'บัญญัติ' 1 ใน 3 ผู้อาวุโส ปชป. ร่อนสารค้านเข้าร่วมรัฐบาล 'แพทองธาร' ชี้ควรถอนตัวตั้งหลักฟื้นพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 มิถุนายน 2568) นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตหัวหน้าพรรค ได้เผยแพร่แถลงการณ์แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับมติของคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีมติเสียงข้างมาก 19 ต่อ 7 ให้ร่วมรัฐบาลต่อกับนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร
โดยนายบัญญัติ ระบุว่า ในทันทีที่มีการเผยแพร่รายชื่อกรรมการ 7 คนที่ลงมติไม่เห็นด้วย และไม่มีชื่อของนายชวน หลีกภัย ตนเอง และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ทำให้สมาชิกและแฟนคลับพรรคหลายคนเข้าใจผิดว่า ทั้งสามเห็นด้วยกับการอยู่ร่วมรัฐบาล จึงขอชี้แจงให้เข้าใจอย่างถูกต้องว่า ทั้งสามคนไม่ได้เข้าร่วมประชุมดังกล่าว เพราะเป็นการประชุมเฉพาะของกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกคนอื่น ๆ ของพรรค
“ยังไม่เพี้ยนครับ” นายบัญญัติกล่าว พร้อมย้ำว่า หากจะถามความเห็นของนายชวน ตนเอง และนายจุรินทร์ ก็สามารถตอบได้ทันทีว่า “ไม่เห็นด้วย” และยังเห็นตรงกันกับกรรมการบริหารพรรค 7 คนที่คัดค้าน รวมทั้งได้แสดงความเห็นเช่นนี้ไปก่อนหน้านั้นแล้ว โดยตนได้พยายามเสนอแนะผ่านผู้เกี่ยวข้องบางคนว่า พรรคควรใช้โอกาสนี้ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพราะอยู่ต่อไปก็ไม่สามารถทำประโยชน์ได้มากนัก ควรถอยออกมาตั้งหลักเพื่อคิดอ่านฟื้นฟูพรรคจะเหมาะสมกว่า
นายบัญญัติยังระบุว่า รัฐบาลแพทองธารคงเดินหน้าต่อไปได้ยาก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่และผลสำรวจความเชื่อมั่นที่ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และยิ่งหนักขึ้นเมื่อเกิดกรณี “พายุหมุนขนาดใหญ่” จากบทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับ “เขมรเพื่อนพ่อ” ที่เผยแพร่ออกสู่สาธารณะ ซึ่งตนเห็นว่าเป็นเหตุการณ์ที่ “สาหัสสากรรจ์” มาก แม้จะมีการอ้างภายหลังว่าเป็น “เทคนิคในการเจรจา” แต่จากเนื้อหาที่ถูกเปิดเผย กลับแสดงให้เห็นว่าเกินกว่าเทคนิคทางการทูตอย่างชัดเจน ทั้งมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย วิพากษ์วิจารณ์กองทัพ และอ่อนข้อเกินสมควรจนกระทบต่อศักดิ์ศรีของประเทศ
เหตุการณ์ดังกล่าวนำมาสู่การตั้งคำถามถึงภาวะความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรี และเสียงเรียกร้องให้ลาออก ซึ่งหากสถานการณ์ยืดเยื้อออกไป ก็มีแต่จะสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศ โดยเฉพาะเมื่อประชาชนหมดศรัทธาต่อรัฐบาล การฟื้นเศรษฐกิจและแก้ปัญหาของประเทศก็จะเป็นไปได้ยาก
“และที่อันตรายแน่นอน ความยืดเยื้อยาวนานของสถานการณ์ที่ไม่ลงตัว และที่ขับเคี่ยวกันอยู่ ก็มีแต่จะนำไปสู่ความขัดแย้งแตกแยกขึ้นมาอย่างขนานใหญ่ในประเทศอีกครั้งหนึ่งก็เป็นได้” นายบัญญัติกล่าว
เขาจึงเสนอว่า การลาออกของนายกรัฐมนตรี หรือการที่พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวออกมาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะเป็นแนวทางที่เหมาะสมในการคืนสมดุลให้กับการเมืองไทย นอกจากจะเป็นการแสดงจุดยืนทางการเมืองอย่างมีเกียรติแล้ว ยังจะช่วยให้ได้รัฐบาลที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากขึ้น ส่งผลให้สามารถแก้ปัญหาของประเทศได้ดีกว่าเดิม และอาจช่วยระงับความขัดแย้งทางการเมืองไม่ให้บานปลาย
ท้ายที่สุด นายบัญญัติเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อรักษาอุดมการณ์ และฟื้นฟูศรัทธาที่ประชาชนมีต่อพรรค
.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี