‘พปชร.’ประณาม‘แพทองธาร2’เป็นรัฐบาลแลกผลประโยชน์ รมต.ผิดฝาผิดตัว
24 มิถุนายน 2568 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวแสดงความยินดีกับรัฐบาลที่สามารถจัดตั้ง “รัฐบาลแพทองธาร2” ได้ แบบแลกผลประโยชน์ การวางตัว รมต.เป็นแบบผิดฝาผิดตัว ไม่ดูถึงความรู้ความสามารถแต่อย่างใด คิดเพียงแค่มี ส.ส.เท่าไร ได้โควตาไปเท่านั้น เอาคนที่เป็นมาเฟีย นักเลงหัวไม้ มาเป็นรัฐมนตรี แล้วพี่น้องประชาชนจะได้อะไร
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลมุ่งเอาแต่ เสียงสนับสนุนรัฐบาลเป็นหลักแล้วจัดสรรโควตาไปตามสัดส่วน โดยไม่ดูว่าผู้มาเป็นรัฐมนตรี ซึ่งถือว่าเป็นเสนาบดี ดูแลงานราชการ แต่เอาคนที่ไม่เหมาะสมทั้งความรู้ความสามารถและความประพฤติมาเป็นรัฐมนตรีหรือเสนาบดี แทนที่จะดูคนที่เคยมีความรู้ความสามารถประสบการณ์งานด้านนั้นๆ มาทำงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ถ้าเป็นเช่นนี้ประเทศจะพัฒนาไปข้างหน้าได้อย่างไร ประชาชนจะได้อะไร นอกจากนั่งคอยมองนักการเมืองเอาแต่แบ่งผลประโยชน์กันและกัน
ทั้งนี้ เช่น กระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงสำคัญที่ต้องดูแลความสงบเรียบร้อยภายใน ดูแลทุกข์สุขของประชาชนที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เคยดูแลได้ดีมาก่อน แต่รัฐบาลกลับเอาคนที่ควบคุมได้เอามาเพื่อผลักดันบ่อนการพนันหรือกาสิโนเสรี การแก้ปัญหาที่ดินอัลไพน์ที่เป็นปัญหาของตระกูล “ชินวัตร” ตลอดจนปกป้องธุรกิจสีเทาในเครือข่ายคนสนิทของรัฐบาล โดยเฉพาะการพนันออนไลน์ ตลอดจนปัญหากระบวนการอาชญากรข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่พอแม่ทัพภาคที่ 2 ปิดด่าน ตัดท่อน้ำเลี้ยง กลุ่มการพนันปอยเปต จึงชะงักลง
กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งอยู่ในภาวะวิกฤตทั้งด้านการบริหารงานและวิกฤติศรัทธาของบุคลากรในกระทรวง ทั้งนี้ปัญหาประสิทธิภาพในการดูแลประชาชน จากข้อมูลกรมควบคุมโรค พบว่าสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่กว่า 93,000 คน ถือว่าสูงสุดของปีนี้ในตอนนี้ และยังมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้มียอดผู้ป่วยสะสมมากกว่า 320,000 คน เสียชีวิตสะสมแล้ว 69 ราย แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพ การดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนอ่อนด้อย
นอกจากนี้วิกฤติศรัทธาของบุคลากรภายในกระทรวง ยังคงดูถูก เหยียดหยามรัฐมนตรีเป็นทุนเดิม หากเอานักเลงหัวไม้มาเป็นรัฐมนตรีเพิ่มอีก อาจจะได้รับการต้อนรับไม่ใช่แค่รองเท้าแตะ เท่านั้น ทำไมไม่หาคนดีๆ ที่แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ให้การยอมรับมาช่วยในการบริหารและพัฒนาประเทศ
กระทรวงการคลัง ที่ต้องรับผิดชอบการเงินการธนาคารของประเทศ จากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ภายใต้การประเมินเสถียรภาพและแนวโน้มปี 2568 มองว่ามีปัจจัยเสี่ยงอาจกระทบต่อเสถียรภาพระบบการเงินระยะข้างหน้า ทั้งความเชื่อมั่นนักลงทุนที่เปราะบาง และอ่อนไหวต่อทั้งปัจจัยภายใน และภายนอกประเทศ จากนโยบายการค้าประเทศเศรษฐกิจหลัก รวมถึงบางภาคธุรกิจที่ยังฟื้นตัวช้า มีปัญหาเชิงโครงสร้าง และเผชิญการแข่งขันจาก ประเทศคู่แข่งในอาเซียน โดยเฉพาะในปีนี้ ประเทศไทยภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยหาให้ประเทศสู่หายนะ GDP ต่ำกว่าประเทศ เวียดนาม กัมพูชาและลาว และที่น่าเป็นห่วงคือ ดีครัวเรือนสูงขึ้นขณะเดียวกัน ความสามารถ ในการชำระหนี้อยู่ในสภาวะที่น่าเป็นปัญหา
“ขณะที่ภาพลักษณ์ของรัฐบาลอยู่ในภาวะติดลบ ทั้งด้านความรู้ความสามารถ ผลงาน ความเสี่ยงความเชื่อมั่นในการ “ขายชาติ” หากรัฐบาลยังคงแลกผลประโยชน์ไปมา การวางตัว รมต.เป็นแบบผิดฝาผิดตัว ไม่ดูถึงความรู้ความสามารถแต่อย่างใด เอาคนที่เป็นมาเฟีย นักเลงหัวไม้ มาเป็นรัฐมนตรี แล้วพี่น้องประชาชนจะได้อะไร ไม่มีครั้งใดที่วุฒิสมาชิก จะรวมตัวกันยื่นฟ้องท่านนายกฯ เพื่อถอดถอนออกจากตำแหน่ง และไม่มีครั้งใดที่พี่น้องประชาชนจะรักชาติรักแผ่นดิน และสามัคคีกลมเกลียวกัน ออกมาขับไล่ท่านนายกฯ เหมือนเช่นนี้เช่นกัน” พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี