‘พีระพันธุ์’มุดจันทร์ส่องหล้าคุย‘แม้ว’
ขอโควตารมต.เพิ่ม
หลังรทสช.ขึ้นแท่นพรรคร่วมอันดับ2
รอฟังผล-ถกกก.บห.สัปดาห์หน้า
‘ภูมิธรรม’ลั่นเดินหน้าต่อไปได้
เชื่อมั่นพรรคร่วมรบ.เดิมยังหนุน
“พีระพันธุ์” ย่องเข้า “บ้านจันทร์ส่องหล้า” กลางดึก หารือ “ทักษิณ” เปลี่ยนตัวนายกฯขอเกลี่ยโควตาเก้าอี้รมต.เพิ่ม หลัง รทสช.ขึ้นแท่น พรรคร่วมอันดับ 2 รอแจ้งผลกลับ ก่อนเรียกประชุมกก.บห.สัปดาห์หน้า กลุ่ม 18 สส.รทสช.ไม่ยอมรับมติกก.บห. อยากไปต่อ ยันหนุน’แพทองธาร’ตามเดิม ชี้’ชัยเกษม’ติดข้อจำกัดสุขภาพ รู้ทันหวังเข้าทาง’พีระพันธุ์’ส้มหล่นนั่งนายกฯ‘ ด้าน’ปชป.’ออกฉันทามติร่วมหนุนรัฐบาล ‘ภูมิธรรม’มั่นใจพรรคร่วมหนุนไปต่อ ไม่ได้ยิน‘รทสช.’ขอเปลี่ยนนายกฯ ภท.ยันเป็นฝ่ายค้านไม่แข่งตั้งรัฐบาล ‘วิสุทธิ์’รอ1-2เดือน ค่อยเลือกรองปธ.สภาฯ เหตุรอเคลียร์เก้าอี้ ครม.ปัดโควตาพรรคร่วมอับดับสอง รับสภาพเสียงข้างมากปริ่มน้ำ เสียงแข็งสส.ต้องมาประชุมทุกนัด
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า ภายหลังประชุมพรรคเสร็จสิ้น เมื่อช่วงค่ำวานนี้(19 มิ.ย.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช.ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆว่า จะนำมติของที่ประชุมพรรคไปพูดคุยกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก่อน ปรากฏมีรายงานข่าวว่า นาย พีระพันธุ์ ได้เดินทางต่อไปยังบ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งเป็นบ้านพัก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังเดินทางออกจากพรรคเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ซึ่งคาดว่าเป็นการหารือให้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีจาก น.ส.แพทองธาร เป็น นายชัยเกษม นิติศิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีก คนหนึ่งของพรรคเพื่อไทย (พท.)
กลุ่ม18สส. ไม่ยอมรับมติ“กก.บห.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) รวมไทยสร้างชาติ เมื่อวานนี้ (19มิ.ย.) ซึ่งมีเฉพาะบุคคลใกล้ชิด นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค โดยไม่มีการเชิญบุคคลใน กลุ่ม18 สส.นำโดย นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค และรมช.พาณิชย์ เพื่อหารือถึงท่าทีในการร่วมรัฐบาล หลังเกิดกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน จนเกิดเสียงวิพากย์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมอย่างรุนแรง โดยที่ประชุมมีมติให้นายพีระพันธุ์ ไปหารือกับนายกฯ เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งรวมไทยสร้างชาติ ยอมรับได้หากมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ ไปเป็นนายชัยเกษม นิติศิริแคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีของพรรคเพื่อไทย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ขณะที่ท่าทีของกลุ่ม18สส.นั้น ยังยืนยันพร้อมสนับสนุน น.ส.แพทองธาร ต่อไป โดยปฏิเสธการยอมรับมติกก.บห.ที่มีเฉพาะคนของ นายพีระพันธุ์และมองว่า การแถลงของนายกฯ เมื่อวานนี้ พร้อม ผบ.เหล่าทัพ ชี้แจงไปหมดทุกประเด็นแล้ว รัฐบาลและกองทัพ มีความเป็นเอกภาพ พร้อมรับมือภัยคุกคามของชาติและรักษาอธิปไตย จึงไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องลาออก พอไม่มีพรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาล มติกก.บห.รวมไทยสร้างชาติ ที่ต้องการให้เปลี่ยนตัวนายกฯเป็น นายชัยเกษม ใครก็รู้ว่าติดข้อจำกัดเรื่องสุขภาพ รทสช.สาย นายพีระพันธุ์ คงมองว่า เป็นโอกาสที่หัวหน้ามีความเหมาะสมขึ้นนายกฯแทน
คุย’แม้ว’เกลี่ยโควตาเก้าอี้รมต.เพิ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุม กก.บห.เมื่อค่ำวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายพีระพันธุ์ ได้เดินทางเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อนำมติพรรคไปแจ้ง นายทักษิณ ให้รับทราบ ขณะเดียวกัน นายพีระพันธุ์ ยังได้พูดคุยกับ นายทักษิณ ถึงเก้าอี้รัฐมนตรี เนื่องจากขณะนี้พรรค รทสช.เป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับ2 จะต้องมีการปรับเพิ่มโควตาเก้าอี้รัฐมนตรี หากมีความชัดเจนแล้วและมีการแจ้งผลกลับมา จากนั้น นายพีระพันธุ์ จะเรียกประชุม กก.บห.เพื่อแจ้งที่ประชุมว่า พรรคจะได้โควตารัฐมนตรีกี่เก้าอี้และกระทรวงอะไรบ้าง ซึ่งคาดว่าจะเป็นในสัปดาห์หน้า
กลุ่มมะขามหวาน ยันอยู่กับนาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค พปชร.เป็นประธาน ช่วงหนึ่ง นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมพรรคกรณีที่มีกระแสข่าว 6 สส.เพชรบูรณ์จะไปร่วมกับรัฐบาลว่า ไม่เป็นความจริงพร้อมกับยืนยันว่า จะอยู่กับพรรค พปชร.ไม่ได้ไปไหน ส่วนที่มีปรากฏภาพรับประทานอาหารกับ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดและนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยนั้น ไม่มีอะไร เป็นการรับประทานอาหารทั่วไป และไม่เคยมีการคุยกับ 6สส.เพชรบูรณ์เรื่องนี้เลย ขณะที่ นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ ได้ลุกขึ้นกล่าวเสริม โดยยืนยันว่า “พวกเราไม่ไปไหน จะอยู่กับนาย”ยังมีช่วงหนึ่ง พล.อ.ประวิตร เล่าให้ที่ประชุมฟังว่า มีการติดต่อมาให้พรรค พปชร.กลับไปร่วมรัฐบาล โดยเสนอให้ตนนั่งรองนายกฯและรมว.กลาโหม แต่ได้ปฏิเสธไปแล้ว
ดับฝัน’บิ๊กป้อม’แข่งเป็นนายกฯไม่ได้
ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อ กกต.ก่อนเลือกตั้ง โดยพรรคที่เสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้จะต้องมีส.ส.จำนวน 5เปอร์เซ็นของ ส.ส. 500 คน คือ มี ส.ส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้ มีส.ส.ในสภาฯ จำนวน495 คน 5 เปอร์เซ็น คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มีส.ส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯได้ ตามมาตรา159 วรรค1 เกี่ยวกับที่มาของนายกฯ
‘ปชป.’ออกฉันทามติร่วมหนุนรัฐบาล
พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ออกแถลงการณ์การฉันทามิตร่วมกัน มีเนื้อหาระบุว่า ที่ประชุมกก.บห.พรรคได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นและมีความเห็นเป็นฉันทามติร่วมกัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.พรรคยืนยันจะดำรงสถานะพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดิน และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของประเทศที่เผชิญอยู่ได้รับการคลี่คลายอย่างต่อเนื่องต่อไป 2.พรรคขอเรียกร้อง ให้รัฐบาลทบทวนบทบาท และท่าทีต่อปัญหาความสัมพันธ์กับประเทศกัมพูชา อย่างจริงจัง เพื่อรักษาไว้ซึ่งอำนาจอธิปไตย เกียรติภูมิ และผลประโยชน์สูงสุดของประเทศไทย และประชาชนไทย โดยจะต้องแสดงออกให้เป็นที่ประจักษ์เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนให้กลับคืนมาโดยเร็วที่สุด 3.พรรคตระหนักถึง เสียงสะท้อนของประชาชนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในทุกมิติ รัฐบาลจะต้องใส่ใจ ยอมรับความคิดเห็นที่หลากหลาย พร้อมเร่งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดความร่วมมือร่วมใจของคนในชาติ สามารถฟันฝ่าทุกปัญหาอุปสรรคนำพาประเทศผ่านพ้นวิกฤตไปได้ 4.พรรคยึดมั่นในระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในระบบรัฐสภา ไม่สนับสนุนให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใดๆที่นอกเหนือกติกาประชาธิปไตยและบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
‘บิ๊กเล็ก’ปัดโพสต์อำลาเก้าอี้รัฐมนตรี
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ชี้แจงกรณีแถลงการณ์ของ ศูนย์บริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย -กัมพูชา (ศบ.ทก.) ที่ในช่วงท้ายระบุเหมือนกับว่าจะไม่ได้อยู่ต่อแล้ว ว่า ต้องขออภัยที่ทำให้เข้าใจผิด ซึ่งความจริงไม่ใช่อย่างนั้น ในแถลงการณ์เป็นคำพูดที่ตนพูดกับกรรมการและน้องๆในห้องประชุม ศบ.ทก.และให้ข้อคิดกับน้องๆในห้องประชุมว่า เราในฐานะกรรมการทีมไทยแลนด์ไม่ต้องมองเรื่องอื่นหรือเรื่องการเมือง ขอให้มองไปข้างนอกประเทศ มองไปที่ชายแดนและความสงบสุขของประชาชน ในหนังสือมีหัวเรื่อง ตัวเรื่องและท้ายเรื่อง แต่เราตีความที่ท้ายเรื่อง ตนอยากให้ตีความที่ตัวเรื่อง เมื่อถามว่า เนื้อหาคำแถลงที่ระบุว่า คลิปเสียงหลุดออกมาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการยิงกระสุนนัดเดียวให้นกตายทั้งรังนั้น หมายความว่าอย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เขาไม่ได้มุ่งต้องการที่นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว ซึ่งคิดว่าการที่ทำเช่นนี้และอะไรที่เกิดหลังจากนี้นั่นคือเป้าหมาย หรือหากตนจะเปรียบเทียบให้พอเข้าใจคือ ทุกคนยอมรับว่าประเทศไทยมีความเจริญมากกว่าประเทศกัมพูชา ซึ่งกัมพูชาเองก็ยอมรับและปัจจุบันเขาก็พยายามเร่งรัดพัฒนาประเทศ ดังนั้นอะไรก็ตามที่ทำให้ประเทศไทยรอเขาได้เขาก็จะทำ ซึ่งเป็นแนวคิดส่วนบุคคลหรือของพรรคอะไรก็แล้วแต่ เรื่องอะไรก็ตาม ที่ทำให้ประเทศไทยถอยหลังไปได้สักก้าว สองก้าว เขาคงพยายามจะทำ
พล.อ.ณัฐพล กล่าวย้ำว่า คำพูดดังกล่าวตนเพียงต้องการเตือนสติคำพูดคนในห้องประชุมเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับคนข้างนอก เพราะประชาชนข้างนอกมีคนเก่งและนักวิชาการได้ให้ข้อคิดเยอะแล้ว ตนในฐานะหัวหน้าทีมไทยแลนด์ก็พูดกับคนในทีม ไม่ได้บังอาจไปแนะนำสั่งสอนประชาชนหรือสื่อมวลชน เมื่อถามย้ำว่า วันนี้ยังไม่ถอดใจและจะยังทำหน้าที่ให้ถึงที่สุดใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า เต็ม 100 เมื่อถามย้ำว่า ยังไม่ถอดใจจาก ครม.ใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล ปฏิเสธตอบ พร้อมระบุว่า อันนั้นรอเป็นการเมืองเมื่อถามต่อว่า พรรค รทสช.ยังร่วมรัฐบาลอยู่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ไม่ทราบ แล้วแต่พรรค
‘ภูมิธรรม’มั่นใจพรรคร่วมหนุนไปต่อ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลหลังมีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เป็นอย่างไร ทุกพรรคยังให้การสนับสนุน น.ส.แพทองธาร ต่อไปใช่หรือไม่ว่า เป็นเรื่องที่นายกฯจะประสานและพูดคุย เพราะนายกฯเป็นทั้งหัวหน้าพรรคและผู้นำรัฐบาล สถานการณ์ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้ลาออกหรือยังไม่ได้พ้นสภาพ เพราะฉะนั้นที่มาถามเรื่องว่าจะตั้งใครขึ้นมาใหม่ยังไม่ใช่ตอนนี้เป็นเพียงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่จะปรับเล็กปรับใหญ่อยู่ที่นายกฯ ยืนยันรัฐบาลยังอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่พรรคภูมิใจไทยได้ออกไป พรรคร่วมรัฐบาลอื่นก็ยังดำเนินการอยู่เป็นการปรับกำลังให้เหมาะสมเท่านั้น เมื่อถามว่า สัญญาณที่นายภูมิธรรมได้รับทุกพรรคยังสนับสนุน น.ส.แพทองธาร ต่อไปใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ก็เป็นอย่างนั้นครับ”
ไม่ได้ยิน‘รทสช.’ขอเปลี่ยนนายกฯ
เมื่อถามว่าวันนี้ยังมั่นใจในพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลือใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า “มั่นใจครับ” เมื่อถามอีกว่าจะมีใครเข้ามาเติมเสียงให้รัฐบาลอีกหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้เดี๋ยวไปดูตามกระบวนการ เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรครวมไทยสร้างชาติเสนอให้เปลี่ยนตัวนายกฯเป็นนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ได้ยินเช่นนั้น ตนคิดว่าทุกอย่างจบแล้ว
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าพรรครวมไทยสร้างชาติส่งสัญญาณมายังพรรคเพื่อไทยหรือนายกฯแล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวต้องถามนายกฯ เท่าที่ตนรับทราบมาไม่มีอะไรแล้ว จบแล้ว
เมื่อถามว่ามองท่าทีพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นการต่อรองหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า มันเป็นข่าว แต่การประชุมของแต่ละพรรคก็เป็นสิทธิที่จะพิจารณา การประชุมของแต่ละพรรคไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรในเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ก็จะต้องคุยกันและเป็นสิทธิอันชอบธรรมของแต่ละพรรคที่จะสามารถพิจารณาอะไรก็ได้ เป็นปกติทางการเมืองมีอะไรปรับเปลี่ยนก็ต้องคุยกัน
ภท.ยันเป็นฝ่ายค้านไม่แข่งตั้งรัฐบาล
นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย ปฏิเสธกระแสข่าว “เนวิน” คุยกับลุง ขอหนุน “พีระพันธุ์” นั่งเก้าอี้นายกฯ ว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย เราถือว่า ขณะนี้เราเป็นฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นกระแสข่าวใดๆก็ตามที่จะพยายามมาโยงให้พรรคภูมิใยไทยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการต่อรองตำแหน่งใดๆ ก็แล้วแต่ ไม่เป็นความจริง ฉะนั้นเรื่องนี้ภูมิใจไทยไม่ได้เกี่ยวข้องทั้งสิ้น เพราะถือว่าเราเป็นฝ่ายค้าน ส่วนการที่ นายเนวิน ชิดชอบ ถูกหยิบยกมาเกี่ยวข้องกับประเด็นของพรรคมองอย่างไรนั้น โฆษกพรรคภูมิใจไทยระบุว่า ช่วงนี้อาจจะเรียกได้ว่า เป็นช่วงฝุ่นตลบหรือไม่ ไม่ทราบ ก็เห็นมีข่าวออกมาเรื่อยๆ แต่ในส่วนของ พรรคภูมิใจไทย เราก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า เราถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลมาเป็นฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นเรื่องอื่นๆเราไม่ยุ่งเกี่ยว ถามว่ายืนยันชัดเจนใช่หรือไม่ว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้รวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลสู้ โฆษกพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า ไม่เลย ขณะนี้พวกเราคือฝ่ายค้าน นี่คือความชัดเจนที่สุดแล้ว
แหล่งข่าวใกล้ชิดข นายเนวิน ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยระบุว่า นายเนวิน ไม่เคยได้ติดต่อพูดคุยกับ “ลุง” เนื่องจากเห็นว่าอยู่นอกกระดานการเมืองแล้ว อีกทั้งพรรค ภท.เลือกที่จะถอนตัวจากรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ออกมาเป็นฝ่ายค้านเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ คนใกล้ชิดยังยืนยันว่า นายเนวิน ไม่เคยติดต่อพูดคุยกับนายพีระพันธุ์ เกี่ยวกับแนวทางผลักดันนายพีระพันธุ์ ขึ้นมาเป็นนายกฯ แต่อย่างใด
‘วิสุทธิ์’รอ1-2เดือนเลือกรองปธ.สภา
ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีการลาออกของ นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย จากตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่สอง ทำให้ต้องเลือกกันใหม่ในช่วงการเปิดสมัยประชุมเดือนก.ค. นี้ ว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้หารือกันในพรรคหรือพรรคร่วมรัฐบาล เพราะต้องรอให้การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการแล้วเสร็จ เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่ต้องพิจารณาควบคู่กันไปด้วย อย่างไรก็ดีตำแหน่งรองประธานสภาฯ นั้นไม่เกี่ยวว่าต้องเป็นโควตาของพรรคร่วมรัฐบาลอันดับสอง
“การเลือกตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่สอง ที่ว่างลง ไม่ต้องรีบเพราะขณะนี้มี ประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ยังทำหน้าที่ได้อยู่ ดังนั้นรอไปได้อีก 1-2 เดือน” นายวิสุทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าหลังจากพรรคภูมิใจไทยถอนตัว กังวลต่อสถานะของเสียงข้างมากปริ่มน้ำหรือไม่ ประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่า ยอมรับว่าเป็นแบบนั้น และยอมรับว่าเป็นงานหนักของประธานวิปรัฐบาลที่ต้องทำหน้าที่ขอให้สส.ทุกคนเข้าร่วมการประชุมสภาฯทุกนัด หากสส.เขตคนใดที่เป็นรัฐมนตรี ต้องเข้าร่วมประชุมทุกครั้งให้มาทำงานในสภาฯ เพราะมีห้องทำงานหลายห้อง ส่วนสส.บัญชีรายชื่อที่ได้เป็นรัฐมนตรี ต้องลาออกจากสส. ต้องฝากประชาชนด้วยว่าหากวันประชุมสภาฯ แล้วพบเห็นสส.ลงพื้นที่ ต้องไล่ให้กลับมาประชุม มาทำหน้าที่ในสภาฯ หากไม่ฟังรอบหน้าไม่ต้องเลือกให้กลับมาอีก
‘วันนอร์’ชี้เสียงปริ่มน้ำเดินหน้าได้
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณี สถานการณ์การเมืองขณะนี้ ที่เสียงสส.ในสภา ของฝ่ายและรัฐบาลมีการปรับเปลี่ยนว่า การเมือง ก็เปลี่ยนไปตามวาระของการเมือง แต่สภามีหน้าที่จัดการประชุมให้เกิดความสงบเรียบร้อย ซึ่งตนคิดว่า ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ก็คง เปลี่ยนแปลงในส่วนของรัฐบาลและสภาก็ต้องดำเนินการไปตามปกติ เมื่อถามว่า เสียงปริ่มน้ำ จะทำให้การทำงาน ในสภา ลำบากขึ้นหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า สภาเราเคยผ่านมาหลายยุคหลายสมัย ทั้งที่มีเสียงข้างมากค่อนข้างเด็ดขาด เวลาบริหาร ก็อาจจะมีปัญหาได้เหมือนกัน และเสียงปริ่มน้ำ ก็เคยบริหารมาแล้ว ซึ่งก็มีปัญหา แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหาร สภาไม่เข้าไปก้าวก่ายกับฝ่ายบริหาร สภาทำหน้าที่ของสภา เพื่อให้การบริหารดำเนินไปได้ เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์ว่าอายุรัฐบาลหรือสภาอาจจะสั้น ไม่เกินปีนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่าขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ ของ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่เข้ามาบริหารประเทศ ทางสภา ก็บริหาร ไปตามบทบาทหน้าที่ของสภาเท่านั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร อายุของรัฐบาลจะยาวหรือสั้น ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหาร
เมื่อถามถึง ตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ที่ว่างลงหลังนายภราดร ปริศนานันทกุล ลาออก นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ฝ่ายเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะฟังเสียงจากวิปฝ่ายค้านและรัฐบาล ว่าพร้อมกำหนดการเลือกเมื่อใด ซึ่งเรื่องนี้ ต้องเป็นเรื่องของสมาชิกสภา เพราะถ้าไม่พร้อมหรือยังไม่ตกลงใจว่า ฝ่ายใดจะเสนออย่างไร ก็คงจะต้องรอก่อน ตนคิดว่า เมื่อเปิดสมัยประชุม ในวันที่ 3 กรกฎาคม หากมีความพร้อม ก็สามารถเลือกตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่2ได้ หากไม่พร้อมอาจจะเป็นสัปดาห์ที่2 เพราะต้องเลือกเดินเร่งด่วน เนื่องจากรองประธานคนที่ 2 จะมาช่วยใบริหารสภา และเป็นประธานในที่ประชุม รับประธานทั้ง 2คน ก็อาจจะหนักไป ส่วนจะเป็นโควตาของพรรคลำดับ 2 ของฝ่ายรัฐบาลหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เรื่องโควตาเป็นเรื่องภายในวิป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี