เสียเหลี่ยม"กัมพูชา" "จตุพร"ชี้กึ๋น"อิ๊งค์"คนละชั้นกับ"พ่อ-ลูกตระกูลฮุน" ย้ำต้องลาออกเซ่นคลิปหลุดเรียก"มทภ.2"ฝ่ายตรงข้าม
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ให้สัมภาษณ์กับช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” กรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ซึ่งมีช่วงหนึ่งที่ น.ส.แพทองธาร พาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) โดยบอกว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม ว่า ที่มาที่ไปของการเผยแพร่คลิปนี้ ฮุน เซน เป็นผู้สื่อสารก่อนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2568 ตนได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกฯ ของไทยเป็นเวลา 17.06 นาที
โดยการสนทนาครั้งนี้มีการใช้ล่ามแปล ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดหรือการบิดเบือน จึงจำเป็นต้องบันทึกเสียงไว้เพื่อความโปร่งใส รวมถึงใช้เป็นข้อมูลภายในของทางกัมพูชา จากนั้น ฮุน เซน เปิดเผยว่า ตนได้เผยแพร่คลิปเสียงดังกล่าวให้กับบุคคลภายใน 80 คน ซึ่งรวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา ทีมสภาแห่งชาติ คณะทำงานด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการสื่อสาร กลุ่มงานชายแดนและสมาชิกกองทัพ ซึ่งในนั้นอาจมีบางคนไม่เห็นด้วยกับนายกฯ ของไทย
ในคำแถลงของ ฮุน เซน ยังกล่าวด้วยว่า ไม่กี่ชั่วโมงหลังการสนทนา ผู้นำไทยได้ออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาต่อสาธารณะ บอกว่าดำเนินการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพและเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งถือว่าขัดแย้งกับสิ่งที่พวกเขาพูดไว้ และตนเห็นว่าในเบื้องต้นคลิปที่ถูกเผยแพร่ออกมามีเพียงประมาณ 9 นาที จึงบอกว่าหากฝ่ายไทยต้องการคลิปเต็มความยาว 17.06 นาที ตนก็พร้อมจะเปิดเผยโดยไม่มีการตัดต่อใดๆ
“เคยมีไหม? ตั้งแต่ประเทศไทยตั้งมา นายกรัฐมนตรีพูดกับผู้นำทางจิตวิญญาณสูงสุดของกัมพูชา ว่าแม่ทัพที่ไปรบกับทางกัมพูชานั้นเป็นฝ่ายตรงข้ามกับตัวนายกรัฐมนตรี ผมว่าอันนี้ความเสียหาย มันอยู่ไม่ได้ ตัวผมเองต่อให้ยอมรับ อธิบายเทคนิคอะไรก็แล้วแต่ เทคนิคแบบนี้ไม่มีใครเคยใช้ ถามว่ามีใครเคยใช้บ้าง? เอาทั้งโลกเลยก็ได้” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวต่อไปว่า ในการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ( JBC) ฝ่ายไทยก็ยังไปประชุมทั้งที่มีเสียงทักท้วงเพราะกัมพูชาเขายืนยันเรื่อง 3 ปราสาท คือตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย รวมถึงพื้นที่ช่องบก จะนำเข้าไปให้ศาลโลกพิจารณา นอกจากนั้นบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) ทั้งของปี 2543 และ 2544 ก็ไม่สามารถปฏิบัติได้มาเป็นร้อยครั้ง คำถามคือแล้วจะมีไว้ทำไม และเมื่อประชุมเสร็จก็ไม่มีการแถลง กระทั่งมาตอบทางเฟซบุ๊กในช่วงกลางคืน ซึ่งระหว่างนั้นนายกฯ ไทยก็ไปคุยกับฮุน เซน ผู้นำจิตวิญญาณของกัมพูชา
ซึ่งหลังจากที่คุยกัน แล้วตามด้วย น.ส.แพทองธาร เรียกประชุมที่บ้านพิษณุโลก ฮุน เซน ก็มีความรู้สึกว่าคนระดับตนไปถูกคนรุ่นนี้ลบเหลี่ยมได้อย่างไร เนื่องจากหากดูลักษณะการพูดคุย น.ส.แพทองธาร มีท่าทีเอาอกเอาใจ ฮุน เซน แต่เมื่อเปิดแถลงข่าวก็มีท่าทีอีกแบบหนึ่ง จึงทำให้ฮุน เซน ตอบโต้ และจริงๆ ก็มีท่าทีมาตามลำดับ โดยเริ่มจากให้ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สื่อสารผ่านเฟซบุ๊กนำมาก่อนว่านายกฯ ไทยไปกล่าวหาเขา และเจอของจริงโดย ฮุน เซน ซึ่งได้อธิบายเหตุผลของการบันทึกเสียงสนทนาไว้ด้วย
และยิ่ง น.ส.แพทองธาร พรวดพราดออกมาแถลง ยอมรับว่าเป็นเทคนิคก็ยิ่งหนักไปใหญ่ รวมถึงยังมีความเคลื่อนไหวจาก ฮุน มานี รองนายกฯ กัมพูชา ระดมชาวกัมพูชาหลักแสนคนออกมาเดินขบวนแสดงจุดยืนปกป้องอธิปไตย อนึ่ง เมื่อสังเกตความพยายามทำหน้าที่ตั้งแต่เกิดเหตุปะทะที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี จะเห็น น.ส.แพทองธาร ลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ไปดูเรื่องภัยแล้ง ขณะที่กระทรวงการคลังยังทำเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์
แต่ต่อมาพอ น.ส.แพทองธาร ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ก็ไม่ได้ทำการบ้านอีก ออกอาการเรื่องการเปิด – ปิดด่าน ซึ่งทางแม่ทัพภาคที่ 2 พยายามใช้มธุรสวาจา ตามด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ต้องออกมาย้ำว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนเวลาเปิด – ปิด เพราะยังชักเย่อหรือกำลังสู้กันอยู่ แต่นายกฯ พอฟังเสียงและท่วงทำนองแบบนี้คือมีพิรุธเรียงมาตามลำดับให้เห็นเลยว่าใจอยู่ข้างไหน
“ฮุน มาเนต พ่อเขาฝึก ผมรู้จักทั้งพ่อทั้งลูก ส่งไปเรียนนายร้อยเวสต์พอยต์ ขณะเดียวกันก็เรียนรู้แทบทุกด้าน บรรดาคนที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับพ่อ เพื่อได้ซึมซับถึงความยากลำบาก ฮุน เซน เสียตาไปข้างหนึ่ง ถูกขัง เขาเล่าให้ผมฟังว่า ฮุน มาเนต กว่าจะเรียกเขาพ่อต้องห่างกัน ต้องใช้ระยะเวลา จนกระทั่งให้ฮุน มาเนต เป็นผู้บัญชาการทหารบกก่อนแล้วจึงให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยพ่อค้ำให้ในฐานะประธานวุฒิสภา” นายจตุพร ระบุ
นายจตุพร ยังกล่าวอีกว่า ลองดูทางฝั่งไทย น.ส.แพทองธาร เรียนคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ตั้งแต่ต้น ก่อนจะไปเรียนต่อจนจบเรื่องการโรงแรม ซึ่งการเจรจาความ แม้จะเป็นกับฮุน มาเนต ก็หนักอยู่แล้ว แต่นี่คือฮุน เซน ที่เป็นนายกฯ มาร่วม 40 ปี เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศตั้งแต่อายุ 27 ปี ผ่านสงครามล้างเผ่าพันธุ์ ผ่านช่วงเขมร 3 ฝ่ายมาแล้ว
และต้องไปลืมข้อเท็จจริงว่าการที่แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่าอยู่ตรงนี้มานานแล้วถ้าบุกมาก็รบกัน ก็เท่านั้นเอง เป็นการแสดงจุดยืนความรักชาติ แต่ น.ส.แพทองธาร ไปบอกว่าพูดเอาเท่ บอกว่าอยู่ตรงกันข้ามอย่าไปถือสา ตนมองว่าการที่ น.ส.แพทองธาร มาชี้แจงก็ถือว่าจบแล้ว ซึ่งจริงๆ เรื่องนี้ใหญ่มาก ควรต้องเรียบเรียงคำชี้แจงเป็นเอกสาร (Speech) ไม่ใช่พรวดพราดชี้แจง และคนที่ยืนรอบข้างนายกฯ ก็ควรรู้ว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ และมีทางเดียวคือ น.ส.แพทองธาร ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก จะยอมรับความผิดพลาด อ้างว่าไม่ตั้งใจอะไรก็ว่าไป
“ก่อนหน้านี้ท่วงทำนองของแม่ทัพภาคที่ 2 พูดง่ายๆ คนยกย่องเรื่องความรักชาติรักแผ่นดินแล้วก็เป็นแบบอย่าง ทีนี้พอไปพูดกับฮุน เซน บอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นตรงกันข้าม แม้จะมาแถลงอ้างว่าตรงกันข้ามกับกัมพูชา แต่ถามว่าคนฟังใครเชื่ออย่างนั้นไหม? ภาษามันอธิบาย ทั้งหมดนั้นมันคนละเรื่องที่คุณมาชี้แจง เรื่องมาถึงระดับนี้ความจริงต้องยอมรับผิดสถานเดียวแล้วก็รับผิดชอบด้วยการลาออก” นายจตุพร กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี