‘อิ๊งค์’อ้างประเทศต้องไปข้างหน้า
แบ่งเค้กลงตัว!
โพสต์ภาพจูบปากพรรคร่วม
หึ่ง‘ภูมิธรรม’พลิกนั่ง‘มท.1’
ม็อบโหมโรงตรวจจุดตั้งเวที
พร้อมจัดฌาปนกิจรบ.28มิ.ย.
กลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ เข้าเคลียร์พื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เตรียมชุมนุมใหญ่ไล่นายกฯ ฌาปนกิจรัฐบาล 28 มิถุนายนนี้ องค์การนักศึกษารามฯประกาศชัดร่วมด้วย ขณะที่นายกฯอิ๊งค์โพสต์ภาพคุยหัวหน้าร่วมรัฐบาลชื่นมื่น บอกประเทศต้องไปข้างหน้า ไม่มีภัยคุกคามใต้เหนือ พลังสามัคคีคนไทย แย้ม’ครม.แพทองธาร2’พลิก สะพัด‘ภูมิธรรม’แหกโค้งซิว‘มท.1’ชง‘อิ๊งค์’ควบ’กลาโหม’
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน นายศิริมงคล อินทร์แก้ว นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ออกแถลงการณ์องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง เรื่อง ขอให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง พร้อมนัดรวมพลนักศึกษาทั่วประทศ 28 มิถุนายน 2568 บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายศิริมงคล กล่าวว่า องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ในนามของเยาวชนและนักศึกษาผู้ยึดมั่นในหลักประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ และผลประโยชน์ของประเทศชาติ ขอออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนต่อสถานการณ์ บ้านเมืองในปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนถึงภาวะวิกฤตทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ที่กำลังสร้างความเสียหาย อย่างรุนแรงต่อประชาชนและประเทศชาติโดยรวมภายใต้การบริหารของรัฐบาลชุดปัจจุบัน นำโดยนายกรัฐมนตรี ได้เกิดปัญหาหลากหลายที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น 1.ความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจ ซึ่งนำไปสู่ภาวะค่าครองชีพสูง รายได้ลดลง หนี้สินครัวเรือนพุ่งสูงและโอกาสทางเศรษฐกิจที่ไม่กระจายตัว 2.การบริหารจัดการปัญหาในพื้นที่ชายแดนและประเด็นความมั่นคง ที่ขาดความชัดเจน 3.กรณีมีการเผยแพร่ คลิปเสียงที่ถูกกล่าวอ้างว่าเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจโดยมิชอบ ซึ่งกำลังเป็นที่ วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมไทยอย่างกว้างขวาง และมีนัยยะสำคัญต่อจริยธรรมของผู้นำประเทศ
จากเหตุผลข้างต้น
บี้”อุ๊งอิ๊งค์”ลาออกทันที
องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง เห็นว่า นายกรัฐมนตรีได้หมดความชอบ ธรรมในการดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ และไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป ดังนั้น ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เราขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกจากตำแหน่งโดยทันทีและพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมีความรับผิดชอบโดยตรงในฐานะผู้ร่วมบริหารประเทศ หาก ยังคงดำรงอยู่ในรัฐบาลชุดนี้ ย่อมเท่ากับการสมยอมต่อความผิดพลาด และละเลยต่อเสียงเรียกร้องของประชาชน ที่กำลังเสื่อมศรัทธาอย่างรุนแรง เราจึงขอเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณาถอนตัวออกจากการร่วมบริหาร ประเทศในทันที เพื่อแสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อหลักจริยธรรมและความรับผิดชอบทางการเมืองเพื่อเปิดทางให้มี การจัดตั้งรัฐบาลที่ยึดโยงกับประชาชนอย่างแท้จริง และสามารถฟื้นฟูศรัทธา ความมั่นคง และความยุติธรรมในสังคมไทยได้ พร้อมกันนี้ เราย้ำว่า เสียงของประชาชนคือรากฐานของประชาธิปไตย การรับฟัง การเคารพ และการ ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของประชาชน คือหน้าที่ของผู้นำที่แท้จริง
องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง จะยังคงยืนหยัดเคียงข้างประชาชนและเดินหน้าผลักดันการ เปลี่ยนแปลงอย่างสันติ เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของประเทศ ด้วยจิตสำนึกต่อหน้าที่และความรับผิดชอบต่อสังคม จึงขอเชิญและเรียกร้องให้ บัณฑิตรามคำแหงทุกท่าน และทุกมหาวิทยาลัย ร่วมกันเรียกร้องขับเคลื่อน กับ ม็อบใหญ่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วันที่ 28 มิถุนายน 2568 ตั้งแต่เวลา16.00 น.เป็นต้นไป นายศิริมงคล กล่าว
สำรวจพื้นที่ชุมนุม
เมื่อเวลา 10.00น.ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยไทย นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายปานเทพ พงษ์พัวพันธ์ นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นายนิติธร ล้ำเหลือ นายนัสเซอร์ ยีหมะ เข้าดูและสำรวจพื้นที่เพื่อจัดตั้งการชุมนุมในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ เพื่อขับไล่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออก
โดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย กล่าวว่า ในวันนี้คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ได้นัดหมายมาดูจุดที่จะตั้งเวที บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และตกลงว่าจะเลือกจุดนี้ ซึ่งในวันที่ 23 มิถุนายนได้ประสานงานนัดประชุมกับ สำนักงานตำรวจตำรวจแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร เพื่อหารือถึงแนวทางการชุมนุม เพื่อไม่ให้การชุมนุมกระทบกับผู้ใช้รถใช้ถนนรวมถึงละเมิดกฎหมาย ยืนยันว่าการมาชุมนุมครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการเรียกร้องให้มีการรัฐประหาร
นายจตุพรกล่าวว่า ตนเชื่อว่าจะไม่มีรัฐบาลทรยศชาติที่ไหนสั่งการให้ใครที่ไหนมาขัดขวางการชุมนุมในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ที่ประชาชนจะได้สำแดงการตอบโต้คู่ขนานในภาคประชาชน ยืนยันว่าทั้งหมดไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแต่เป็นเรื่องของประเทศชาติ ดังนั้นจึงขอเชิญประชาชนมาพบกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในวันที่ 28 มิ.ย. ตั้งแต่เวลา 16.00-21.00 น. อย่าให้อายขายขี้หน้าคนกัมพูชา
นายกฯต้องลาออกอย่างเดียว
ด้านนายปานเทพกล่าวว่า วันนี้ทางกลุ่มได้เดินทางมาดูสถานที่เพื่อแสดงความโปร่งใสและเปิดเผยว่ามีการจัดเวทีในที่สาธารณะ ซึ่งสาเหตุที่เลือกตำแหน่งนี้เนื่องจากต้องการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพราะ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิสร้างขึ้น เพื่อเป็นการประกาศว่าประเทศไทยมีเอกราชสามารถทวงคืนแผ่นดินได้จากข้อพิพาทระหว่างประเทศ ขณะนี้มีขบวนการเตะตัดขากลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ข้อกฎหมายในด้านต่าง ๆ มาดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำ แต่ยืนยันว่าการชุมนุมจะไม่ส่งผลกระทบกับโรงพยาบาล ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับจุดชุมนุม ส่วนเงินที่ได้มาใช้ในการจัดการชุมนุมนั้น ได้รับการสนับสนุนมาจากกลุ่มของตัวเองและหลังจากนี้จะมีการเปิดบัญชีเพื่อให้ประชาชนที่สนใจร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุนเป็นการแสดงความโปร่งใสว่าไม่มีกลุ่มคนอยู่เบื้องหลัง
นายกฯต้องรับผิดชอบ
ส่วนนายพิชิต กล่าวว่า แนวทางให้ยุบสภานั้นยืนยันว่าไม่ควรยุบสภา สถานการณ์ตอนนี้ไม่ใช่ความผิดของสภา แต่เป็นความผิดเฉพาะบุคคล นั่นคือนายกรัฐมนตรี เพราะถ้าเรายุบสภาก็เท่ากับการเสียโอกาสในการเดินหน้าประเทศ เพราะเรื่องปัญหาชายแดนก็ยังเข้มข้นอาจจะทำให้เกิดสูญญากาศระหว่างประเทศ ดังนั้น ให้สภาทำงานต่อไปแต่ให้นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบเพียงคนเดียว และมีการคัดสรรนายกฯคนใหม่ก็เท่านั้นเอง ส่วนข้อเสนอของพรรคประชาชนนั้น เข้าใจว่าพรรคประชาชนเห็นแก่ประโยชน์ของการเลือกตั้งมากกว่า เพราะแบบนี้เป็นการฉวยโอกาสทางการเมืองแต่อย่าลืมว่า ถ้ามีการยุบสภาโอกาสที่สส.ของพรรคประชาชนจะมีมาดและจะรวมจัดตั้งรัฐบาลก็จะมีโอกาสสูง แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ ไม่ใช่การแข่งขันเพื่อจัดตั้งรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของประเทศชาติ ดังนั้นต้องมองถึงประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก
ดังนั้นเมื่อดูจากท่าทีของนายกฯก็ต้องขอกำลังประชาชนจำนวนเยอะที่จะออกมาแสดงพลังส่งสัญญาณไปถึงน.ส.แพทองธาร ว่านี่คือเสียงของประชาชนที่ต้องการให้นายกฯแสดงสปิริตในเรื่องนี้
“อิ๊งค์”ขอลุยงานเต็มที่
น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะรองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีที่มีข่าวลือว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ จะลาออกหลังร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ผ่านสภา ในวาระที่ 3 ว่า ช่วงที่ผ่านมามีการเผยแพร่ข่าวว่านายกฯ แพทองธารได้รับ หรืออาจตอบรับข้อเสนอของพรรคการเมืองบางพรรค ว่าจะลาออกจากตำแหน่งนายกฯ หรือประกาศยุบสภา ภายหลังร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ผ่านสภา ในวาระที่ 3 แล้วนั้น ในฐานะตัวแทนพรรคขอยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างยิ่ง เพื่อสร้างความสับสนในสังคม บั่นทอนเสถียรภาพของรัฐบาล ที่ผ่านมานายกฯ ได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่าจะไม่มีการลาออก จะไม่มีการยุบสภาแต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน ในสภาวะที่ประเทศไทยเผชิญความท้าทายในหลายด้านมาก ทั้งปัญหาความมั่นคง ข้อพิพาทตามแนวชายแดน ปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมทางไซเบอร์ ปัญหาค่าครองชีพที่สูงมากของพี่น้องประชาชน ปัญหาสินค้าและราคาเกษตรตกต่ำ ปัญหาการปฏิรูปทางการเมือง เหล่านี้เป็นเหตุผลที่ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องเดินหน้าทำงานต่อ เพื่อประโยชน์ของประเทศและพี่น้องประชาชน
อ้างยังมีกฎหมายค้างอยู่เยอะ
น.ส.ขัตติยากล่าวว่า เราจะเดินหน้าทำงานต่ออย่างเต็มที่สุดความสามารถ และภายหลังจากการปรับคณะรัฐมนตรีแล้ว รัฐบาลจะเดินหน้าสานต่อภารกิจต่างๆ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปราบยาเสพติด การปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งต้องยอมรับว่าขณะนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น รวมถึงเราต้องมีมาตรการที่จะแก้ไขหนี้สิน ลดค่าใช้จ่ายของพี่น้องประชาชน รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจและการดึงดูดการลงทุนใหม่ๆ อีกทั้งในเวลาสองปีเศษที่เหลือในสภา เรามีภารกิจในด้านนิติบัญญัติกฎหมายสำคัญต่างๆ มากมายรอการพิจารณาของสภาอยู่
เย้ยบางพรรคยึกยักแต่ก็ยอม
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เสนอขอให้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ไม่เช่นนั้นจะถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ของแต่ละพรรคการเมืองอาจมีแนวทาง วิธีการที่แตกต่างหลากหลาย กว่าจะได้มติพรรคที่เป็นที่ยอมรับร่วมกัน จำเป็นต้องเปิดพื้นที่ให้มีการถกแถลงกันอย่างกว้างขวางเต็มที่ ถือเป็นบรรยากาศความงดงามในระบอบประชาธิปไตย แต่เชื่อว่าในท้ายที่สุดแล้ว ทุกพรรคการเมืองที่จะมาร่วมรัฐบาล จะสามารถหาข้อสรุปเพื่อให้ได้สิ่งที่เห็นชอบร่วมกันในพรรคได้ แม้ระหว่างทางอาจมีความเห็นแย้ง เห็นต่างกัน ดูเหมือนว่าจะมีการยึกยักหรือยื่นเงื่อนไขบ้างในบางประเด็น เชื่อว่าที่สุดแล้วทุกพรรคจะบรรลุในการแสวงหาแนวทาง เพื่อจะทำให้ประเทศชาติเดินหน้า มีการตั้งรัฐมนตรีใหม่เข้าไปทำงานแทนรัฐมนตรีที่พ้นไปได้ในระยะเวลาอันใกล้
นายอนุสรณ์ กล่าวด้วยว่า ตนเชื่อว่าจะได้คณะรัฐมนตรีที่มีประสิทธิภาพโดยเร็วที่สุดเพื่อเร่งเดินหน้านำพาประเทศชาติและประชาชนออกจากวิกฤต ขอให้เชื่อมั่นว่าการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ จะเป็นการปรับครั้งสำคัญที่จะเรียกความเชื่อมั่นและศรัทธา เร่งยกระดับสร้างผลงานรัฐบาล ให้เป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชน ขอให้จับตาดูผลงานรัฐบาลในห้วงระยะเวลาต่อจากนี้ เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถเปลี่ยนแรงกดดัน ให้เป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน
โผใหม่”ภูมิธรรม” มท.1
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) “แพทองธาร 2” โดยโผครม.บางตำแหน่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะที่บางตำแหน่งของบางพรรค โดยเฉพาะของพรรคเพื่อไทย (พท.) ยังไม่เรียบร้อย แหล่งข่าวระดับสูง จากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การปรับ ครม.ในสัดส่วนพรรคเพื่อไทย ยังไม่เรียบร้อยใน 2 กระทรวง คือ กระทรวงมหาดไทย ที่เดิมทุกโผมีชื่อนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) มานั่งเก้าอี้ มท.1 ค่อนข่างจะแบเบอร์ อย่างไรก็ตามในพรรคเห็นว่าควรมอบตำแหน่งนี้ให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มานั่งแทน จะส่งผลดีต่อพรรคมากกว่า โดยเฉพาะในการเลือกตั้งครั้งหน้า
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาในส่าวนของกระทรวงกลาโหม ที่เป็นการขับเคี่ยวกันระหว่าง “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รมช.กลาโหม และ พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ อดีตผู้สมัครนายก อบจ.ลพบุรี ในนามพรรคเพื่อไทย และเป็นนักเรียนเตรียมทหารทหารรุ่นที่ 21 เคยรับราชการในพื้นที่ลพบุรี เป็นผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ซึ่งเป็นรุ่นน้องเตรียมทหารพล.อ.ณัฐพล ที่อยู่ในรุ่น 20 อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในพรรคเพื่อไทย ยังไม่มีข้อสรุปในส่วนของกระทรวงกลาโหม ซึ่งชัดเจนว่าพรรคเพื่อไทย จะครองเก้าอี้เอง โดยมีการเสนอให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั่งควบ รมว.กลาโหม อีก 1 เก้าอี้ด้วย
ถกพรรคร่วมรัฐบาลแบ่งเค้ก
เมื่อเวลา 12.26 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงที่โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ภายหลังมีกระแสข่าวเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล หารือที่โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ เพื่อแจ้งเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการ รวมถึงการจัดสรรโควตา ครม.อีก 8ตำแหน่งตามความเหมาะสมหลังจากที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ เปิดเผยว่า ในวันนี้ นายกฯได้เชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลหารือ เรื่องการปรับครม. เนื่องจากมีการลาออกของรัฐมนตรีจากพรรค ภท. ทำให้ต้องมีการหารือเพื่อกำหนดแนวทางการทำงานกันใหม่
ประเทศประเทศต้องไปข้างหน้า
จากนั้นเวลา 16.10น.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊กและทวิตผ่าน X หลังเชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลพูดคุยส่วนตัวเป็นการภายในที่โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ โดยเป็นภาพนั่งพูดคุยร่วมกับ บรรดาหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นไปอย่างชื่นมื่น โดยมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว. การท่องเที่ยวและกีฬาในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม(กธ.)พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ นายซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรคประชาชาติ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)
โดยนายกฯ ระบุว่า ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน
เรียกหาพลังสามัคคีคนไทย
นายกฯระบุต่อว่า ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน
“ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย รัฐบาลของเราจะทำงานหนักร่วมกันด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเท เพื่อประเทศไทย“ อย่างไรก็ตาม แกนนำอื่นๆไม่มีใครให้สัมภาษณ์ใดๆ
ทุกพรรคหนุน’อิ๊งค์’-เร่งตรวจคุณสมบัติรมต.
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการพบปะหารือระหว่างน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเดิมทุกพรรค .ส.แพทองธาร ได้ยืนยันต่อแกนนำทุกพรรคถึงสถานการณ์รัฐบาล หลังจากไม่มีพรรคภูมิใจไทยอยู่ร่วมว่า ตนเองจะเดินหน้าทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป โดยเรื่องสำคัญขณะนี้คือ สถานการณ์ชายแดนกัมพูชา ซึ่งกองทัพได้ร่วมมือกับรัฐบาลเป็นอย่างดี เชื่อมั่นว่าเราจะรักษาดินแดนและอธิปไตยได้อย่างแน่นอน แกนนำทุกพรรค ได้กล่าวยืนยันว่าจะร่วมสนับสนุนน.ส.แพทองธารต่อไป เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะเดินหน้าต่อไปได้ รวมทั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ก่อนหน้านี้พรรคมีมติ เสนอให้น.ส.แพทองธารลาออกจากนายกฯ ปรากฏว่าในวงหารือวันนี้ นายพีระพันธุ์ แสดงท่าทีสนับสนุนน.ส.แพทองธารอย่างเต็มที่ พร้อมร่วมทำงานต่อไป ส่วนความคืบหน้าการปรับครม.นั้น น.ส.แพทองธาร แจ้งต่อทุกพรรคได้ทยอยส่งรายชื่อผู้ที่จะอยู่ในโผการปรับครม.ไปตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว หากทุกอย่างผ่านเรียบร้อย คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า จะได้ข้อสรุปและนัดแกนนำทุกพรรคร่วมหารือบัญชีรายชื่ออีกครั้ง เพื่อให้ได้บทสรุปและนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี