‘ปชน.’ลั่นหากมี‘ยุบสภา’ปุ๊บ พร้อมเลือกตั้งทันที รอจับตาบรรดา‘พรรคร่วมรัฐบาล’พาเหรดจับเข่าถกสถานการณ์การเมืองร้อน รัฐบาลสั่นคลอน เมินใช้‘นิติสงคราม’ทำลายฝั่งตรงข้าม ใครจะร้องก็ทำไป แนะใช้เวทีเจรจา 2 ประเทศเคลียร์ปมฉาวคลิปเสียงหลุด
19 มิ.ย.2568 เวลา 09.20 น. ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน )ปชน.)ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า หากวันนี้มีการประกาศยุบสภา เราพร้อมเลือกตั้งทันทีตอนนี้ โครงสร้างต่าง ๆ เรามีความพร้อมเต็มที่ รวมถึงนโยบายที่เราได้ทำงานสะสมมาหลายปี กฎหมายอีกหลายชุด ที่ตนเชื่อมั่นเป็นอย่างมากว่าถ้าเราได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ภายใต้การประชุมสภาสมัยแรก เราพร้อมจะผลักดันกฎหมายทุกฉบับ
เมื่อถามว่าประเมินว่ายุบสภาดีกว่าการลาออกแล้วใช้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเดิมอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อยากให้ประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ว่าท่านจะออกมาเรียกร้องใช้กลไก วิธีการใดต่อนายกรัฐมนตรี ตนก็อยากให้ตั้งคำถามกับตัวเองว่าท่านกำลังต้องการอะไร ตนเชื่อว่าทุกตนต้องการรัฐบาลที่แก้ไขปัญหาให้กับประเทศได้ รัฐบาลที่มีความชอบธรรม ที่สามารถสร้างสรรค์ทางมิติใหม่ให้กับประชาชนคนไทยได้ ดังนั้น กลไกการปฏิวัติรัฐประหาร ไม่ใช่ทางออกแน่นอน เพราะไม่ได้เป็นไปตามกลไกของระบอบประชาธิปไตย ขณะเดียวกันบริบททางการในเมือง เสียงสภา รวมถึงแคนดิเดตนายกที่มีอยู่หัก หากกางออกมาดูทั้งหมด จะเห็นว่าอาจมีหลายส่วนที่ต้องตั้งคำถาม ดังนั้น สิ่งที่เป็นทางออกให้กับประเทศจริง ๆ คือการยุบสภา เปิดโอกาสให้ทุกพรรคนำเสนอนโยบายของตัวเอง เปิดโอกาสให้ประชาชนได้ออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงของเขา ซึ่งเป็นอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจเลือกรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่าประเมินฉากทัศน์ระหว่างนี้จนถึงสถานการณ์คลี่คลายจะเป็นไปในทิศทางใด นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นไปได้หลายรูปแบบ วันนี้ต้องรอการประชุมจากพรรคร่วมรัฐบาลอีกหลายพรรค ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าหรือตัดสินใจแทนเขาได้ แต่ตนอยากส่งข้อเรียกร้องให้อย่างทุกพรรคการเมือง หน้าที่ของท่านคือการบริหารนโยบายตามที่ได้หาเสียงไว้ ในเมื่อพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่มั่นว่าอำนาจต่อสุดเป็นของประชาชน แต่ภายใต้รัฐบาลที่เป็นอยู่ ไม่สามารถหาทางออกให้กับประเทศได้ ทางออกเดียวคือการยุบสภา
เมื่อถามว่าการยุบสภา จะไปเข้าทางกัมพูชาหรือไม่ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า กลไกตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน รัฐบาลรักษาการมีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินระดับหนึ่ง อาจจะมีเพียงเงื่อนไขบางอย่าง เช่น ไม่สามารถตั้งงบประมาณผูกพันไปยังคณะรัฐมนตรีชุดหน้าได้ ดังนั้น ถึงแม้จะมีการยุบสภาแล้ว แต่รัฐบาลรักษาการ ก็ยังสามารถใช้กลไกในระบบราชการปัจจุบัน แก้ไขปัญหาระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นได้อยู่ ไม่ใช่ว่าการยุบสภาจะทำให้การเกิดสุญญากาศแต่อย่างใด สิ่งที่ทำให้เกิดสุญญากาศคือการขาดความเชื่อมั่นของประชาชนและภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่าคลิปเสียงที่ปรากฏระหว่างนายกฯ กับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา จะขัดจริยธรรมหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เราทราบว่าจะมีทั้งผู้ร้องที่น่าจะเข้าไปร้องเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่จุดยืนของตน และพรรคประชาชนเรายังมีจุดยืนที่ไม่อยากใช้กลไกใดๆ ที่เป็นกลไกฝั่งตรงข้าม ใช้นิติสงครามทำลายล้างพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ดังนั้น ตนคิดว่าใครจะยื่นร้องอย่างไร ก็ไปตามกระบวนการที่เขามีช่องทางดู พรรคประชาชนอย่างเราเรียกร้องอย่างเดียว คือการยุบสภา
เมื่อถามว่าหากยุบสภาไปแล้ว จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย กับการเลือกตั้งปี 2557 ที่ทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า บริบทในตอนนี้กับตอนนั้นต่างกัน สำหรับพรรคประชาชนในตอนนี้ เราไม่มีทางที่จะคัดค้านการเลือกตั้งแน่นอน ดังนั้นถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการประกาศยุบสภามา เราคงไม่ได้เห็นการแสดงออกของพรรคประชาชนแน่นอน และยืนยันจะเดินหน้ามุ่งสู่การเลือกตั้งนำเสนอนโยบายต่อพี่น้องประชาชนให้มากที่สุดและเดินหน้ากระบวนการในการตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีความชอบธรรมสูงให้เกิดขึ้นเร็ว ๆ มากกว่า
เมื่อถามถึงร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาจะมีผลหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนนี้อาจจะมีผลอยู่บ้าง แต่หากตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หากสภาไม่สามารถผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณได้ ก็ใช้งบประมาณของเก่าไปก่อน ซึ่งคิดว่าการยุบสภา ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรเลย
เมื่อถามว่า เรื่องคลิปเสียงหลุดของนายกฯกับสมเด็จฮุนเซน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ควรจะออกมาพูดอะไรหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า วิธีทางการทูตมีทั้งในระบบและนอกระบบ ไม่ได้เห็นค้านว่าเราจะต้องใช้ทุกช่องทางในการสร้างประโยชน์หรือหาทางออกให้กับประเทศ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคลิปเสียงที่หลุดออกมาที่เห็นว่าตัวนายกรัฐมนตรี พยายามใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว โดยมีการสื่อสารบางอย่างที่อาจจะเป็นปัญหา เช่น การสื่อสารบอกว่ารัฐบาลอยู่ตรงข้ามกับกองทัพ ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีก็สื่อสารมาโดยตลอดว่าเป็นเนื้อเดียวกับกองทัพไปตลอด ซึ่งการสื่อสารแบบนี้โดยอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัว เป็นปัญหามากกว่า รวมถึงความสัมพันธ์อื่น ๆ ที่นายทักษิณ ดำเนินการ ดังนั้น สิ่งจำเป็นตอนนี้คือการใช้เวทีระหว่างสองประเทศในการเจรจา และจากที่คลิปเสียงหลุดออกมา สิ่งที่เราอยากจะเห็นมากที่สุดจากการสื่อสารของนายกรัฐมนตรี คือการโน้มน้าวให้กัมพูชาใช้เวทีระหว่างประเทศมาพูดคุยกัน
“หน้าที่ของกองทัพคือหน้าที่ในการปกป้องประเทศ และการสื่อสารใด ๆ ที่เป็นการสื่อสารทางการเมืองหรือกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาล และกองทัพมีหน้าที่ในการทำตามคำสั่งภายใต้รัฐบาลพลเรือน ดังนั้น หากจะให้ส่งข้อเรียกร้องไปยังทางกองทัพต่างๆ ผมก็ไม่คิดว่าในภาพรวมส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ อาจจะมีบางส่วน ที่หากมีการสื่อสารออกมาและพยายามใช้กระแสในปัจจุบันเพื่อนำไปสู่บางอย่าง เช่น กระบวนการที่จะได้รัฐบาลใหม่ที่ไม่เป็นไปตามกลไกประชาธิปไตยก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น และไม่อยากให้การสื่อสารออกมาจากกองทัพแบบนี้” ผู้นำฝ่ายค้านฯ ระบุ
นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่จะต้องจับตาจากนี้ ต้องดูการประชุมของพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคในวันนี้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร หากพรรคเพื่อไทยสามารถคุมเสียงข้างมากได้อยู่ สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอนคือความเชื่อมั่นศรัทธาของพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่เสื่อมลงเรื่อยๆ และพรรคประชาชน ก็พร้อม ที่จะใช้กลไกทุกอย่าง อย่างเช่น การลงมติในทุกเวทีเพื่อที่จะกดดันให้นายกรัฐมนตรียุบสภาโดยเร็ว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี