‘ตัวแม่พันธุ์ใหม่’ไม่สนการเมืองร้อน เปิดแคมเปญตีฆ้องคิกออฟโมงยามแห่งการจัดทำ‘รัฐธรรมนูญ’ใหม่ ถือฤกษ์ครบรอบ 180 วัน‘พ.ร.บ.ประชามติ’ถูกดอง วอนสภาเร่งโหวตตั้งแต่เปิดสมัยสามัญ เพื่อยืนยันมติเดิม พร้อมประกาศใช้ บอกลองวัดใจกันดู หากเอา‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ’เข้าก่อน จะเอาฆ้องไปตีให้ได้ยิน ชี้ถ้าดึงดันไม่แก้ รัฐบาลจะตกหลุมดำของรัฐธรรมนูญเอง
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ในฐานะโฆษกคณะอนุกรรมาธิการ(อนุ กมธ.)การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา แถลงคิกออฟแคมเปญ 'โมงยามแห่งการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่' ซึ่งมีการตีฆ้องก่อน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการเริ่มต้นแก้รัฐธรรมนูญ
น.ส.นันทนา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18ธ.ค.2567 เป็นวันที่สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติ เพื่อที่จะไม่เห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ กรณีเสียงข้างมากสองชั้นที่วุฒิสภาเสนอมา จึงต้องยับยั้งร่าง พ.ร.บ.ประชามติไว้เป็นเวลา 180 วัน เพื่อที่จะนำกลับมาลงมติใหม่ หากสภาผู้แทนราษฎรยืนยันร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ก็จะกลับไปเป็นเสียงข้างมากชั้นเดียว ซึ่งสามารถประกาศใช้เป็นกฎหมายได้เลย ฤกษ์งามยามดี วันที่ 18 มิถุนายนนี้ เป็นวันครบรอบ 180 วัน ของการยับยั้งร่าง พ.ร.บ.ประชามติ จึงถือว่าเป็นวันปลดปล่อยกฎหมายประชามติ ซึ่งมีประชาชนมากมาย ถามว่า แล้วจะแก้รัฐธรรมนูญกี่โมง นี่จึงคือโมงยามแห่งการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ วันนี้ที่รอคอย โดยเราจะทำเป็นแคมเปญ และแบ่งเป็นซีรีส์ สำหรับสาเหตุที่ต้องเร่งให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีจุดบกพร่องมากมาย ไม่ได้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงอย่างที่โอ้อวดกันไว้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้มา 8 ปี แต่ดัชนีคอร์รัปชั่นประเทศไทยสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่เคยลด
"รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เหมือนเรือที่มีรูรั่วมากมาย ในที่สุดเรือลำนี้จะจม และจะพาเราทั้งหมดจมไปด้วย นั่นคือความเสี่ยงที่จะนำไปสู่รัฐล้มเหลวในที่สุด" น.ส.นันทนา กล่าว
น.ส.นันทนา กล่าวต่อว่า มาตราที่เป็นปัญหาชัดเจนที่สุด คือที่มาของ สว.ซึ่งระบุในรัฐธรรมนูญ ให้มาจากกลุ่มอาชีพ 20 กลุ่ม จ่ายเงิน 2,500 บาท มาเลือกกันเอง ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน แต่อำนาจล้นฟ้า สามารถเห็นชอบองค์กรอิสระทั้งหมดได้ ยับยั้งการแก้รัฐธรรมนูญได้ ด้วยช่องโหว่ของกฎหมาย กติกาเช่นนี้ เราจึงได้เห็นกระบวนการฮั้วพากันเข้ามากลุ่มใหญ่ถึง 140 คน เป็นเรื่องใหญ่ที่จะทำให้กระบวนการนิติบัญญัติบิดเบี้ยวไป หากเราไม่รีบแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างกติกาใหม่ในการเลือก สว.
นอกจากนี้กรณีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่มนั้น คืออนุสรณ์สถานแห่งการทุจริตที่รัฐธรรมนูญป้องกันไม่ได้เลย เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่มีมาตราไหน ให้ประชาชนเช้าชื่อถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องใช้วิธีการแจ้งความ ดำเนินคดีกันเอง
น.ส.นันทนา กล่าวว่า ขณะที่อำนาจองค์กรอิสระ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เขียนขอบเขตอำนาจไว้กว้างขวาง จากคำวินิจฉัยที่ผูกพันทุกองค์กร แต่ไม่มีการเชื่อมโยงกับประชาชน การที่ประชาชนไม่ได้มีอำนาจเลือกองค์กรอิสระ ก็ทำให้คนที่เลือกเข้ามากำหนด สิ่งที่เรียกว่า ต่างตอบแทนได้ ซึ่งตรงนี้ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการเลย ถ้าเราไม่อยากให้เกิดนิติสงคราม จากองค์กรอิสระ ก็ต้องรีบแก้รัฐธรรมนูญ ดังนั้น นี่คือตัวอย่างในรัฐธรรมนูญที่เราต้องเร่งสร้างเรือกันใหม่ คงอุดรูรั่วกันไม่ทัน คณะอนุกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ จึงจะจัดทำเป็นซีรี่ย์การแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อเสนอข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญ พร้อมแนวทางการแก้ไข ให้สอดคล้องกับสังคมไทย จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกคน ให้เข้ามาร่วมแคมเปญการแก้รัฐธรรมนูญกับเรา ด้วยการเสนอความคิดเห็นของท่านเข้ามา เรายินดีที่จะรับฟัง และต้องการให้ประชาชนทุกคน มีส่วนร่วมในกระบวนการที่จะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเริ่มต้น ณ บัดนี้
ส่วนรายละเอียดแคมเปญนั้น คณะอนุกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ จะเริ่มการประชุมนัดแรกในวันนี้ เพื่อศึกษาค้นคว้าวิจัย ในจุดบกพร่องรัฐธรรมนูญ และอธิบายให้ประชาชนทราบทีละข้อ รวมถึงที่มา สว.ที่ไม่ปกติ วิปริต ทำให้สามารถแฮกระบบเข้ามา มีการกำหนดจากภายนอกเข้ามาได้
เมื่อถามถึงกรณีที่มีคนบอกว่าจะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม ในเมื่อปัญหาปากท้องยังคงอยู่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า แต่ปากท้องคือเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งเศรษฐกิจจะดีได้ การเมืองต้องดีด้วย จึงจะนำไปสู่การที่มีผู้บริหารหรือรัฐบาลที่ดี เมื่อเรามีรัฐบาลที่ดี เศรษฐกิจจะดี เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกัน เราจึงเสนอแนวทาง ในการแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้
เมื่อถามถึงไทม์ไลน์ที่กว่าจะมีการประกาศใช้ จะยังทันสภาสมัยนี้หรือไม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่จะต้องเร่งพอสมควร เพราะอย่างไรก็ตาม ในวันที่3ก.ค.นี้ จะมีการเปิดสมัยประชุมสามัญแล้ว หากสภาผู้แทนราษฎร โดยประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุระเบียบวาระ พ.ร.บ.ประชามติ เข้าทันทีตั้งแต่ครั้งแรกในการประชุมสภาฯ และมีการลงมติเสียงข้างมากเลย หลังจากนั้น จะสามารถประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เพื่อใช้ได้เลย และขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ต้องการจัดทำระเบียบกฎเกณฑ์ที่สอดคล้องกับการทำประชามตินั้น
เมื่อถามถึงเรื่องที่จะต้องรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญนั้น น.ส.นันทนา กล่าวว่า เราสามารถเริ่มกระบวนการได้เลย ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยว่า ให้ทำ 2 ครั้ง แต่หากศาลรัฐธรรมนูญจะให้ทำ 3 ครั้ง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ก็ทำเพิ่มอีกครั้งหนึ่ง ทำได้เลย และต้องเร็ว เพราะดูเหมือนจะมีการยุบสภาในต้นปีหน้า หากเป็นเช่นนั้นอาจจะไม่ทันกับการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ถ้ากระบวนการเริ่มขึ้นแล้ว ก็เดินต่อได้ เว้นแต่จะมีการทำรัฐประหาร ซึ่งเชื่อว่าทหารไม่ทำ และขอร้องว่าอย่าทำ เพราะนั่นคือการทำร้ายประเทศชาติและเศรษฐกิจ
เมื่อถามว่า อยากฝากถึงพรรคร่วมรัฐบาล ที่อาจไม่เห็นด้วยหรือไม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า การที่พรรคการเมืองบอกว่า ไม่เร่งรีบไม่จำเป็น แต่อย่างที่ตนเคยบอกไปแล้วว่า จะต้องเริ่มต้นจากกติกาที่ดี เราจึงต้องได้ผู้บริหารที่ดี รัฐบาลที่ดี และจะมีเศรษฐกิจที่ดี เพราะฉะนั้น พรรคการเมืองทุกพรรค ไม่ว่าจะค้านหรือรัฐบาล ก็ต้องมาร่วมกันในการปลดล็อกจุดแรกของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในการร่วมลงมติ พ.ร.บ.ประชามติ ซึ่งจะสามารถปลดล็อกสอง ล็อกสาม ต่อไปได้ ขอย้ำว่า ต้องจับมือกันผ่าน พ.ร.บ.ประชามติ เพื่อเริ่มต้นการแก้รัฐธรรมนูญ
เมื่อถามถึงการแย่งเก้าอี้คณะรัฐมนตรี ระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย จะส่งผลต่อการลงมติหรือไม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า อาจเป็นเกมการเมือง ถ้าพรรคการเมืองบางพรรคเปลี่ยนสถานะจากรัฐบาลไปเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งก็มีการเคลื่อนขยับ อย่างไรก็ตาม ตนขอเตือนสติบรรดานักการเมือง และพรรคการเมืองทุกพรรคว่า อยากให้ท่าน เห็นแก่ผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่ผลประโยชน์ส่วนตน หรือส่วนพรรคของท่าน เพราะประชาชนรออยู่ และรอกติกาที่ดี เพราะฉะนั้น จุดเริ่มต้นที่ท่านจะแสดงให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ว่า ท่านทำเพื่อประชาชน คือต้องมาช่วยกันลงมติเห็นชอบ และเดินหน้ากันต่อ
เมื่อถามถึงกระแสข่าวกรณีที่รัฐบาล จะเสนอร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจริง (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) สู่สภาเป็นวาระแรก หลังเปิดสมัยประชุมสภา น.ส.นันทนา กล่าวว่า ก็วัดใจกันดูว่า เขาจะให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด ตนจะขอเอาฆ้องไปตีให้เขาได้ยินว่า ตอนนี้เป็นโมงยามแห่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐบาลน่าจะเห็นพิษของรัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้วว่า ร้ายกาจมาก หากดึงดันที่จะไม่แก้ รัฐบาลจะตกหลุมดำของรัฐธรรมนูญ //-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี