ศาลยกฟ้อง"สนธิ" รอดหมิ่น"บิ๊กอ๊อด"อดีต ผบ.ตร.บริหารสมาคมฟุตบอลล้มเหลว ระบุเป็นการติชม
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 24 มิถุนายน 2568 ที่ห้องพิจารณาคดี 809 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำอ.2708/2566 ที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.และนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นโจทก์ฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งเครือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และบริษัทผู้จัดการ 360 องศา เป็นจำเลยที่ 1 - 2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาและนำข้อความเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เรียกค่าเสียหาย จำนวน 50 ล้านบาท
โจทก์ฟ้องสรุปว่า นายสนธิ จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของช่องยูทูป และรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ หรือ รายการ Sonthi Talk โดยเมื่อวันที่ 6 - 7 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา นายสนธิ ได้พูดในรายการ Sonthi Talk พาดพิงให้เกิดความเสียหายด้วยข้อความว่า "จริงๆ แล้วสมาคมฟุตบอลไทยนั้นทำงานเละเทะมานานแล้ว ตั้งแต่คุณสมยศขึ้นมาเป็นนายกสมาคม..." และข้อความ "คุณไม่รู้หรอกว่าชีวิตคุณเนี่ย ตั้งแต่เป็น ผบ.ตร.คุณได้สร้างวีรกรรมมาเยอะไปหมดเลย หลายอย่าง ไม่ว่าเป็นคดีบอส อยู่วิทยา โน่นนี่นั่น ซึ่งผมได้เคยพูดเรื่องนี้ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแฟนบอลไทยก็ต้องดีใจเก้อ เพราะล่าสุดประชุมสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งคนของคุณสมยศทั้งนั้น นี่ต้องยืนยันเป็นคนของคุณสมยศทั้งนั้น มีมติเป็นเอกฉันท์ยับยั้งการลาออก ให้ทำหน้าที่ไปจนครบวาระ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 โดยอ้างตามเกมที่คุณสมยศวางหมากไว้ว่า ไม่ให้ไทยต้องเสี่ยงการโดนฟีฟ่าลงดาบ ซึ่งจะถูกห้ามยุ่งกับการแข่งขันระดับนานาชาติทั้งหมด รวมทั้งกิจกรรมของฟีฟ่าประเด็นครับ ในวันลงมติมีคนในที่ประชุมกระซิบผมมาว่าก่อนลงมติบอร์ดสภากรรมการวงแตก หลายคน WORK OUT ขอลาออกรับไม่ได้ที่มีคนชงมติไว้ให้คุณสมยศอยู่ต่อ คนที่ชงมติไว้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย ก็พี่นวยของผมนั่นเองอดีตมิตรตำรวจด้วยกันคือ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน..."
ข้อความต่อมา "ท่านผู้ชมอย่าลืมนะว่าคนคนนี้เป็นคนที่พูดว่า อาชีพตำรวจถือว่าเป็นไซต์ไลน์ อาชีพหลักๆ คือเป็นนักธุรกิจ คุณสมยศคือเสี่ยงิ้วราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในปี 2558... ยังมีอีกประเด็นหนึ่งไปยืมเงินเสี่ยกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าพ่ออาบอบนวด ซึ่งต้องคดีค้ามนุษย์ถึงสี่ครั้ง ไปยืมมา 300 ล้านบาท จนเป็นข่าวฉาวโฉ่ในช่วงนั้น สมยศระบุมาตลอดชีวิตรับราชการเกือบจะเรียกได้ว่า อาชีพตำรวจเป็นไซต์ไลน์ แต่หลักๆ แล้วเค้าทำเรื่องหุ้น พฤศจิกายน 2564 สองปีที่แล้ว กฤษฎีกาตีความว่า พล.ต.อ.สมยศ ได้รับเงินเดือนในตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลโดยมิชอบ เพราะตำแหน่งรวมทั้งกรรมการสมาคมฟุตบอล เป็นงานอาสา งานเสียสละไม่ใช่งานลูกจ้าง จึงไม่สามารถเรียกรับเงินค่าตอบแทนได้แม้แต่บาทเดียว... พอเป็นข่าวก็ออกมาชี้แจง รับเงินเดือนจริงแต่บริจาคกลับไปที่สมาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประเด็นนี้คือว่ามันผิดกฎหมาย คุณจะบริจาคให้ใครไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะตั้งเงินเดือนคุณเอง เพราะงานนี้เป็นงานที่เสียสละ"
นอกจากนี้ ข้อความ "ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์สมาคมฟุตบอล มีบริษัทหนึ่งชนะการประมูลจนได้เข้ามาดูแลนั้น บริษัทดังกล่าว แวดวงในบอกว่าเป็นลูกรักของบิ๊กอ็อด ที่เข้ามาอุ้มชู ปลุกปั้นมาตั้งแต่สมัยเป็นตำรวจ หลายฝ่ายจึงมองว่าการประมูลในครั้งนี้มีการเอื้อประโยชน์แก่กัน ดูตัวอย่าง ตัวอย่างหนึ่ง เราย้อนกลับไปปี 2563 ได้บริษัท เซ้นส์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ไม่มีประสบการในการทำคอนเทนต์เกี่ยวกับกีฬามาก่อน แต่ดันชนะการประมูล ถือครองลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก มูลค่า 12,000 ล้านบาท ตกปีละ 1,500 ล้านบาท สุดท้ายไปไม่รอด ผู้บริหารขาดทุนแบบย่อยยับ ต้องเปลี่ยนผู้ถือครองมาเป็น AIS ทำให้มูลค่าลิขสิทธิ์ตกลงมาเกือบ 4 เท่า เหลือแค่ 400 ล้านบาท ตัดภาพมาตอนปัจจุบันเลย ในเรื่องดราม่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลไทย ที่มีข่าวว่ามูลค่าลดฮวบ จาก 1,000 ล้านบาท เหลือเพียง 50 ล้านบาท ถ้าเราย้อนอดีตไป ลิขสิทธิ์บอลไทยเคยมีรายได้อู้ฟู่ โดยที่กระฉูดที่สุดในช่วงปี 2560 - 2563 ที่ทรูวิชั่น ประมูลค่าลิขสิทธิ์ 4,200 ล้านบาท แบ่งเป็นปี 60 900 ล้านบาท 61 1,000 ล้านบาท 62 1,100 ล้านบาท 63 1,200 ล้านบาท ในช่วงปี 2563 มีปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดโรคโควิด ทรูวิชั่นก็ไม่มี ไม่สามารถจะจ่ายเต็มจำนวนได้ ฤดูกาล 2564 - 65 ค่าลิขสิทธิ์จาก AIS ก็ลดลงเหลือ 800 ล้านบาท ผ่านมาถึงฤดูกาล 2565 - 66 มีรายงานว่าเหลือแค่ราวๆ 300 ล้านบาท"
และข้อความอื่น ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชังๆ ทั้งนี้ จำเลยทั้งสองร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อันมีข้อความหมิ่นประมาทและดูหมิ่นโจทก์โดยการโฆษณา ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 แก้ไข ฉบับที่ 2 มาตรา 16 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 , 328 , 332 , 393 , 91 เหตุเกิดทั่วราชอาณาจักร
จำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด
โดยวันนี้ นายสนธิ จำเลย เดินทางมาฟังคำพิพากษา พร้อม น.ส.อัจฉรา แสงขาว ทนายความ ส่วนโจทก์มีผู้รับมอบอำนาจมาฟังคำพิพากษา โดยศาลไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าฟังคำพิพากษา
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้ว เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการแสดงความคิดเห็นและติชมด้วยความเป็นธรรม มิได้มีเจตนาหมิ่นประมาทจำเลยให้ได้รับความเสียหายพิพากษายกฟ้อง
ภายหลังนายสนธิ กล่าวเพียงว่า ศาลพิพากษายกฟ้องในคดีที่ พล.ต.อ.สมยศ ฟ้องหมิ่นประมาท โดยตนสู้คดีด้วยหลักฐาน ความจริง และมีพยานมายืนยันข้อเท็จจริงทุกคดี ซึ่งพอใจผลคำพิพากษา เพราะชนะคดีก็ต้องพอใจ ยืนยันว่าไม่ใช่คดีแรกในชีวิต ตนเองทำงานสื่อมวลชนมา 50 ปี มีคดีทั้งหมด 246 คดี
ด้าน น.ส.อัจฉรา แสงขาว ทนายความส่วนตัวของนายสนธิ กล่าวว่า ประเด็นที่นายสนธิ กล่าวหา พล.ต.อ.สมยศ เข้าไปช่วยเหลือคดีของ บอส อยู่วิทยา นั้น ศาลได้วินิจฉัยว่า มีการแจ้งคดีของเจ้าตัวที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง แม้จะพิพากษายกฟ้องแต่ก็ยังมีการอุทธรณ์ และมีความเห็นแย้งของอธิบดีของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอยู่ ส่วนประเด็นเรื่องตั้งเงินเดือนตัวเองนั้นมีการตีความของกฤษฎีกาแล้วว่าการขึ้นเงินเดือนของ พล.ต.อ.สมยศ ไม่เป็นไปตามข้อบังคับ และผิด พ.ร.บ.การกีฬา แม้เจ้าตัวจะไม่รับเงินเดือนของตนเอง แต่ปรากฎว่าตัวแทนของนายกสมาคมฟุตบอลคนก่อนอย่าง นายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย คนก่อนหน้า พล.ต.อ.สมยศ และ น.ส.นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย คนปัจจุบัน เข้ามาเบิกความว่า การดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลเป็นการทำงานเพื่อชาติ และไม่มีใครขอขึ้นเงินเดือนอยู่แล้ว ส่วนประเด็นเรื่องตำรวจไซด์ไลน์ นั้น พล.ต.อ.สมยศ ก็เคยออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับประเด็นนี้ไปแล้ว รวมทั้งเรื่องการฮั้วประมูลและเรื่องลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก นั้น ปรากฏว่าเกิดขึ้นในยุคของเจ้าตัวจนทำให้สมาคมการกีฬาเสียหาย รวมถึงเรื่องลำดับขั้นของฟุตบอลไทยลีกที่ในยุคของ พล.ต.อ.สมยศ ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ไทยอยู่อันดับที่ 113 ของโลก ต่อมาจนถึงยุคของ น.ส.นวลพรรณ ก็ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 96 ซึ่งก็เป็นข้อเท็จจริงโดยคำวิจารณ์ของนายสนธิกับเรื่องเหล่านี้อาจจะมีคำพูดไม่สุภาพไปบ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาท
ส่วนประเด็นยุคที่ พล.ต.อ.สมยศ เป็นนายกสมาคมฯ ฟุตบอลมีหนี้สิน 300 ล้านบาท แล้วต้องไปกู้เงินจากฟีฟ่า 5 ล้านเหรียญ อีกทั้ง พล.ต.อ.สมยศ เคยกู้ยืมเงินเสี่ยกำพล 300 ล้านบาท ซึ่งเจ้าตัวก็เบิกความยอมรับในข้อเท็จจริงว่า เคยยืมเงินสูงสุดถึง 1 พันล้านบาท โดยไม่มีการทำสัญญา ดังนั้นการที่จำเลยพูดวิพากษ์วิจารณ์ เป็นการติชมโดยสุจริต พูดในข้อเท็จจริง พร้อมย้ำว่าแม้จะมีคำที่ไม่สุภาพไปบ้างแต่ไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาท ทำให้ศาลพิพากษายกฟ้อง
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี