ครม.ผ่านงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.15 แสนล้าน ใน 481 โครงการ กระจายเงินลงสู่ภูมิภาค เน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน คมนาคม ท่องเที่ยว คาดช่วยให้เกิดการจ้างงานกว่า 7.4 ล้านคน เพิ่มจีดีพี 0.4% นายกฯย้ำต้องตรวจสอบทุกขั้นตอนให้โปร่งใส ประชาชนต้องได้ประโยชน์ทุกบาททุกสตางค์ ขณะที่โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนแล้ว ก่อนเที่ยวจริง 1 กรกฎาคมนี้
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบข้อเสนอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 50 หน่วยรับงบประมาณ จำนวน 481 โครงการ หรือ 8,939 รายการ ภายในกรอบวงเงิน 115,375.27 ล้านบาทเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น และรับมือวิกฤติในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังผันผวน
ทั้งนี้ ประเมินว่าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้ จะทำให้เงินกระจายไปสู่ภูมิภาค มีเงินลงทุนสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง ก่อให้เกิดผลเชื่อมโยงไปยังสาขาเศรษฐกิจต้นน้ำและปลายน้ำ และทำให้เกิดการจ้างงานไม่น้อยกว่า 7.4 ล้านคน วงเงินการจ้างงาน 34,008 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของเงินรวมที่จะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 115,375.27 ล้านบาท โดยคาดว่าจะส่งผลต่อการขยายตัวเศรษฐกิจไทย หรือจีดีพี เพิ่มขึ้น0.4%
สำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น ด้านโครงสร้างพื้นฐาน 34 โครงการ วงเงินรวม 85,000 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ พัฒนาน้ำอุปโภคบริโภค ,ปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพแหล่งน้ำเดิมและพัฒนาระบบกระจายน้ำ,พัฒนาพื้นที่เกษตรน้ำฝน, พัฒนาพื้นที่หน่วงน้ำและการป้องกันน้ำท่วมชุมชนเมือง และโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ปรับปรุงและพัฒนาถนนเชื่อมเมืองรอง, เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางและขนส่ง, พัฒนาโครงข่ายส่งเสริมพื้นที่เกษตรกรรม, ปรับปรุงจุดพักรถบรรทุกเพื่อให้บังคับใช้ได้ตามกฎหมาย เป็นต้น
ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว มี 420 โครงการ วงเงินรวม 10,053 ล้านบาท แบ่งเป็น ปรับปรุงและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สนามกีฬา และสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ห้องน้ำ ห้องพัก สถานที่ ป้ายบอกทาง ,พัฒนาระบบอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว ,พัฒนาและยกระดับความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศโดยเฉพาะในพื้นที่เมืองรอง และยังมีด้านลดผลกระทบภาคการส่งออก เพิ่มผลิตภาพ และดิจิทัล วงเงินรวม 11,122 ล้านบาท เช่น ด้านการเกษตร ด้านแรงงาน ด้านดิจิทัล และ ด้านเศรษฐกิจชุมชน
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้คณะอนุฯ กลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และคณะอนุฯ กำกับและติดตามผลการดำเนินงานตามแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจฯ ดำเนินการติดตาม อย่างใกล้ชิด โดยให้หน่วยรับงบฯ ดำเนินการขอรับ จัดสรรงบฯ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจฯ ตามระเบียบต่อไปและให้กระทรวง/หน่วยงานต้นสังกัดกำกับดูแล ติดตาม และตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยรับงบฯ ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รอบคอบและเกิดความคุ้มค่าต่อเศรษฐกิจ
ขณะที่ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอมา ซึ่งโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งก็อยู่ในงบประมาณดังกล่าว โดยมีการตั้งงบประมาณไว้ในวงเงิน 1,750 ล้านบาท เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเราจึงได้เปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการล่วงหน้า ขณะเดียวกันก็ได้พูดคุยกับทางผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยว่า จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนได้ภายในคืนนี้(24มิ.ย.) และจะเริ่มใช้สิทธิเที่ยวได้จริงในวันที่ 1 ก.ค.นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี