ ให้กับประชาชน แม้สถานการณ์ที่โดนบิดเบือน โดนโจมตี แม้สถานการณ์บ้านเราตอนนี้วิกฤต เศรษฐกิจก็จะแย่ลง เพราะสถานการณ์โลกไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภัยพิบัติ สงครามทั่วโลก ประชาชนจะได้รับผลกระทบ วันนี้มีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่า ที่เราทุกคนควรจะช่วยกัน นำเสนอ
"อย่าโกรธผมนะ ที่ผ่านมาถึงแม้จะบิดเบือนข้อมูลที่ผมสื่อสารเยอะ แต่ผมเห็นทุกสำนักข่าว ตั้งแต่ผมอภิปราย นำเสนอเรื่องของภัยธรรมชาติมากขึ้น สื่อสารเรื่องของสถานการณ์โลกมากขึ้น ทั้งเรื่องของสงครามและเรื่องอื่นๆ อันนั้นไม่ว่าจะรักผมเกลียดผม หรืออยากจะสร้างประเด็นอะไร แต่ข้อมูลเหล่านี้เป็นประโยชน์กับประชาชนจริงๆ ทำให้เขาได้ตื่นตัว สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะฝากถึง พี่ๆ นักข่าว ผมรู้สึกว่า ไม่รู้ว่าพวกพี่รู้ตัวหรือเปล่า ผมว่าสื่อมวลชน มีส่วนสำคัญ ในการกำหนดทิศทางของประเทศ สำคัญไม่น้อยกว่ารัฐบาล สิ่งที่พี่ๆสื่อสารไป ไม่ใช่แค่เพียงเยาวชน แต่คนในทุกเพศทุกวัย ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่มีสติปัญญา แต่เขาไม่มีเวลาที่จะต้องหาข้อมูลให้ครบรอบด้าน หากพี่สื่อสารในสิ่งที่ยุแยงสร้างความแตกแยก สังคมเราก็จะไปในทิศทางนั้น และวันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องเผชิญ ต้องสามัคคีกัน ไม่งั้นหนักขอให้ช่วยกันหน่อย ผมจะทำให้เต็มที่" นายไชยชนก กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี